สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ไพบูลย์ ชี้จริยธรรมวิกฤติ โกงบริจาคน้ำท่วม

มาร์คให้ปปท. สอบ‘เหลือบ’ทุจริตน้ำท่วม

จาก โพสต์ทูเดย์

เพื่อไทยตั้งกระทู้สด แฉพรรครัฐบาล แอบอ้างชื่อยักยอกข้าวสาร ช่วยชาวบ้าน

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างการพิจารณากระทู้ถามสด เรื่องการส่งมอบข้าวสารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยว่า ได้มอบหมายให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสในการแจกสิ่งของช่วยเหลือ ประชาชนแล้ว เพราะที่ผ่านมามีการพูดกันมากในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ว่ามีการยักยอกทรัพย์ในการแจกจ่ายข้าวโครงการเฉลิมพระเกียรติบรมราชาภิเษก 60 ปี ที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จำนวนรวม 1.8 แสนกิโลกรัม นำไปแจกให้ครอบครัวละ 3 กิโลกรัม โดยอำเภอเป็นผู้แจก แต่เมื่อแจกจริงกลับเป็นนักการเมืองสอบตกเป็นคนไปแจก ซึ่งผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 เรื่องการยักยอก เพราะทำให้ชาวบ้านหลงผิดว่านักการเมืองพรรคหนึ่งนำข้าวสารไปแจกจ่าย

นางพร ทิวา ชี้แจงว่า หากมีผู้ใดทำผิดก็จะดำเนินการทันที ซึ่งที่ผ่านมามีคณะกรรมการตรวจสอบรับส่งข้าวและแบ่งไปทุกจังหวัด ผ่านองค์การทหารผ่านศึก ขณะที่กระทรวงพาณิชย์แค่บรรจุวัสดุภัณฑ์ แล้วส่งต่อไปเท่านั้น ส่วนการนำไปจ่ายแจกขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัดที่จะดำเนินการ



ชงครม.ออกมาตรการป้องกันทุจริตเงินช่วยน้ำท่วม

จาก โพสต์ทูเดย์

คชอ.ขีดเส้น 3 วัน ขอแรง ปปท.- สตง. เร่งถกทุจริตน้ำท่วมแจกเงิน 5 พันบาท- ถุงยังชีพ ชงมาตรการสกัดเข้า ครม. 25 พ.ย.นี้

นายสา ทิตย์  วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย หรือ คชอ. ว่าที่ประชุมกำชับให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.ร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง., สำนักงบประมาณ ,กระทรวงพาณิชย์ ,กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งประชุมหารือภายใน 3 วัน เพื่อนำเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัย เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในวันที่ 25 พ.ย.นี้

ทั้งนี้ ทาง ปปท.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 ชุด ลงพื้นที่ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงทั้ง 9 เขต เพื่อตรวจสอบการทุจริตถุงยังชีพและการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษ 5 พันบาทต่อครัวเรือน สำหรับรายงานตัวเลขผู้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.รายงานว่ายอดผู้ประสบอุทกภัยลดลงจากเดิม 6.3 แสนครัวเรือน เหลือ 5.5 แสนครัวเรือน

ขณะนี้ รายชื่อส่งไปยังธนาคารออมสินจำนวน 2.4 แสนครัวเรือน เหลืออีก 2.9-3 แสนครัวเรือน และอีก 3 พันครัวเรือนในพื้นที่ภาคกลางเพิ่มจะเร่ง ปภ.ให้ส่งรายชื่อแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนพ.ย. ส่วนภาคใต้ 3.7 แสนครัวเรือนภายในกลางเดือน ธ.ค.นี้

นายสา ทิตย์ กล่าวว่าได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด ตามโครงการ "ฟื้นไทยด้วยใจ ไทยทั้งชาติ" ขึ้นมา 2 คณะเพิ่มเติมโดยมี พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. และนายปราโมทย์ รัฐวินิจ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ร่วมลงสำรวจความต้องการก่อสร้างบ้านเรือนที่พังทั้งหลัง เพื่อนำไปข้อมูลไปประสานกับภาคเอกชนที่เต็มใจจะให้ความช่วยเหลือ เช่น ทหารช่าง มูลินิธิ หรือ สถาบันการศึกษา เป็นต้น

