สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เคล็ดไม่ลับ วิธีเพิ่มความสูงในเด็ก

จากประชาชาติธุรกิจ

โดย ศิราณี วงษ์โซ




ใคร ๆ ก็อยากสูงกันทั้งนั้น !! แต่ความสูงก็มีช่วงเวลาจำกัด...ที่ร่างกายจะได้เติบโตอย่างเต็มที่...จนทำให้ "สูง" ได้สมใจที่หวังไว้

โดย เฉพาะบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่มีความสูงไม่มากนัก ก็อยากจะให้ลูกมีโอกาสสูงทัดเทียมกับคนอื่น ๆ นอกจากปัจจัยเรื่องกรรมพันธุ์แล้ว ยังมีเรื่องของอาหาร การออกกำลังกายที่ถูกวิธีและสมวัยประกอบกันด้วย

น.พ.วรวัฒน์ เอี่ยวสินพานิช แพทย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ โรงพยาบาลปิยะเวท ให้คำแนะนำว่า เด็กจะมีการเพิ่มความสูงใน 2 ช่วงอายุ คือ ช่วงแรกเกิดจนถึง 2 ปีแรก กับช่วงที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งผู้หญิงจะเข้าสู่วัยรุ่นในช่วงอายุ 11.5 ปี จนถึง 16 ปี ส่วนผู้ชายตั้งแต่อายุ 13 ปี จนถึง 20 ปี

จะเห็นได้ว่า ผู้ชายเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นช้ากว่า และจะมีช่วงอายุที่นานกว่า ดังนั้นคนที่มีลูกสาวจึงควรเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ

และ ที่สำคัญ...เด็กผู้หญิงควรจะต้องดูว่าได้รับฮอร์โมนที่ทำให้เป็นสาวเร็วกว่า ปกติหรือไม่ ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะอยู่กับอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ได้รับการฉีดฮอร์โมน เข้าไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารพวกฟาสต์ฟู้ด ทำให้เด็กผู้หญิงมีโอกาสเป็นสาวได้เร็วกว่าปกติ เช่น เด็กบางคนอายุแค่ 8 ขวบ ก็มีหน้าอกหรือมีประจำเดือนแล้ว ถ้ามีอาการเช่นนี้ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจและฉีดยาที่จะทำให้เป็นสาวได้ ช้าลง มิฉะนั้นจะมีผลต่อความสูงของเด็กได้

สำหรับปัจจัยที่จะช่วย เพิ่มความสูงให้กับเด็กวัยรุ่นได้มี 4 ประการด้วยกัน คือ 1.พันธุกรรม มีสัดส่วนประมาณ 50% 2.ฮอร์โมน 3.โภชนาการ 4.การออกกำลังกาย ซึ่งทั้ง 3 ข้อหลังนี้รวมกันประมาณ 50% ดังนั้นถ้าพ่อแม่มีความสูงไม่มากนัก อาจจะปรับเปลี่ยนไปเน้นในปัจจัยอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสูงได้

โดยเฉลี่ยแล้วความสูงของลูกนั้นมีสูตรคำนวณ คือ

เด็กชาย = (ความสูงของพ่อ + ความสูงของแม่ + 13) หาร 2 ความสูงที่ควรจะเป็น + 8

เด็กหญิง = (ความสูงของพ่อ + ความสูงของแม่ - 13) หาร 2 ความสูงที่ควรจะเป็น + 6

ใน เรื่องของฮอร์โมนนั้น ตัวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสูง คือ โกร์ทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเติบโตของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะเกือบทั่วร่างกาย จะทำให้กระดูกมีความยาวมากขึ้น กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่มากขึ้น โกร์ทฮอร์โมนจะมีการผลิตเป็นจำนวนมากตอนเข้าสู่วัยรุ่น โดยที่ฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) จะเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้โกร์ทฮอร์โมนทำงานได้ดีขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้หญิงจึงมีความสูงเพิ่มขึ้นก่อนเด็กชายประมาณ 2 ปี

ซึ่งโกร์ทฮอร์โมนจะผลิตออกมาในขณะที่หลับสนิท ในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตี 2 ดังนั้นเด็กควรจะนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม จนถึง 8 โมงเช้า จะทำให้ร่างกายพักผ่อนจะหลับได้อย่างเต็มที่ และถือเป็นการนอนอย่างมีคุณภาพที่สุด

ส่วนการออกกำลังกายนั้น การเพิ่มความสูงจะต้องใช้กีฬาหรือกิจกรรมที่มีความโลดโผนและกระโดด เช่น บาสเกตบอล กระโดดไกล โหนบาร์ ฯลฯ ทั้งนี้เพราะกระดูกจะไม่เหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ ต้องมีแรงกระแทกจึงจะทำให้กระดูกยืดตัวขึ้นนอกจากนั้นเด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ไม่ควรจะเล่นกล้าม หรือเล่นกีฬาที่หนัก ๆ เช่น ว่ายน้ำ หรือเทนนิส ฯลฯ เพราะจะทำให้สรีระหรือแขนขาไม่เท่ากัน ควรเล่นแต่พอดี อย่าหักโหมเกินไป หรือใช้แขนขาในการเล่นให้เท่า ๆ กันทั้ง 2 ข้าง

ในด้านการรับประทาน อาหาร ในช่วงวัยรุ่นมีความต้องการแคลเซียมวันละ 1,200-1,500 ม.ล. ซึ่งได้จากนมวันละ 3 กล่องเป็นอย่างน้อย ถ้าดื่มได้ไม่พออาจจะเสริมด้วยแคลเซียมวันละ 1 เม็ด โดยการเคี้ยวให้ละเอียด และทานหลังมื้ออาหาร ไม่ควรทานตอน ท้องว่างหรือก่อนนอน โดยเริ่มให้ในเด็กวัยตั้งแต่ 8 ขวบขึ้นไป วันละ 500 ม.ก.

การเลือกนมควรเป็นนมสดธรรมดา ส่วนเด็กที่มีน้ำหนักเกินก็ให้เลือกนมพร่องมันเนยได้ สำหรับนมที่เสริมแคลเซียมนั้นถือว่าไม่จำเป็น เพราะร่างกายจะดูดซึมนมสดธรรมดาได้ดีที่สุด

ในทางการแพทย์นั้น อาจจะมีการเสริมด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เช่น การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย หรือการฝังเข็มที่จะช่วยให้การไหลเวียนโลหิตได้ดีขึ้น รวมทั้งเครื่องดึงหลัง ดึงคอ ซึ่งจะคล้าย ๆ กับการโหนบาร์ ที่จะช่วยกระตุ้นส่วนของหมอนรองกระดูกหรือเนื้อเยื่ออ่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความสูงทันที 1 ซ.ม.

ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวช่วย กระตุ้นความสูงให้กับเด็กได้ แต่ถ้าปฏิบัติตัวได้ถูกต้องตามวิธีที่แนะนำนี้ก็ไม่ต้องใช้เทคนิคทางการ แพทย์มาช่วย

เพียงแค่ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานแคลเซียมเสริม นอนให้เพียงพอ และเริ่มทำในอายุที่เหมะสม

...แค่นี้ก็ "สูง" ได้ดังใจหวังแล้ว !!!

Tags : เคล็ดไม่ลับ วิธีเพิ่มความสูงในเด็ก

view