จาก โพสต์ทูเดย์

จุดเด่นของแผนประชาวิวัฒน์ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังหนีไม่พ้นการใช้แบงก์เฉพาะกิจของรัฐในการปล่อยสินเชื่อ

โดย...ทีมข่าวการเงิน

จุดเด่นของแผนประชาวิวัฒน์ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังหนีไม่พ้นการใช้แบงก์เฉพาะกิจของรัฐในการปล่อยสินเชื่อ

โฟกัสหลักอย่างหนึ่งคือการปล่อยกู้ “มอเตอร์ไซค์รับจ้าง” ซึ่งเป็นอาชีพที่เคยถูกมองข้ามจากธนาคารพาณิชย์มาโดยตลอด

เพราะปัญหาหลักของอาชีพนี้คือพื้นที่ทำมาหากินไม่แน่นอน โอกาสและความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้สูญหายเยอะมาก

ในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำเมื่อปีที่ผ่านมา ร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์หลายแห่งมีการดีลกับบริษัทเช่าซื้อหรือลีสซิง ให้ดอกเบี้ยถูกจนถึงขั้น 0%

ร้านค้าบางแห่งอัดแคมเปญหนักถึงขั้นให้ “ฟรีดาวน์” ทำให้คนหาเช้ากินค่ำที่อาศัยรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยงชีพ ถอย “ป้ายแดง” กันเป็นว่าเล่น

แต่สุดท้ายบางส่วนก็ไปไม่ไหว เพราะมอเตอร์ไซค์รับจ้างเหล่านี้ ลืมคิดไปว่า ภาระค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนเงินงวดอย่างเดียว แต่ยังมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงด้วย เช่น ค่าเสื้อวินที่ต้องจ่ายให้เจ้าของ ค่าส่วยตำรวจและเทศกิจ เป็นต้น

เงินงวดผ่อน 1,000 บาทต่อเดือน ค่าเช่าวินอีก 1,000 บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายให้สำนักงานเขตและตำรวจอีก 300-400 บาทต่อเดือน

อย่างนี้จะไปอยู่อย่างไรไหว!!!

การปล่อยสินเชื่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างระยะหลังจึงมีการ “สกรีน” หรือคัดเลือกประวัติของผู้กู้เงินมากขึ้น ทำให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ง่ายๆ

สินเชื่อมอเตอร์ไซค์เข้มแข็งในโครงการประชาวิวัฒน์ จึงเข้ามาแก้ปัญหานี้ โดยดึงแบงก์รัฐ 5 แห่ง ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการพัฒนาการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์

ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาปล่อยสินเชื่อ

แต่เงื่อนไขสินเชื่อแบงก์รัฐก็ใช่ว่าจะผ่อนปรน 100% เพราะนายแบงก์เหล่านี้ก็กลัวหนี้เน่าจะมาหลอกหลอนเช่นเดียวกัน

สิ่งที่แบงก์รัฐเหล่านี้ช่วยได้มากที่สุดคือเรื่องการค้ำประกัน ถ้ามีผู้ค้ำแน่นหนา ก็น่าจะปล่อยสินเชื่อให้ได้

แหล่งข่าวจาก ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.จะปล่อยสินเชื่อวินมอเตอร์ไซค์ในรูปแบบสินเชื่อบุคคลที่เน้นเรื่องการ ค้ำประกันแบบกลุ่ม 45คน ภายในวินเดียวกันเอง เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้

โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากทาง การก่อน หากไม่มีเสื้อวิน หรือยังไม่ขึ้นทะเบียน จะไม่สามารถขอสินเชื่อในโครงการนี้ได้

ธ.ก.ส.จะปล่อยกู้ให้ต่อรายไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือเอ็มอาร์อาร์ +2% หรือเท่ากับ 8.75% มีระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ตามความเสี่ยง

“ธ.ก.ส.จะขอให้กลุ่มที่ปล่อยกู้ให้สมาชิกที่มีประวัติการชำระหนี้ดี ได้ลดดอกเบี้ย 12% เหมือนที่ ธ.ก.ส. ช่วยลูกหนี้ดี และจะขอให้นำส่วนต่างของดอกเบี้ยบางส่วนมาทำประกันให้สมาชิกเพิ่มเติมด้วย” แหล่งข่าวเปิดเผย

โดยธนาคารรัฐ 5 แห่ง จะเริ่มปล่อยสินเชื่อพร้อมกันในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารตั้งวงเงินปล่อยกู้โครงการประชาวิวัฒน์ไว้ 2,000 ล้านบาท โดยจะปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนขับรถแท็กซี่ พ่อค้าหาบเร่แผงลอย โดยผู้กู้ต้องรวมตัวเป็นกลุ่มไม่น้อยกว่า 10-25 คน ขอเงินกู้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท ผ่อนชำระ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 6%

นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลาม กล่าวว่า ธนาคารจะปล่อยกู้ผู้ประกอบอาชีพทั้ง 3 กลุ่ม เงื่อนไขเดียวกับแบงก์อื่น แต่หากเป็นคนดีผู้ชายไม่ดื่มสุราดูดบุหรี่ก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยให้ถูกกว่า 12% ต่อปี และหากเป็นผู้หญิงมากู้ก็จะได้รับดอกเบี้ยถูกลงไปอีก

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ธนาคารจะปล่อยกู้ให้คนซื้อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และพ่อค้าหาบเร่แผงลอย 600 ล้านบาท

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า มาตรการของรัฐบาลในการปล่อยสินเชื่อให้กับรถแท็กซี่และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเช่าซื้อแต่อย่างใด เพราะเป็นคนละตลาดกัน และตลาดรถแท็กซี่และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้นก็มีการกระจายตัวไปยังแต่ละผู้ ประกอบการ ไม่ได้กระจุกตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่ง

ที่สำคัญคาดว่าตลาดเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ในปีนี้จะเติบโตมากกว่าปี 2553 เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นและมีเงินสะพัดมาก ซึ่งเงินเหล่านี้จะเข้าถึงประชาชนระดับรากหญ้ามากขึ้น

“ปีที่แล้วเศรษฐกิจดีมากก็จริง แต่ปีแรกคนที่ได้รับประโยชน์จะเป็นระดับกลางและบนก่อน อย่างรถยนต์ป้ายแดงก็มียอดขายถึง 7.98 แสนคัน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ยังมียอดขายไม่เท่าไหร่ แต่พอมาปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 2 เงินก็จะเริ่มเข้าถึงรากหญ้าแล้ว บวกกับ การเลือกตั้ง และราคาสินค้าเกษตรที่ดีขึ้นอีก จึงคาดว่าตลาดรถมอเตอร์ไซค์ปีนี้คงขายดีมากๆ กำลังซื้อระดับรากหญ้าจะกลับมา” นายสุทัศน์ กล่าว

งานนี้สินเชื่อเสื้อวินของรัฐบาลจะเข้าเป้าหรือเข้าป้าย สร้างคะแนนนิยมทางการเมืองได้หรือไม่เดือนหน้าว่ากัน...