สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

3 ปมร้อนเรื่องฉาวมหาดไทยปัญหาที่รอคำตอบและแก้ไข

จาก โพสต์ทูเดย์

3 ปมร้อนนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนตาดำๆ ต้องการคำตอบและต้องการรอการแก้ไขจากกระทรวงมหาดไทยอยู่  เพราะทุกเรื่องของกระทรวงมหาดไทยย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางตรงและทาง อ้อม....

โดย...ชลธิชา เหลิมทอง

ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในกระทรวงมหาดไทย แม้ช่วงนี้อาจจะดูเงียบเหงาไม่ค่อยปรากฎข่าว(ฉาว)เท่าใดนักหลังจากที่มีการ แต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเสร็จไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วที่มีการ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมในตัวบุคคลบางจังหวัดอยู่บ้าง   แต่ก็ได้เงียบหายไปพร้อมกับเวลาและการเปลี่ยนปีงบประมาณใหม่ 2554  

แต่ดูเหมือนว่าความเงียบที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนความเงียบแบบภูเขาน้ำแข็ง ที่รอวันปะทุได้ทุกเมื่อ เพราะวันนี้ปมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ส่อว่าจะทุจริตในกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ ลุล่วงแต่อย่างใด  และกำลังรอการสะสางแก้ไขอยู่   โดยปัญหาที่ว่านั้นประกอบไปด้วย

1.โครงการเช่าคอมพิวเตอร์กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 3,490 ล้านบาท    ที่ดูเหมือนว่า  “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”  นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับโครงการนี้  หลังจากที่กรมการปกครองที่มี “มงคล สุระสัจจะ”  เป็นอธิบดี  ได้ลงนามโครงการดังกล่าวกับบริษัทคอนโทรล ดาต้า ประเทศไทยจำกัด  เมื่อวันที่ 11 ก.ย.  ทั้งที่โครงการดังกล่าวถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีความไม่โปร่งใส เพราะไม่ทำตามข้อกำหนดขอบข่ายงาน(ทีโออาร์)  เสมือนการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนเพียงรายเดียว  อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  กรมบัญชีกลาง  สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน   จนทำให้ “อภิสิทธิ์” ชะลอการทูลเกล้าฯ  “มงคล”  ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยออกไปก่อน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าจนกว่าเรื่องคอมพ์ฉาวจะกระจ่าง 

จากนั้นทางกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโครงการดังกล่าว โดยมี  “วิบูลย์ สงวนพงษ์”   อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นประธาน  ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวนัดประชุมเป็นครั้งแรกวันนี้ (5ต.ค.) ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป  อย่างไรก็ตามเรื่องนี้หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะกรรมการชุดดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นคนในกระทรวงมหาดไทย อาจจะไม่มีใครกล้าโหวตเอผิดผู้บังคับบัญชา เพราะขณะนี้ “มงคล” ยังเป็นว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยอยู่

2.โครงการจัดทำบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์แบบอเนกประสงค์ หรือบัตรสมาร์ทการ์ด    ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้วัยรุ่นเซ็งที่สุด เพราะทุกวันนี้อายุครบ 15 ปี ตั้งใจไปทำบัตรสมาร์ทการ์ด แต่กลับไปได้ใบเหลืองแบบย้อนยุคหลายสิบปีแทนไป   โดยบัตรเหลืองที่กระทรวงมหาดไทยให้ประชาชนถือแทนบัตรสมาร์ดอยู่ในขณะนี้ นอกจากจะเชยแล้วการพกพายังทำได้ลำบาก  เสี่ยงต่อการฉีกขาดได้ทุกเมื่อบางคนถึงกลับต้องไปบัตรดังกล่าวไปเคลือบและ ใส่กระเป๋าเป้(ไม่ใช่กระเป๋าสตางค์) เพื่อไปเข้าผับไปแล้ว  อีกทั้งยังไม่สะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ เพราะธนาคารต่างไม่คุ้นกับการใช้บัตรเหลืองมากนัก