'ไพบูลย์'ชี้จริยธรรมวิกฤติ โกงบริจาคน้ำท่วม

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ไพบูลย์"ระบุเข้าขั้นวิกฤติ ขนาดของบริจาคช่วยน้ำท่วมยังโกงหน้าด้านๆ ปลุกส.ส.เป็นแบบอย่างที่ดีให้สังคม
โรงแรม คอนราด-นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พัฒนาสังคม กล่าวปาฐกถาเปิดงาน เรื่อง “ ปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จริยธรรม ในการสัมมนาทางวิชาการว่าด้วยสัปดาห์ส่งเสริมจริยธรรมแห่งชาติ ประจำปี 2553 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัญหาการสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์และสิ่งแวด ล้อม นอกจากนี้ยังมีปัญหาระหว่างการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมนุษย์ด้วยกัน รวมไปถึงปัญหาการจัดการจิตใจให้มีความสงบสันติสุข ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีนักวิทยาศาสตร์ทำนายว่า น้ำจะท่วมกทม.และจังหวัดใกล้เคียง และจะจมน้ำภายในไม่กี่ปี เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริง

นาย ไพบูลย์ กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหามาตลอดจนกลายเป็นวิกฤติที่ยิ่งใหญ่ 4 เรื่อง คือ 1.วิกฤติทางเศรษฐกิจ แต่นับว่าประเทศไทยยังโชคดีที่ไม่มีวิกฤติด้านสถาบันการเงิน ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินการด้านธรรมาภิบาลในภาคธุรกิจถือว่าเห็นผล ชัดเจน และทำให้หลายสถาบันการเงินของไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤติรอบนี้ไปได้ ตนหวังว่าภาครัฐจะให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยจัดให้มีพ.ร.บ.ธรรมาภิบาล การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม

2.วิกฤติ ด้านการเมือง จะเห็นได้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ไทยเกิดปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง ทำให้ผู้คนหยิบอาวุธมาต่อสู้ บาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมากทำให้อาคาร ทรัพย์สิน และผู้คนจำนวนมากได้รับความเสียหายจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น

3.วิกฤติ ด้านสังคม ประเด็นนี้เกิดจากการเมือง นำไปสู่ความแตกแยก แบ่งสี แบ่งข้าง แม้แต่ในครอบครัวเดียวกัน หรือในองค์กรชุมชนเดียวกัน ก็พบว่าคนในชุมชนมี 2 สี

และ 4.วิกฤติทางภัยธรรมชาติ เรื่องนี้ถือเป็นวิกฤติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่าที่เคยประสบมาในอดีต มีหลายจังหวัดเกินครึ่งของประเทศได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัยที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย ไร่นา ได้รับความเสียหายนับแสนล้าน

"สิ่ง ที่น่าแปลกใจอย่างมากคือการขาดจริยธรรมในการป้องกันวิกฤติดังกล่าว ยังมีการยักยอกทรัพย์สิน สิ่งของที่บริจาคเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม และพายุ แม้แต่การฉกชิง สิ่งที่คนบริจาคนำไปแจกจ่ายโดยสวมรอยเป็นชื่อของตนเองนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นอย่างยิ่ง ผมมองว่ามันเป็นการทุจริต คดโกงกันดื้อๆ หน้าด้านๆ แสดงให้เห็นว่าระดับคุณธรรมและจริยธรรมในสังคมไทยอ่อนด้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้านการเมือง ก็ยังมีการฮั้วประมูลกับผู้รับเหมาในการจัดซื้อจัดจ้าง ก็ถือเป็นการร่วมกันสหกรรมของคนไทยทั้งชาติ" นายไพบูลย์ กล่าว

"จาก วิกฤติดังกล่าวทำให้ต้องดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยแบบถอนราก ถอนโคน ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาประเทศด้วยการแก้ไขความเดือดร้อน แต่เป็นการปรับเปลี่ยน ระบบวัฒนธรรม การสร้างจิตสำนึก ไปยังต้นตอของความคิด พูด กระทำ ทั้งที่ดีและเลว สร้างสรรค์หรือทำลาย ให้นำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าไม่เสื่อมถอย "นายไพบูลย์ กล่าว

นาย ไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่านักการเมืองใหญ่ๆต้องสิ้นสุดอำนาจเพราะเรื่องความบกพร่อง ทางจริยธรรมคิดว่าองค์กรใดก็ตามที่สนับสนุนกงล้อด้านความดี ความสามารถ และความสุข ได้อย่างสมดุลก็จะนำไปสู่คุณธรรมและจริยธรรมที่ดีได้ แต่ประเทศไทยถ้าเทียบกับนานาชาติ ถือว่าอ่อนด้อย บกพร่องด้านกงล้อแห่งความดี ซึ่งนำไปสู่ปัญหาวิกฤติทั้ง 4 นอกจากนี้กระบวนการ ทัศนคติ และสาระ ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน

