สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดเอกสารลับมาก"บิ๊กก.พาณิชย์" อ้างใบสั่ง"บิ๊กรัฐบาล"ขายข้าวสารล้านตัน หึ่ง!เอื้อ 4 บริษัทยักษ์เปิดเอกสารลับมาก บิ๊กก.พาณิชย์ อ้างใบสั่ง บิ๊กรัฐบาล ขายข้าวสารล้านตัน หึ่ง!เอื้อ 4 บริษัทยักษ์

จากประชาชาติธุรกิจ

กรณีกระทรวงพาณิชย์สั่งขายข้าวในสต๊อกจำนวน 1 ล้านตันกำลังถูกตั้งคำถามอย่างมากว่ามีเงื่อนงำหรือไม่? "ทีมข่าว"เปิด "เอกสารลับมาก" ที่ระบุที่มาของเรื่องดังกล่าวดังนี้


  เนื่องจากมีข้อมูลระบุว่า 1.เป็นการขายให้เอกชนรายใหญ่จำนวน 4 รายโดยไม่เรียกผู้ประกอบการรายอื่นเข้าร่วมประมูล 2.การขายครั้งนี้ของ รัฐบาลเป็นการข้าวใหม่ปี 2552 ในทางปฏิบัติควรขายข้าวเก่าก่อน  เพื่อมิให้เกิดปัญหาข้าวเก่าเสื่อมราคา          
"ทีมข่าว"เปิด "เอกสารลับมาก" ที่ระบุที่มาของเรื่องดังกล่าวดังนี้


  เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2553  นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร  ได้ทำหนังสือ "ลับมาก" ถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องอ้างว่า    

สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมพิจารณา เรื่องกรอบยุทธศาสตร์การระบายข้าวสารตามโครงการแทรกแซงของรับบาลเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 และมีมติให้คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายจำหน่ายข้าวสารพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการตามกรอบยุทธศาสตร์รวมถึงปริมาณการจำหน่ายด้วยความระมัดระวังโดย คำนึงถึงผลกระทบต่อภาวะราคาตลาดและให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารเป็นผู้ ดำเนินการและนำเสนอประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารพิจารณาอนุมัติ แล้วเสนอให้ประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติหรือรองประธานกรรมการนโยบายข้าว แห่งชาติ (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนลงนามกับคู่สัญญาต่อไป    

คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารได้มีการประชุมเพื่อ พิจารณาการเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลของบริษัทผู้ส่งออก ซึ่งประกอบด้วยชนิดข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลดังนี้    

(1) ข้าวหอมปทุมธานี นาปี ปี 2551/52 และ นาปรัง ปี 2552

(2) ข้าวเหนียวขาว 10% นาปี ปี 2551/52 และ นาปรังปี 2552

(3) ข้าวขาว 5% นาปรัง ปี 2551 นาปี ปี 2551/52 และ นาปรัง ปี 2552     โดยคณะทำงานฯได้เจรจาต่อรองกับผู้เสนอราคาซื้อข้าวสารดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วและได้นำเสนอผลการเจรจาต่อรองต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสารเพื่อพิจารณาอนุมัติและนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) รองประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป 


            กรมการค้าต่างประเทศขอเรียนว่ารองนายกรับมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ในฐานะรองประธาน กขช.ได้ให้ความเห็นชอบการจำหน่ายข่าวสารในสต๊อกของรัฐบาลตามชนิดและโครงการ รับจำนำข้าวเลปือกของรัฐบาล ตามข้อ (1)-ข้อ (3) ในส่วนของคลังสินค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกรดัง นี้ 
    
1.ข้าวหอมปทุมธานี   เห็นชอบให้จำหน่ายข้าวหอมปทุมธานี นาปี ปี 2551/52 และนาปรัง ปี 2552 เมือ่วันที่ 28 กรกฎาคม 2553 โดยมีรายละเอียดรายชื่อบริษัท  ชนิด และปริมาณข้าว ราคาจำหน่าย  และคลังสินค้า รวม 7 คลัง ตามเอกสาร 1     2.ข้าวเหนียวขาว 100%  
  เห็นชอบให้จำหน่ายข้าว เหนียวขาว 10% นาปี ปี 2551/52 เมื่อวันที่ 6 าสิงหาคม 2553 โดยมีรายละเอียดรายชื่อบริษัท ชนิด และปริมาณข้าว ราคาจำหน่าย และคลังสินค้า รวม 1 คลัง ตามเอกสาร 2 
    
