พรรคสำรอง-ไก่รองบ่อน โลโก้ เนวิน แบรนด์ จงรักภักดี ชิง ชัย ให้ ภูมิใจไทย

จากประชาชาติธุรกิจ

งานครบรอบวันเกิดพรรคภูมิใจไทย 2 ปี ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ในบรรยากาศเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง 6 เมษายน 54

วาระที่ทุกพรรคการเมืองระมัดระวัง-เรื่องละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง "ไม่แจก-ไม่จ่าย"

แต่ พรรคภูมิใจไทยล้ำกว่าพรรคอื่น ด้วยโครงการ "บ้านฉันรักพระเจ้าอยู่หัว" ปล่อยขบวนรถนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ไปแจกจ่ายกับประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1.5 ล้านภาพ

เจ้าของพรรค 3 ขวบให้การต้อนรับเลขาธิการพรรค 65 ปี ที่มาพร้อมกันทั้ง "2 เทพ" สุเทพ เทือกสุบรรณ และ เทพไทย เสนพงศ์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์

อาคารค่ายกลบนพรรคภูมิใจไทย ทำให้ "สุเทพ-เทพไท" กับ "เนวินและคณะ" หายตัวไปในห้องลึกลับ หลังคำถามที่ "เนวิน" ถาม "สุเทพ" ว่า "พี่จะมาบังคับให้ผมทำอะไรอีก"

ไม่มีใครล่วงรู้บทสนทนาลับในห้องเล็กที่ปิดเงียบ ไร้เสียงเล็ดลอดออกจากปากครอบครัวชิดชอบกับเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ประตูหลัง-ทางสำรองถูกจัดเป็นทางหนี-ทีไล่ ให้ "สุเทพและคณะ" เดินทางออกจากพรรคไปอย่างไร้ร่องรอย

แต่บทสนทนาที่ทุกพรรค ทุกคนได้ยินถ้วนหน้า คือเสียงนกหวีดการเมืองที่เป่าจากปาก "ปู่ชัย" ในวาระ 84 ปี

"ปู่ชัย" ในฐานะประธานรัฐสภา พูดเรื่องบ้านเมืองว่า

"บ้านเมืองเริ่มดีขึ้นเป็นไปเองตามธรรมชาติ แต่ละจังหวัดก็มีทั้งฝ่ายเหลือง ฝ่ายแดง เขาก็เตรียมที่จะเล่นการเมืองเป็นส่วนใหญ่"

ภาวะที่ "ผบ.เหล่าทัพ" ต้องประกาศท่าทีทางการเมือง "ปู่ชัย" เล่าประวัติ ศาสตร์กองทัพประกอบสถานการณ์ร้อน

"ตั้งแต่ เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นต้นมา ในกลุ่มของทหารกันเองก็ยังแตกความสามัคคี ในกลุ่มทหารกับนักวิชาการก็แตกแยกความสามัคคีกันเรื่อยเสมอมา 60-70 ปีนี้ เราจะเห็นประวัติศาสตร์มันย้อนยุคกันมาตลอด...ภายใน 10 ปี ต้องเปลี่ยนแปลง นี่เป็นธรรมชาติการเมืองในไทย"

เรื่องการเปลี่ยนแปลงจาก "การปฏิวัติ" ประธานชัยมองอย่างเข้าใจ "ผมเข้าใจว่าทหารฝ่ายหนึ่งต้องการปฏิวัติ เป็นผู้ที่สูญเสียอำนาจ แต่ทหารที่กำลังมีอำนาจอยู่ ใครปฏิวัติไม่ได้ ผลสุดท้ายเขายังแตกแยกกันอยู่ในทางความคิด แต่ในด้านกำลัง ผมยังมั่นใจว่า กลุ่มที่ครองอำนาจอยู่ปัจจุบัน เขาคงจะครองอำนาจต่อไปอีกไกล"

พ่อ ของเนวินอ่านทางการจับขั้ว ย้ายข้าง "สมัยนี้เห็นชัด นักการเมืองทะเลาะกัน ก็มากอดคอกัน อย่างคุณเสนาะกับคุณทักษิณ ตอนแยกกัน ก็ดูเหมือนจะไม่เผาผีกันแล้ว ตอนนี้ก็ไปด้วยกันได้ นิสัยคนไทย ยังไงก็ต้องออมชอมกัน..."