ปมปัญหาในเรื่องนี้ ผสมกันระหว่างเรื่องทางเทคนิคกับเรื่องการเมือง  เมื่อกรมการปกครองสมัยที่ “มงคล  สุระสัจจะ” เป็นอธิบดี ไม่ยอมรับงานที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกแบบร่วมกันกับ กรมปกครองสมัยที่มี “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์” เป็นอธิบดี   โดยอ้างว่าบัตรดังกล่าวไม่เป็นไปตามสเปคที่ระบุไว้ในกระทรวงมหาดไทยที่ระบุ ว่าบัตรประชาชนต้องมีเพียง 2 สีเท่านั้น คือ สีฟ้า กับสีขาว   แต่บัตรรุ่นที่ “วงศ์ศักดิ์” ออกแบบมีสีแดงพาดผ่านถือว่าผิดสเปค

ขณะที่ “วงศ์ศักดิ์” ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะอธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้ออกแบบบัตรโดยตำแหน่ง  บอกเหตุผลถึงการมีเส้นสีแดงว่า เป็นเส้นไมโครเท็กซ์ที่เอาไว้ป้องกันการปลอมแปลง เพราะเส้นดังกล่าวจะพาดผ่านรูปเจ้าของบัตรประชาชน  หากใครจ้องสวมรอยโดยเอารูปของเจ้าของบัตรเก่าออกก็จะรู้ทันทีว่าเป็นบัตร ปลอม  พร้อมกับชี้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการหาเหตุหาเรื่องของฝ่ายการเมืองใน กระทรวงที่ต้องการล้มโครงการดังกล่าวเพื่อจัดทำโครงการใหม่ทั้งหมดมูลค่า เกือบ 2 พันล้านบาท โดยย้ำว่าเหตุที่ตัวเองถูกเด้งเป็นผู้ตรวจฯภายใน 24 ชั่วโมง เพราะขัดขวางการล้มโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ในเชิงเทคนิคแล้ว  การระบุว่าบัตรดังกล่าวผิดสเปคไม่สามารถตรวจรับได้เสมือนเป็นการเอาความ ทุกข์ของประชาชนเป็นตัวประกัน เพราะเส้นสีแดงที่พาดผ่านบัตรเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเพื่อป้องกันการปลอม แปลง    เพราะหากบัตรรุ่นนี้ผิดบัตรรุ่นอื่นๆที่ใช่กันก่อนหน้านั้นก็ผิดด้วย เพราะประกอบด้วย สีน้ำเงิน สีแดง เนื่องจากมีรูปธงชาติไทย ไม่เช่นนั้นถือเป็นการเลือกปฏิบัติ แต่หากทำแบบนี้ประชาชนจะเดือดร้อนทั่วประเทศ  ดังนั้น จึงอยากให้ฝ่ายการเมืองเดินหน้าไม่ควรทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เพื่อ ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนมากไปกว่านี้

ขณะที่เชิงการเมืองแล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์วิเคราะห์กันอย่างหนาหูย่าน คลอดหลอดว่า   เรื่องนี้เป็นปัญหาระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อแผ่นดินที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมากันมาตลอดทั้งเรื่องงบประมาณและการทับซ้อนกันในพื้นที่เลือกตั้งโคราช ที่ “บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” ของภูมิใจไทย ต้องเข้าขับเคี่ยวต่อสู้ชนิดที่เรียกว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน กับ  “ว่าที่ ร.ต. ไพโรจน์ สุวรรณฉวี” จากเพื่อแผ่นดิน” เพราะพื้นที่โคราชเป็นจังหวัดที่มีส.ส.มากเป็นอันสองรองจากกรุงเทพฯเลยที เดียว จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้และมีการโหวตสวนตบหน้ากันมาแล้ว  โดยเหตุที่บัตรสมาร์ทการ์ดเจ้าปัญหาต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เพราะบริษัท วี-สมาร์ท ที่ได้รับสัมปทานจัดทำบัตรดังกล่าว  เป็นขอ“วัชรี พรรณเชษฐ์” น้องสาวของ “วัชระ พรรณเชษฐ์” อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน นั่นเอง   พรรคภูมิใจไทยซึ่งกำกับกระทรวงมหาดไทยจึงกระทบชิ่งด้วยการยกเลิกโครงการดัง กล่าวด้วย เพื่อหาสัมปทานรายใหม่  ที่พรรคภูมิใจไทยเองก็มีคอนเนคชั่นอยู่เพียบ โดยเฉพาะ กลุ่มสามารถไอโมบาย   ต้องติดตามว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร  