3.ข้าวขาว 5% 
   เห็นชอบให้จำหนย่า ยข้าวขาว 5% นาปรัง ปี 2551 ,นาปี ปี 2551/52 และ นาปรัง ปี 2552 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 โดยมีรายละเอียดรายชื่อบริษัท ชนิด และปริมาณข้าว  ราคาจำหน่าย และคลังสินค้า รวม 18 คลัง ตามเอกสาร 3     ในการนี้ขอให้.....ดำเนิน การตามทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทตามข้อ 1-3 โดยถือปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในข้อ 10-12 ตามหนังสือกรมการค้าต่างประเทศด่วนที่สุด ที่ พณ 0307/ว.598 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 อย่างเคร่งครัด (เอกสาร4) โดยในส่วนของเงื่อนไขการรับมอบและขนย้าย  รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) มีบัญชาให้บริษัทรับและขนย้ายข้าวสารตามข้อ 1-2 ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วันนับตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขาย และ ตามข้อ 3 ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขาย

ทั้ง นี้ให้เป็นการดำเนินการในทางลับจนกว่าจะมีการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังสินค้า เพื่อประโยชน์ของทางราชการ และเมื่อได้ดำเนินการทำสัญญาแล้วขอให้ส่งมอบสำเนาสัญญาพร้อมเอกสารประกอบ สัญญาให้กรมการค้าต่างประเทศทราบด้วย  


จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป จะขอบคุณมาก   นายมนัส สร้อยทอง   อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร     ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวยังแนบ หนังสือด่วนที่สุดที่ พณ 0307/ว.598 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ที่อ้างข้างต้น ส่งให้หน่วยงานด้วย


พาณิชย์ขายข้าวล้านตันฉลุย แบ่งเค้กแค่"3ราย"ที่เหลือโวย


จากประชาชาติธุรกิจ




วง การค้าข้าวโวยลั่น หลังกระทรวงพาณิชย์ขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลกว่า 1 ล้านตัน ทั้งข้าวหอมปทุม-ข้าวขาว-ข้าวเหนียว ให้กับผู้ส่งออกข้าวเพียง 3-4 รายโดยไม่มีการเปิดประมูล ด้านกรมการค้าต่างประเทศ-ปลัดกระทรวง "อ้อมแอ้ม" ตอบอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ พิลึกแถมบอก กระทรวงไม่มีหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับใคร



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานจากวงการค้าข้าวเข้ามาว่า ในขณะนี้ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการดำเนินการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ของกระทรวงพาณิชย์เข้ามามาก หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ผู้ส่งออกเสนอซื้อ ข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเพื่อการส่งออก ซึ่งมีอยู่ราว 5.6 ล้านตันอย่างเงียบ ๆ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยไม่มีการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป

ล่าสุดมีข่าว เข้ามาว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตกลงขายข้าวประมาณ 1 ล้านตันให้กับ ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เพียง 3-4 รายใหญ่ อาทิ บริษัทนครหลวงค้าข้าว, บริษัทเอเชียโกลเด้นไรซ์, บริษัทข้าวไชยพร และบริษัทเจียเม้ง เป็นข้าวหอมปทุมธานี ราคาตันละ 17,000 บาท, ข้าวขาว 5% บางส่วนในราคาตันละ 12,000 บาท และข้าวเหนียวในราคาตันละ 20,000 บาท โดยขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอคณะอนุกรรมการด้านการตลาดข้าว ซึ่งมีนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน "อนุมัติ" โดยมีการเรียกรับ "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" กระสอบละ 100-150 บาท ซึ่งหากขายข้าว 300,000 ตันก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายพิเศษเป็นเงินประมาณ 300 ล้านบาท

"กระทรวง พาณิชย์เปิดให้ผู้ส่งออกข้าวบางรายเสนอราคาซื้อเข้ามาอย่างเงียบ ๆ บางรายไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการเปิดขาย อย่างนี้จะเรียกว่ารัฐบาลได้ประโยชน์อย่างไร เพราะมันไม่ได้มีการแข่งขันเสนอราคา พอรู้อีกทีก็อนุมัติขายข้าวไปแล้ว ตอนนี้เข้าใจว่าอยู่ระหว่างทำสัญญา จึงยังไม่กระทบราคาตลาด

นอกจาก นี้ราคาขายยังต่ำกว่าราคาประมูลครั้งก่อน อย่างข้าวขาวประมูล 16,000 บาท ยังไม่ขายเลย อย่างนี้ไม่ยุติธรรม ส่วนการจะให้แสดงใบออร์เดอร์ส่งออกหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะหลักฐานแบบนี้ทำกันเองได้ง่ายมาก" แหล่งข่าวกล่าว

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้ส่งออกข้าวทั้งรายเล็กและรายใหญ่หลายราย ซึ่งให้ข้อมูลออกมาในลักษณะแตกต่างกัน โดยบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ยืนยันว่า ไม่ทราบข่าวเรื่องการเปิดขายข้าวดังกล่าวเลย ส่วนบริษัทนครหลวงค้าข้าว ก็ตอบคำถามเพียงสั้น ๆ ว่า "ไม่ทราบข้อมูล"