ยก ตัวอย่างเช่น การที่ผู้นำรัฐบาลไปหารือพูดคุยเจรจากับคู่ขัดแย้งผ่านทางโทรทัศน์ โดยใช้คำพูดในลักษณะกล่าวหา ให้ร้าย หรือดูถูกดูแคลนกันต่อหน้าสาธารณชน ผ่านทีวี ถือเป็นการขาดคุณภาพในการจัดการความขัดแย้งที่มีคุณภาพ ตนมองว่า เมื่อขาดจิตสำนึกด้านจริยธรรมก็จะจัดการกับความขัดแย้งไม่ได้ ทำให้ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน เป็นการมุ่งเอาชนะคะคานกัน ด้วยความพร่องทางจริยธรรมทำให้แก้ไขความขัดแย้งไม่ได้แต่จะทำให้ความขัดแย้ง เพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะพลังทางสังคม ต้องให้ความสำคัญไม่ให้มีการทุจริตหรือแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์พวกใดพวกหนึ่ง ด้านพลังปัญหา ต้องไม่ทำเพื่อสอดคล้องกับความต้องการกลุ่มทุน และพลังแห่งอำนาจรัฐ ต้องไม่ออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง

นาย ไพบูลย์ กล่าวว่า การสร้างจริยธรรม ภาครัฐถือว่าเป็นฐานสำคัญที่สุดในการเป็นตัวอย่าง เป็นผู้นำชักชวนให้ผู้อื่นทำตาม โดยเฉพาะผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นตัวแทนของประชาชนที่สะท้อนภาพไปสู่เด็กและเยาวชน ซึ่งการเมืองระดับชาติปฏิบัติตัวอย่างไร ย่อมสามารถสะท้อนให้เห็นภาพการเมืองท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ถือว่ามีความสำคัญ นอกจากนี้ภาคธุรกิจถือเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงระหว่างภาคการเมืองไปสู่ภาค รัฐ

"การ รับสินบน การให้สินบน หรือการซื้อเสียงต่างๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก คงไม่ต้องดำเนินการตามหลักทศพิธราชธรรม เอาจริงเอาจังกับความถูกต้องถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แค่ทำดี ตามจรรยาบรรณ และข้อบังคับด้านการทำความดี ต้องส่งเสริมมากยิ่งขึ้น ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องส่งเสริมเครือข่ายภาคีต่างๆ ที่เกื้อหนุนด้านจริยธรรมทั้งในชุมชนท้องถิ่น เครือข่ายระดับชุมชน และมูลนิธิต่างๆ ทุกภาคส่วน แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ไปกว่ากันคือการส่งเสริมจริยธรรมในการจัดซื้อจัดจ้าง การให้ใบอนุญาต ใช้อำนาจในการปรับ การซื้อขายตำแหน่ง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการฮั้ว ประมูลต่างๆ" นายไพบูลย์ กล่าว

นาย ไพบูลย์ กล่าวว่า อยากเห็นการกระทำที่ถูกต้องตามจริยธรรม (Corrective Action) ในภาคการเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยกันยกมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรมให้สูงขึ้น ตนเชื่อว่าแม้จะไม่สำเร็จภายใน 1-2 ปี แต่จะเห็นได้ว่าภายใน 20 ปี ความเจริญก้าวหน้า อันดับการทุจริตของไทยจะมีความก้าวหน้าอยู่ในลำดับลดลงอย่างแน่นอน

 
ส่วน การส่งเสริมจริยธรรม ต้องดำเนินการเป็นนโยบาย ให้ความรู้ ผ่านเครือข่าย การสื่อสาร หรือการจัดการเรียนรู้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเครื่องมือวัดระดับจริยธรรม โดยไม่จำเป็นต้องจัดอันดับจริยธรรมก็ได้ ซึ่งตัวชี้วัดได้แก่ประเมินผลของหน่วยงาน สำรวจความเห็น ภาพลักษณ์ ถือเป็นดัชนีการวัดคอรัปชั่นได้ ทั้งนี้ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ,กระทรวงต่างๆ, ศูนย์คุณธรรม, มูลนิธิ,และองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ร่วมมือเป็นภาคี เน้นสร้างสรรค์ บ่มเพาะมากกว่าการไปกล่าวหา หรือตั้งข้อกล่าวหาทางจริยธรรม หากทำได้จะทำให้ความไม่ดีค่อยๆลดลงและหายไปในที่สุด และขอสนับสนุนให้การส่งเสริมจริยธรรมถือเป็นวาระแห่งชาติ

นาย ไพบูลย์ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลจัดให้มีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย (คปร.) และสมัชชาปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีนายอานันท์ ปันยารชุน และนพ.ประเวศ วะสี เป็นประธานคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด เชื่อว่าการดำเนินการภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า จะมีข้อสรุปนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายได้ คาดว่าภายในเดือนมี.ค. 54 จะเห็นผลได้

Tags : ไพบูลย์ ชี้จริยธรรมวิกฤติ โกงบริจาคน้ำท่วม

view