ผลสำรวจ ชี้ คอร์รัปชันไทยอยู่ในระดับรุนแรง สูญงบปีละกว่า 2 แสนล.

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

หอการค้าฯ เผยผลสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชันของไทย อยู่ในระดับรุนแรงมาก รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึงปีละ 1.6-2.0 แสนล้านบาท ติดอันดับ 14 ของเอเชีย ขณะที่จิตสำนึกในการป้องกันยังอยู่ในระดับต่ำ
       
       ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรเศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการภาคเอกชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และประชาชน 1,200 ตัวอย่าง เพื่อจัดทำดัชนีสถานการณ์การคอร์รัปชันไทย (CSI) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม 2553 พบว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่น ได้คะแนน 3.5 จากคะแนนเต็ม 10 ส่วนดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในปัจจุบัน ได้ 3.2 และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์คอร์รัปชันไทย ได้คะแนน 3.8 ซึ่งทุกดัชนีชี้ให้เห็นว่าการคอร์รัปชันของไทยเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง
       
       ผู้อำนวยการศูนย์พยากรเศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยอมรับว่า สถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับรุนแรงมาก โดยมีดัชนีรวมอยู่ที่ 3.2 จาก ดัชนีวัดค่า 0-10 (0 รุนแรงที่สุด 10 ไม่รุนแรงเลย) แต่หากแยกเป็นความเห็นของนักธุรกิจดัชนีความรุนแรงจะอยู่ที่ 2.8 หรืออยู่ในระดับรุนแรงมากที่สุด ขณะที่ข้าราชการเห็นว่าความรุนแรงอยู่ในระดับ 3.8 ส่วนประชาชนทั่วไประดับความรุนแรงอยู่ที่ 3.2
       
       ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินว่า มูลค่าการคอร์รัปชั่น จะอยู่ที่วงเงินในระดับ 200,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง ร้อยละ 1-2 ของจีดีพี รวมทั้งปัจจุบัน ประเทศไทย ยังถูกจัดลำดับให้เป็นประเทศที่มีคอร์รัปชั่นคิดอันดับ 78 ของโลก จาก 178 ประเทศ และติดอันดับที่ 14 ใน 33 ประเทศของเอเชีย
       
       อย่างไรก็ตาม หากถามความเห็นในแง่ของจิตสำนัก และการสร้างจริยธรรมที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคอร์รัปชั่น พบว่า จิตสำนึกโดยรวมอยู่ในระดับต่ำมากโดยมีดัชนีอยู่ที่ 2.9 ทั้งที่ปัญหาการคอร์รัปชั่นในประเทศไทยอยู่ในระดับที่รุนแรงมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากแนวคิดที่เห็นว่า แม้จะมีการคอร์รัปชั่น แต่ถ้านักการเมืองมีผลงานและประชาชนได้ผลประโยชน์ ถือว่าเป็นเรื่องยอมรับได้ ซึ่งแนวคิดนี้ถือว่า อันตรายต่อประเทศไทย
       
       ผศ.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจรฃน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้า กล่าวเสริมว่า การคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในไทยมีส่วนที่ฉุดความสามารถทางการแข่งขันให้ลดลง แม้ว่าไทยจะมีสภาพแวดล้อมทางด้านการลงทุนดีกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ถ้ามีปัญหาคอร์รัปชันอยู่ในระดับรุนแรง นักลงทุนก็จะเกิดความไม่มั่นใจและหันไปลงทุนในประเทศอื่นแทน และการคอร์รัปชัน เป็นเหตุผลที่ทำให้นโยบายของรัฐขาดความต่อเนื่องจากการที่ต้องเปลี่ยรัฐบาล บ่อยๆ
       
       นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชัน เป็นความร่วมมือของหอการค้าไทยกับมหาวิทยาลัยหอการค้า เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้รู้ และยอมรับความจริงว่า ประเทศไทยมีการคอร์รัปชันในระดับที่รุนแรง และจะต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายพื่อแก้ปัญหาด้วยความอดทน และหากปล่อยปัญหาไปไม่รับแก้ไข ในปี 2558 ที่จะรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็อย่าหวังว่าไทยจะเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญด้านการลงทุนในอาเซียน

เผยไทยคอรัปชั่นระดับรุนแรง

จาก โพสต์ทูเดย์

หอการค้าเผยผลสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยอยู่ในระดับรุนแรงมาก ขณะที่จิตสำนึกในการป้องกันยังอยู่ในระดับต่ำ

ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรเศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับรุนแรงมาก โดยมีดัชนีรวมอยู่ที่ 3.2 จาก ดัชนีวัดค่า 0-10 ( 0 รุนแรงที่สุด 10 ไม่รุนแรงเลย) แต่หากแยกเป็นความเห็นของนักธุรกิจดัชนีความรุนแรงจะอยู่ที่ 2.8 หรืออยู่ในระดับรุนแรงมากที่สุด ขณะที่ข้าราชการเห็นว่าความรุนแรงอยู่ในระดับ  3.8 ส่วนประชาชนทั่วไประดับความรุนแรงอยู่ที่ 3.2

ธนวรรธน์

อย่างไรก็ตาม หากถามความเห็นในแง่ของจิตสำนัก และการสร้างจริยธรรมที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคอร์รัปชั่น พบว่า จิตสำนึกโดยรวมอยู่ในระดับต่ำมากโดยมีดัชนีอยู่ที่ 2.9 ทั้งที่ปัญหาการคอร์รัปชั่นในประเทศไทยอยู่ในระดับที่รุนแรงมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากแนวคิดที่เห็นว่า แม้จะมีการคอร์รัปชั่น แต่ถ้านักการเมืองมีผลงานและประชาชนได้ผลประโยชน์ ถือว่าเป็นเรื่องยอมรับได้ ซึ่งแนวคิดนี้ถือว่า อันตรายต่อประเทศไทย

ด้านผศ.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจรฃน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้า กล่าวเสริมว่า การคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในไทยมีส่วนที่ฉุดความสามารถทางการแข่งขันให้ลดลง แม้ว่าไทยจะมีสภาพแวดล้อมทางด้านการลงทุนดีกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ถ้า มีปัญหาคอร์รัปชั่นอยู่ในระดับรุนแรง นักลงทุนก็จะเกิดความไม่มั่นใจและหันไปลงทุนในประเทศอื่นแทน และการคอร์รัปชั่น เป็นเหตุผลที่ทำให้นโยบายของรัฐขาดความต่อเนื่องจากการที่ต้องเปลี่ยรัฐบาล บ่อยๆ

นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชัน เป็นความร่วมมือของหอการค้าไทยกับมหาวิทยาลัยหอการค้า เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้รู้และยอมรับความจริงว่า ประเทศไทยมีการคอร์รัปชั่นในระดับที่รุนแรง และจะต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายพื่อแก้ปัญหาด้วยความอดทน และหากปล่อยปัญหาไปไม่รับแก้ไข ในปี 2558 ที่จะรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็อย่าหวังว่าไทยจะเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญด้านการลงทุนในอาเซียน