จากประชาชาติธุรกิจ

คดี สินบนนำจับกรมศุลฯหมื่นล้านบาทพ่นพิษ ป.ป.ช.เตรียมเชิญอธิบดีชี้แจง และแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไข ด้านนายกรัฐมนตรีไล่บี้ข้อมูลหนัก มอบหมายรัฐมนตรีคลังเข้าไปดูแลใกล้ชิด

หลังจาก "ประชาชาติธุรกิจ" ได้นำเสนอข่าวเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและผู้แจ้งเบาะแสรับเงินสินบนรางวัลนำ จับจากกรมศุลกากรย้อนหลัง 10 ปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และเกาะติดเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง พบว่าได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากรัฐบาลและหน่วยงานราชการ รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ได้ติดตามพัฒนาการของประเด็นนี้มาอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเตรียมที่จะเชิญอธิบดีกรมศุลกากรมาให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว

นาย ภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัญหาการจ่ายเงินรางวัล-สินบนจำนวนนับหมื่นล้านให้แก่ เจ้าหน้าที่และสายสืบตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องใหญ่ที่ ป.ป.ช.ให้ความสนใจ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าเงินรางวัลและสินบนของกรมศุลกากร มีจำนวนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีการจ่ายเงินรางวัลและสินบน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องมีการทบทวนปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสม

"จาก การศึกษาเบื้องต้นพบว่าเป็นปัญหาการตีความกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มาตรา 27 ที่เปิดช่องให้มีการตีความจากคดีเลี่ยงภาษีเป็นคดีลักลอบ ทำให้ได้รับเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตามเร็ว ๆ นี้ ป.ป.ช.จะได้เชิญอธิบดีกรมศุลกากร มาให้ข้อมูลพร้อมกับแลกเปลี่ยนแนวทางการจ่ายเงินรางวัลและสินบน" นายภักดีกล่าว

การเคลื่อนไหวของ ป.ป.ช.สอดรับกับท่าทีของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ให้ความสนใจในกรณีนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งนอกจากจะสอบถามโดยตรงกับอธิบดีกรมศุลกากรถึง 2 ครั้ง ยังได้กำชับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแล้ว เกี่ยวกับการเข้าไปดูแลเรื่องสินบนนำจับของกรมศุลกากร

ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นสินบนนำจับมากล่าวขณะปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอ การค้าทั่วประเทศเกี่ยวกับการขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นว่า เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก เป็นปัญหาที่สะสมมานานและมีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ ตนได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ล่าสุดได้ย้ำกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแล้วเกี่ยวกับการเข้าไปดูแล เรื่องสินบนนำจับของกรมศุลกากร

นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังเชื่อมโยง ประเด็นดังกล่าวกับการปรับปรุงการลดขั้นตอนการทำงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการทำงานของภาครัฐ และได้ยืนยันมาโดยตลอดว่า สังคมจะต้องไม่ยอมรับในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยได้มีการแสวงหาความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐจะต้องโปร่งใส มีความเป็นธรรม ซึ่งภาครัฐและภาคการเมืองต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยจะมีการดำเนินการปรับปรุง แก้ไขกฎระเบียบที่เป็นปัญหาต่อไป

ด้าน นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรไปรวบรวมข้อมูลการจ่ายเงิน สินบนรางวัลนำจับ พร้อมกับคำนวณตัวเลขผลประโยชน์ที่รัฐได้รับใน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อรายงานให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ รวมทั้งชี้แจงสื่อมวลชนด้วย ซึ่งระบบการจ่ายเงินสินบนเพื่อจูงใจให้เจ้าหน้าที่ออกไปติดตามเงินภาษีที่ รัฐสูญเสียไปแล้วกลับคืนมาได้ก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาทำให้รัฐบาล มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท โดยกรมศุลกากรจะเรียกเก็บภาษีจาก ผู้กระทำผิดให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นถึงจะเรียกเบี้ยปรับพร้อมดอกเบี้ย 2-4 เท่า เพื่อนำไปจัดสรรเป็นเงินรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ ปีละ 300-400 ล้านบาท และเมื่อนำมาเฉลี่ยแล้วเจ้าหน้าที่แต่ละคนได้รับกันคนละไม่กี่ล้านบาทเท่า นั้น

"หลังจากที่ประชาชาตินำเสนอข่าว กรมศุลกากรจ่ายสินบนรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่เป็นเงินจำนวนมากนั้น ท่านนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์เข้ามาหาผมโดยตรง ถึง 2 หน ภายในวันเดียว เพื่อขอทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำรายงานเสนอนายอภิสิทธิ์อยู่ และคงต้องรายงานนายกรณ์ทราบด้วย" นายประสงค์กล่าว