สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สังคม ล้มเหลว เพราะคนชั่วโตเร็วกว่าคนดี

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย บุญลาภ ภูสุวรรณ



จากปี 2489-2552...60 ปีที่ผ่านมาเมืองไทยเปลี่ยนไปอย่างไร

ประชากรจาก 17 ล้านคน เป็น 63 ล้านคน

รายได้ต่อหัวต่อปีจาก 6,600 บาท เป็น 64,500 บาท เพิ่มขึ้น 10 เท่า

คนที่ยังอยู่ใต้เส้นความยากจนจาก 24 ล้านคน ในปี 2529 เหลือ 5 ล้านคน ในปี 2543

ภายใต้ "การปฏิรูปประเทศไทย" ที่ฟีเวอร์ในทุกวงสัมมนา

ต่างบอกว่า ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมถดถอยอย่างรุนแรงท่ามกลางจีดีพีที่เติบโตอย่าง เป็นที่น่าพอใจของรัฐบาล

"นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" แต่ราคาสินค้าอาหารกลับแพงลิ่ว โดยเฉพาะ "ผัก" ทั้งหลายเมื่อเทียบกับราคา "ไข่ไก่" ที่ว่าแพง ไข่อภิสิทธิ์ยังสู้ราคาผักชี ถั่วพู คะน้าไม่ได้เลย แม้แต่กล้วยน้ำว้าปกติราคาหวีละ 20 บาท ตอนนี้เป็น 30 บาท

แม่ค้าใน ตลาดสดบอกว่า พรุ่งนี้จะหยุดปิดร้านเลิกขายผักชั่วคราว เพราะช่วงนี้ผักก็หาซื้อยาก ไปถึงแหล่งซื้อขายอย่างตลาดสี่มุมเมืองมีผักน้อยมาก ซื้อมาก็ต้องคัดของเสีย ๆ เน่า ๆ ทิ้ง กำไรเหลือไม่กี่บาท แม่ค้าบอกว่า สู้อยู่เฉย ๆ ดีกว่าไม่เข้าเนื้อ

ไม่เหนื่อยด้วย

นี่คือสภาพของคนฐานราก

นี่ คือสภาพของวิกฤตอาหารที่ส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

รัฐบาลอย่าหลง ระเริงว่าจีดีพีโต ๆ ลงมาดูคนจนเมืองเขาบ้างว่า เขาอยู่กินกันอย่างไร เกษตรกรแต่ละท้องถิ่นเขามีปัญหา

อะไร และวันนี้ปัญหาโลกร้อนมันกระทบเราอย่างไรบ้าง

ตั้งรับกันหรือยัง ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ให้ตัวเลขของธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ที่ศึกษาเมื่อปีที่แล้วใน 4 ประเทศ

มีไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย พบว่าถ้าไม่ทำอะไรเลย

4 ประเทศนี้จะถูกผลกระทบจากโลกร้อน ทำให้จีดีพีหายไปประมาณ 6% เมื่อเทียบกับทั้งโลก ขณะที่ทั้งโลกถ้าไม่ทำอะไรเลยจีดีพีเฉลี่ยจะหายไป 3%

นอกจากนี้ผล กระทบจากโลกร้อนจะทำให้ทะเลฝั่งอ่าวไทยจะโดนกระหน่ำหนักกว่าด้านอันดามัน โดยน้ำทะเลจะเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อันดามันน้ำทะเลจะน้อยลง ลองนึกดูว่าแถบอันดามันต่างอาศัยทรัพยากรธรรมชาติเพื่อขายแหล่งท่องเที่ยว ถ้าน้ำทะเลน้อยลงแล้วเขาจะทำมาหากินกันแบบไหนอย่างไร

รัฐทำหน้าที่ กันหรือยัง...เรามองกันยาวขึ้นอีกสักนิดจะดีไหม และเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างไร ภายใต้พลวัตโลกที่มันเปลี่ยนโครงสร้างใหม่

รัฐบาลควรจะก้าวข้าม "ทักษิณ" กันได้หรือยัง เราควรที่จะก้าวข้ามโครงการประชานิยมกันเสียทีไหม กิจกรรมอีเวนต์ยักษ์ ๆ ไม่ต้องทำมากนักก็ได้ วันนี้การส่งออกไทยโตมากเพราะฝีมือเอกชนล้วน ๆ ส่งผลให้จีดีพีโตอยู่แล้ว

และ รัฐบาลไม่ต้องแจกเงินมากมาย เพราะวันนี้งบประมาณกระเป๋าฉีกบานทะโรคอยู่ 10 ปี ที่ผ่านมางบประมาณจาก 9 แสนล้านบาท ปี 2554 พรวดพราดขึ้นมาเป็น 2 ล้านล้านบาท รัฐเอาไปใช้อะไรกันหนักหนา หน่วยงานที่ไม่เคยได้งบประมาณก็ได้แต่รอ บางทีรอไม่ไหวก็ต้องไป "ขอสงเคราะห์" จากภาคเอกชนแทนในหลาย ๆ เรื่อง

"เงิน" มันหายไปไหนหมด ! ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้เงินไปต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่แค่ตัวเลขกลม ๆ

แค่ รายจ่ายประจำที่เป็นเงินเดือนข้าราชการ องค์กรใหม่ ๆ ภาระดอกเบี้ยจ่าย (ล่าสุดทะลุปีละ 200,000 ล้านบาท)

และอื่น ๆ โดยเฉพาะงบฯทหารกว่า 186,000 ล้านบาท

เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท ขณะที่รายได้ก็ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท แล้วโครงการลงทุนล่ะจะเอาเงินจากไหน นอกจากกู้มาชดเชยการขาดดุลและก็ทำต่อเนื่องมาหลายปี

และนับวันก็กู้ มากขึ้น

แม้แต่การรับจำนำและรับประกันสินค้าเกษตรทั้งลำไย

มัน สำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว ทำไมพอถึงเวลาขายมักจะบอกว่า สินค้าเสื่อมคุณภาพ บ้างขึ้นรา บ้างมีความชื้น สารพัด...บ้าง

ทั้ง ๆ ที่เคยรับ "จำนำ" มานมนาน แม้ตอนนี้จะเปลี่ยนมาเป็นประกันราคาก็ตาม แต่ผลสุดท้ายเป็นอย่างนี้ทุกปี ข้าราชการ

ที่ทำอยู่ไม่คิดจะแก้ไขกัน บ้างหรืออย่างไร เงินทุกบาททุกสตางค์มีความหมายนะ อย่าใช้เหมือนโยนทิ้ง สินค้าเน่าก็เผาทิ้ง

ทำไมเกษตรกรเขาทำเอง เก็บเอง ทำไม "ของ" เขาไม่เน่า

ไม่เสีย ทีให้รัฐบาลดำเนินการก็เจ๊งทุกที ทั้ง ๆ ที่มีเงิน มีความรู้

มีเครื่องมือพร้อม !

ประเทศไทยกำลัง เข้าสู่ภาวะสังคมล้มเหลว เราสร้างคนดี-คนเก่งไม่ทันคนชั่ว-คนเลวที่เพิ่มขึ้นใช่ไหม สังคมจึงล้มละลาย

Tags : สังคมล้มเหลว คนชั่ว โตเร็วกว่า คนดี

view