สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ย้อนอดีตโพธาราม กับ วิกครูทวี

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : กนกพร โชคจรัสกุล


แม้จะออกตัวว่าเป็นจุลทริป เพราะไม่ใช่กลุ่มใหญ่เหมือนอย่างหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ทริปเล็กๆ นี้ก็อบอุ่นด้วยน้ำจิตน้ำใจ
หลังจากประสบความสำเร็จจาก โครงการน่านนิรันดร์ฯ จ.น่าน และกระบี่บาดเลนส์ฯ จ.กระบี่ กลุ่มช่างภาพทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นที่รวมตัวกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมในนามกลุ่ม "สห+ภาพ" โดยมี จิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรท์ และธีรภาพ โลหิตกุล นักเขียนสารคดีชื่อดังเป็นหัวเรือใหญ่ ก็ชวนกันไปถ่ายภาพที่อำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อส่งมอบคืนให้ท้องถิ่นได้ใช้ประโยชน์ โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่วิกครูทวี และอาคารบ้านเรือนอายุ 200 กว่าปีที่ยังคงมีชีวิตชีวา
 

แม้จะออกตัวว่าเป็นจุลทริป เพราะไม่ใช่กลุ่มใหญ่เหมือนอย่างหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ทริปเล็กๆ นี้ก็อบอุ่นด้วยน้ำจิตน้ำใจของบรรดาช่างภาพที่อาสามาทำงานรวมกัน โดยครั้งนี้ใช้รถไฟเป็นพาหนะในการเดินทาง

เมืองโพธาราม ตั้งอยู่ริมฝั่งคุ้งแม่น้ำแม่กลอง พัฒนาจากชุมชนเล็กๆ จนกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสินค้าและจุดพักจอดเรือขึ้นล่องจาก จ.ราชบุรีสู่บ้านโป่งและเมืองกาญจน์ เป็นชุมชนเก่าแก่อายุมากกว่า 200 ปี เดิมเรียกว่าแขวงเจ็ดเสมียนขึ้นตรงต่อเมืองราชบุรี ต่อมาปี พ.ศ.2438 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำแม่กลอง อันเป็นชุมชนขนาดใหญ่มีบ้านเรือนร้านค้าหนาแน่น มีต้นโพธิ์ขึ้นอยู่ในวัดทุกวัด จึงได้รับขนานนามว่า "โพธาราม" (ต้นโพธิ์+ อาราม) ในตลาดโพธารามมีชาวจีนอาศัยอยู่มาก รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสหลายครั้งจนมี “ถนนทรงประพาส” กำหนดไว้เป็นมิ่งมงคล
 

สำหรับการเดินทางมาเพื่อบันทึกภาพครั้งนี้ เป้าหมายสำคัญคือการหวนรำลึกวิถีชาวโพธารามผ่านบ้านเรือนและตลาดเก่า โดยเกิดจากการชักชวนของชมรม "อย่าลืม…โพธาราม" ที่มองเห็นว่ากลุ่มอาคารไม้ 2 ชั้น ขนาด 3 ห้อง อายุเกือบร้อยปี บริเวณตลาดบนหัวมุมถนนท่านัด ตัดกับถนนโพธารามเป็นอาคารเรือนไม้โบราณที่สุดของโพธาราม กำลังอยู่ในสภาพทรุดโทรมพร้อมพังถล่มลงมาได้ตลอดเวลา ควรได้รับการบูรณะซ่อมแซมโดยเร็ว จึงติดต่อไปยังเจ้าของกรรมสิทธิ์คนปัจจุบันเพื่อขออนุญาตปรับปรุงซ่อมแซมและขอเช่าพื้นที่เป็นที่ทำการชมรม
 

เมื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์อนุญาต ทางชมรมจึงตั้งชื่อกลุ่มอาคารว่า "บ้านแม่เลขา" อันเป็นนามของมารดาเจ้าของกรรมสิทธิ์และใช้เป็นที่ตั้งชมรมเพื่อทำกิจกรรมอนุรักษ์วิถีชีวิต วัฒนธรรม ศิลปะดั้งเดิมของชาวโพธาราม
 

ในย่านนี้จุดเด่นที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็น “วิกครูทวี” ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์เก่าสมัยรัชกาลที่ 6 ของเมืองโพธาราม เริ่มต้นมาจาก ครูทวี หรือ ทวี แอคะรัด ผู้มีอาชีพครูแต่รักชอบการถ่ายภาพบุคคลและสนใจจนถ่ายภาพยนตร์ 16 มม.ได้สร้างห้องโรงหนังขึ้นที่บริเวณตลาดกลางบริเวณตึกแถวของคุณเล็ก-เธียระ ก่อนย้ายมาตั้งอยู่ ณ ที่ปัจจุบัน โดยเริ่มแรกเป็นเพียงห้องแถวไม้ 10-15 นำฝาออกกลายเป็นห้องยาวๆ 1 ห้อง ตั้งจอไว้ทางทิศเหนือ มีเก้าอี้ไม้ยาว ประตูบานเฟี้ยม ใช้เป็นที่เล่นละครร้องมาหลายสิบปี ต่อมาได้สร้างเป็นอาคารถาวรคอนกรีตเสริมเหล็กในปี 2501
 

ลูกชายครูทวีนามว่า ธีระ แอคะรัด ก็นิยมชมชอบถ่ายรูปถ่ายหนังเช่นกัน เขากลายเป็นตากล้องถ่ายหนังหลายเรื่อง ที่โด่งดังสร้างชื่อเสียงให้คือ เห่าดง และ มนต์รักลูกทุ่ง
 

วิกครูทวี ดำเนินกิจการมาเรื่อยๆ จนยุติบทบาทไว้ที่ ค่าตั๋วเข้าชมชั้นล่าง 7 บาท ชั้นบน 15 บาท เพราะไม่สามารถต่อสู้กับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปได้ และต้องปิดตัวเองลงเมื่อกรกฎาคม 2541 แต่ทุกอย่างของที่นี่ยังคงอยู่ครบ อุปกรณ์ฉายหนังและฟิล์มยังคงค้างอยู่ที่เครื่องฉาย ทางชมรมฯ จึงได้ติดต่อขอเช่ากับเจ้าของปัจจุบัน เพื่ออนุรักษ์ ปรับปรุง ใช้วิกครูทวีเป็นศูนย์กิจกรรม ศูนย์เรียนรู้เรื่องราวศิลปะ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนโพธารามให้กับอนุชนรุ่นหลังต่อไป
 

สำหรับผู้สนใจสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคย้อนอดีตกับวิกครูทวี วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคมนี้จะมีจัดกิจกรรม “คืนภาพถ่ายสู่ชุมชนชาเทศบาลโพธาราม” อันเป็นงานแสดงภาพถ่ายของกลุ่มสห+ภาพ ที่ได้ลงพื้นที่เก็บภาพวิถีชีวิตทุกซอกทุกมุม พร้อมกันนั้นยังได้จัดกิจกรรมย้อนยุคต่างๆ ของชุมชนโพธารามไว้ให้ชมด้วย

Tags : ย้อนอดีตโพธาราม วิกครูทวี

view