เนื่องความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องนี้ยังมีความสับสนเป็นอย่างมาก  โดย “ชวรัตน์ ชาณวีรกุล” รมว.มหาดไทย ระบุว่า รอการประสานจากกระทรวงไอซีที ของรัฐมนตรี  “จุติ ไกรฤกษ์”อยู่ แต่จนแล้วจนรอดยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการนัดหมายหารือทางออกร่วมกัน ดังกล่าว   ขณะที่ “ขวัญชัย  วงศ์นิติกร”  รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ขณะนี้กำลังให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบความถูกต้องของบัตรที่ออกแบบไปใหม่ ตามกฎกระทรวงที่ระบุว่าให้มีแค่สีขาว สีฟ้าเท่านั้น แต่  “คุณพรทิพย์ จาละ” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่ายังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวจากกระทรวง มหาดไทยแต่อย่างใด  ด้าน “มงคล สุระสัจจะ”  ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย  และอดีตอธิบดีกรมการปกครอง ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ จนกว่าเรื่องตำแหน่งของตัวเองที่มีปัญหาตอนนี้จบลงก่อน

3. ปัญหาเรื่องการแต่งตั้งนายอำเภอ ที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.)ของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)มี มติเอกฉันท์ให้มีการยกเลิกการแต่งตั้งนายอำเภอ 41 ราย ที่ลงนามโดย “มานิต วัฒนเสน” อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีการลงนามตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2553   โดยเรื่องผ่านมาแล้วเกือบ 2 เดือนกลับไม่มีความคืบหน้า  โดย “มานิต” ระบุว่า  กำลังรอคำตอบจาก ก.พ.ว่ากระทรวงมหาดไทยต้องดำเนินการอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่ล่าสุด  “เบญจวรรณ สร่างนิทร”  เลขาธิการสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ได้ลงนามในหนังสือเวียนถึงกระทรวงมหาดไทย ให้มีการเปิดตำแหน่งเฉพาะให้กับนายอำเภอ (นอภ.) ที่ถูกฟ้องว่าคัดเลือกมาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายตามที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบ คุณธรรมข้าราชการ(ก.พ.ค.) มีมติว่าการสอบคัดเลือกนายอำเภอ 41 ราย ไม่เป็นไปตามกฎหมาย    จากนั้นให้ดำเนินการสอบคัดเลือกใหม่ โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการทันที หากไม่ดำเนินการตามนี้จะขัดต่อ พ.ร.บ.บริหารข้าราชการพลเรือนมาตรา9  ว่าด้วยเรื่อง กรณีที่ ก.พ. มีมติว่ากระทรวง กรม หรือผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นจะถูกฟ้องร้องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้

อย่างไรก็ตามทางกระทรวงมหาดไทยยังไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ เพราะยังมีความสับสนเรื่องตำแหน่งรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยอยู่ ว่าจะมีอำนาจสั่งการใดๆ ได้หรือไม่  ต้องติดตามว่าการแก้ไขปัญหานี้จะจบลงอย่างไร

นอกจากนี้เมื่อวันที่  30 ก.ย.ที่ผ่านมา  “กล้านรงค์ จันทิก” โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ระบุว่า  กรณีการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ  ประจำปี 2552 ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับการร้องเรียนมีมูลที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ จึงเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด145 คน ให้ทยอยเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป ที่สำนักงานป.ป.ช. จากนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน  ต้องจับตาเรื่องนี้เช่นกันว่าจะสามารถเอาผิดผู้ที่ก่อให้เกิดการทุจริตตัว จริงได้หรือไม่อย่างไร 

ทั้งหมดนี้เป็น 3 ปมร้อนที่ประชาชนตาดำๆ ต้องการคำตอบและต้องการรอการแก้ไขจากกระทรวงมหาดไทยอยู่  เพราะทุกเรื่องของกระทรวงมหาดไทยย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางตรงและทาง อ้อม จึงเป็นเรื่องที่ทางกระทรวงมิอาจนิ่งเฉยได้

Tags : ปมร้อน เรื่องฉาว มหาดไทย ปัญหา ที่รอคำตอบ แก้ไข

view