จากประชาชาติธุรกิจ

ลาว ไม่เพียงเป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทย แต่ยังเป็นดาวเด่นในอาเซียนที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทั้งยังได้อานิสงส์จากการมุ่งสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งผลักดันให้ลาวก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในฐานะประตูเชื่อมโยงภูมิภาค ไม่ใช่สมาชิกเล็ก ๆ ของบ้านอาเซียนเหมือนในอดีตอีกแล้ว

น่าสนใจว่า ลาวเพิ่งปรับกฎหมาย ส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยประกาศใช้เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทั้งยังประกาศให้ ปี 2555 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวลาว รวมถึงปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศจากเดิมที่เป็น land lock ให้เป็น land link ที่เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งต่าง ๆ และสามารถออกสู่ทะเลได้ ทำให้ลาวกลายเป็นโอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนต่างชาติ

กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ จึงได้จัดสัมมนา "โอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจใน สปป.ลาว : กฎหมายส่งเสริมการลงทุนปี 2552 และปีท่องเที่ยวลาว" โดยเชิญวิทยากรจากลาวมาร่วมบรรยาย

นายกิดสะหนา วงไซ ประธานสภา การค้าและอุตสาหกรรม สปป.ลาว เปิดประเด็นว่า ลาวกำลังก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ แม้จะไม่มีทางออกสู่ทะเล (land lock) แต่ตอนนี้ลาวกำลังเปลี่ยนสู่การเป็น land link ที่เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นจีน เวียดนาม ไทย นับเป็นการเปลี่ยนจุดด้อยให้กลายเป็นจุดแข็ง ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้า และทำให้ลาวกลายเป็นจุดเชื่อมการขนส่งในภูมิภาคนี้ อีกทั้งลาวยังได้เปรียบเรื่องสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ทำให้หลายประเทศสามารถใช้จุดนี้ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งไปขายยังต่างประเทศ ได้ ในฐานะเพื่อนบ้าน นี่ถือเป็นโอกาสของ นักลงทุนไทยด้วย เพราะไม่มีอุปสรรคเรื่องภาษา และมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน

ทั้ง นี้รัฐบาลลาวตั้งเป้าที่จะทำให้ เศรษฐกิจเติบโตในระดับ 8% ต่อปี ซึ่งต้องมีการลงทุน 32% ของจีดีพี จึงจะเพียงพอต่อการเติบโตในระดับนี้ อย่างไรก็ตามลาวยังมีข้อจำกัดในเรื่องตลาดที่ยังมีขนาดเล็ก รวมทั้งมีแรงงานมีฝีมือจำนวนจำกัด

สำหรับธุรกิจที่ลาวต้องการให้ เข้าไปลงทุน ได้แก่ การลงทุนสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งลาวมีศักยภาพในเรื่องนี้ รวมถึงมีพื้นที่เหมาะแก่การเกษตรกรรม ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ภาคการผลิต รวมถึงการศึกษา ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาฝีมือแรงงานในอนาคต

นางทัมมา เพ็ดวิไซ รองอธิบดีกรม ส่งเสริมการลงทุน กระทรวงแผนการและการลงทุนของลาว ระบุว่า ลาวได้ปรับกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ หลังจากใช้มาตั้งแต่ปี 2531 โดยได้รวมกฎหมายส่งเสริมการลงทุนสำหรับนักลงทุนในประเทศและต่างชาติมาไว้ใน ฉบับเดียวกัน จึงไม่มีความแตกต่างระหว่างการลงทุนของคนลาวและชาวต่างชาติ และกฎหมายส่งเสริมการลงทุนของลาวเป็นกฎหมายระดับประเทศ ไม่มีการออกกฎหมายในระดับแขวงอีก

กฎหมายฉบับใหม่ได้ปรับให้การลงทุน ในกิจการทั่วไปไม่มีกำหนดเวลา แต่หากเป็นกิจการสัมปทาน อาทิ พลังงานไฟฟ้า เหมืองแร่ ที่ดิน จะกำหนดระยะเวลาแตกต่างกัน สูงสุดไม่เกิน 99 ปี อีกทั้งเปิดให้ นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุน 5 แสนดอลลาร์ขึ้นไปสามารถซื้อที่ดินสำหรับอยู่อาศัยได้

นอกจากนี้ยัง ปรับให้การยื่นเอกสารใช้เวลารวดเร็วขึ้น รวมทั้งมีบริการแบบครบวงจรในจุดเดียว (one stop service) และลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตลงทุนให้ เหลือเพียงใบเดียวจากเดิม 3 ใบ

ลาว ยังส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาทิ พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจด้านไอที ด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม ซึ่งจะมีการจัดสรรพื้นที่และมีนโยบายพิเศษโดยเฉพาะ รวมถึงมีการแบ่งเขตการลงทุนเป็น 3 เขต ได้แก่ เขต 1 พื้นที่ห่างไกล เขต 2 มีโครงสร้างพื้นฐานดี และเขต 3 เขตตัวเมือง ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีกำไรและสิทธิประโยชน์ที่ แตกต่างกันในแต่ละเขต

นาง ทัมมาระบุด้วยว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนของลาวในปี 2554-2558 จะเน้นอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ส่วนด้านการเกษตรก็ยังเปิดกว้าง เพราะมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสม และประชาชนลาวก็มีความรู้ในเรื่องเกษตรกรรม รัฐบาลจึงให้การส่งเสริมด้านการเกษตร และ ส่งเสริมการลงทุนแบบ contract farming หรือที่เรียกว่า 2 + 3 คือ ลาวมีที่ดินและแรงงาน ส่วนบริษัทต่างชาติมีทุน การตลาดและเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันลาวกำลังเน้นการเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่มและเน้นการ ส่งออก รวมถึงสินค้าเกษตรแบบออร์แกนิก