ด้าน นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ดำเนินยุทธศาสตร์ขายข้าว โดยจะต้องไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวในตลาดและข้าวในมือเอกชน โดยต้องเร่งระบายข้าวภายในระยะเวลา 3 เดือนก่อนที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาดและเป็นช่วงที่ประเทศ คู่แข่งก็ไม่มีสินค้าเช่นเดียวกัน

"ตอนนี้เหลือ 2 เดือนถือว่ายังอยู่ในกระบวนการขายข้าว เป็นช่วงที่เหมาะสมจะขาย โดยยุทธศาสตร์การระบายข้าวมี 5 วิธี เช่น ประมูล เสนอซื้อ จีทูจีหรือบริจาค ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก แต่ถ้าใช้วิธีประมูลตลาดมันจะเละเลย รัฐบาลไม่ต้องการให้กระทบตลาดไม่ให้กระทบข้าวในมือเอกชน ส่วนจะใช้วิธีเสนอซื้อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับระดับนโยบาย

สำหรับวิธี การเสนอซื้อไม่ต่างจากการประมูล เช่น ต้องทำให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 5% ต้องมีราคาเกณฑ์ การแข่งขันราคารายเล็ก-ใหญ่ ก็คงให้คน ที่มีประสิทธิภาพในการส่งออก ข้าวมันเยอะคงไม่เป็นไร แต่เราพยายามไม่ให้เป็นข่าว เพราะยิ่งปิดข่าวราคายิ่งขึ้น" นายมนัสกล่าว

อย่าง ไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกข้าวในช่วง 7 เดือนแรกจะได้เพียง 4-5 ล้านตัน แต่หลังจากนี้มีแนวโน้มความต้องการข้าวจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ยอดส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 8-9 ล้านตันได้

โดยขณะนี้มี รัฐบาลหลายประเทศติดต่อสอบถามสนใจซื้อข้าวไทย เช่น รัฐบาลบังกลาเทศ ต้องการซื้อข้าวนึ่งปริมาณ 200,000 ตัน กำลังดำเนินการเจรจาด้านราคาอยู่ ซึ่งหากเป็นชนิดข้าวที่รัฐบาลไม่มีก็จะแลกเปลี่ยนกับข้าวของเอกชน

นอก จากนี้ยังมีฟิลิปปินส์ อิหร่าน และอิรัก ก็แสดงความสนใจเข้ามา ขณะที่ปริมาณความต้องการขายในตลาดโลกจะลดลง หลังจากเวียดนามขายข้าวหมดแล้ว 5 ล้านตัน

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในการประชุมสมาชิกสมาคมในสัปดาห์หน้าอาจจะมีสมาชิกหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา หารือ

เพราะทางสมาคมไม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดเสนอซื้อ ข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเหมือนกับการประมูลทุกครั้ง ดังนั้นหากสมาชิกตั้งข้อสังเกตขึ้นมาก็อาจจะทำหนังสือสอบถามข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวมายังกระทรวงพาณิชย์

"หากมีการเปิดเสนอซื้อ ข้าวจริง แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่แจ้งข้อมูลให้ทราบทุกราย ก็จะไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล เพราะไม่เกิดการแข่งขันเสนอราคาซื้อ ทั้งที่ขณะนี้เป็นช่วงขาขึ้นของตลาดข้าวหลายประเทศ ผู้ผลิต เช่น ปากีสถาน จีน ประสบปัญหาอาจจะมีปริมาณลดลง และเวียดนามขายหมดแล้ว ถึงจะไม่เปิดประมูลก็ควรจะแจ้งให้ผู้ประกอบการทุกรายทราบ เพื่อจะได้มีโอกาสจะร่วมเสนอซื้อเหมือนกัน" นายชูเกียรติกล่าว

นาย ยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการระบายสต๊อกข้าวก่อนเดือนตุลาคม โดยผลสรุปจะเป็นอย่างไรต้องเสนอให้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีทราบก่อน คงจะต้องเร่งระบายให้ทันภายในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนที่ผลผลิตข้าวใหม่จะออกสู่ตลาด

"คำถามที่ว่ามีการแจ้งให้เสนอ ราคา ซื้อโดยไม่มีการแข่งขันนั้นโจทย์ของกระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ต้องระบายข้าว ให้ได้เร็วก่อนที่ผลผลิตใหม่จะออก ไม่ได้มีหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับใคร ราคา ที่ได้จะเป็นไปตามเกณฑ์ที่มีอยู่ ซึ่งคำนวณจากราคาจำนำและราคาตลาด" นายยรรยงกล่าว

Tags : เปิดเอกสารลับมาก บิ๊กก.พาณิชย์ อ้างใบสั่ง บิ๊กรัฐบาล ขายข้าวสาร ล้านตัน เอื้อ 4 บริษัทยักษ์

view