"การเลือกตั้งในอดีต ตอนคุณทักษิณรวมกับคุณเสนาะ ได้มา 300 กว่า ตอนนั้นมีขุนพลต่าง ๆ ขุนพลเนวิน ขุนพลอะไรต่าง ๆ เข้ามารวมกันหมด คนที่เคยอยู่ป่าด้วย ภาคอีสานก็ได้รับการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ ท่านทักษิณไม่ได้อยู่ในไทย ส่วนคุณเสนาะ ถ้าจะเอาไปเป็นแกนหลัก เราก็เห็นอยู่ว่า...เราจะเห็นภาพที่ท่านไปทำพรรคประชาราช ได้สักกี่เสียง ได้จังหวัดของท่านเท่านั้นเอง นอกนั้นก็เป็นกาฝากหมด"

พรรคภูมิใจไทยมองการไหลไปของ "แพ-เสนาะ" ไปพรรคเพื่อไทย ว่าเป็นการป้องกัน "แพ-เทียนทอง" แตกสลายเท่านั้น

ท่าม กลางข่าวลือ "ไม่มีเลือกตั้ง" แต่พรรคที่คาดหวัง 70 ที่นั่งในสภาผู้แทนบอกว่า "การเลือกตั้งมีขึ้นแน่นอน แต่หลังการเลือกตั้งไม่แน่ ก็อย่างที่พรรคเพื่อไทย โดยนายจตุพรและนายณัฐวุฒิพูดว่า เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ถ้าเขาได้เสียงข้างมาก เขาคิดว่าเขาไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล..."

"ถ้า พรรคเพื่อไทยได้เสียงเด็ดขาด ก็ไม่เป็นไร ถ้าได้ 260 เสียง ไม่มีปัญหา จัดตั้งรัฐบาลได้แน่ แต่ถ้าได้ 200 เสียง ซึ่งผมกล้าทายเลยว่า ได้ไม่ถึงหรอกครับ ถ้าได้เท่าเดิม ก็บุญแล้ว..."

เขาประเมินสถานภาพพรรคของลูกชายว่า เป็นเพียง "พรรคสำรอง ไก่รองบ่อน"

"คิด ว่า 50 เสียง เราได้แน่นอน มั่นใจ เป็นฝ่ายค้านก็ได้ เป็นฝ่ายรัฐบาลพรรคร่วมก็ได้ แต่เราต้องดูว่า เราจะไปร่วมกับใคร เช่นทุกวันนี้ เราอยู่ร่วมกับประชาธิปัตย์ เขาก็ยังอารีอารอบเราอยู่ ถึงเขาจะมีกระแหนะกระแหนกันบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา"

สัญญาณความ สัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ปู่ชัยมองว่า "มันเชื้อสายเก่า เครือเก่า ภูมิใจไทยก็แตกมาจากพรรคพลังประชาชน เชื้อสายเก่ายังมีสายโยงใย อย่างน้อย ก็มีผมเป็นคนกลาง..."

ชีวิตคนการเมืองวัยใกล้พ้นจากตลิ่งชีวิต ฝากชีวิตไว้กับ "ลูกชาย" ที่หมายมั่นว่าอาจได้เป็น "นายกรัฐมนตรี" สักวัน

....................

ชัย-เนวิน-ศักดิ์สยาม ทายาทคนคล้องช้าง

บารมี "ชัย ชิดชอบ" แห่งครอบครัว "คนเลี้ยงช้าง" ถูกประดับไปด้วย "พิธีประกำช้าง" ในจังหวัดบุรีรัมย์ วาระวันครบรอบวันเกิด 84 ปี

"ปู่ชัย" เล่าเรื่องพิธีกรรมสำคัญของครอบครัวว่า

"ประกำ ช้างเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยโบราณ คือพวกส่วยเป็นพวกอยู่ในดง แล้วเป็นพวกที่ถือเคล็ดลับในทางไสยศาสตร์ แล้วเรื่องหมอผีเป็นเรื่องสำคัญ ตอนไปจับช้างเขาก็มีพิธีการของเขาหลายอย่าง ในการที่จะไปคล้องช้างในป่าได้ สมัยก่อนไม่มีตัวช้างเชือก ใหญ่ ๆ เป็นตัวต่อ แต่คนพวกส่วยเข้าไปจับเลย ไปมัดขามัดอะไรช้าง ได้ต่อสู้ จับมัดกับต้นไม้ แล้วมาฝึกให้เชื่อง เขาทำมาตั้งแต่โบราณกาล"

"ถ้าใครถือประกำช้างแล้ว หากไม่ถือต่อจะมีอันเป็นไป...ผีแรงมาก เรื่องประกำช้าง เช่น การที่จะเอาหนังควายมาทำเชือกประกำ มาควั่น ก็ต้องทำพิธี ต้องตาก ต้องสวด ต้องอะไรหลายอย่าง"

"ต้องพูดภาษาผี เขามีภาษาผีนะเขาไม่ได้พูดภาษาส่วยธรรมดา เขาเรียกภาษาผี..."

เจ้าของโขลงช้างไม่น้อยกว่า 100 เชือก เมื่อ 70 ปีก่อนเล่าเรื่องบรรพบุรุษ ครอบครัว-คนเลี้ยงช้าง

"พ่อ ผมมีช้าง 40-50 เชือก อยู่ที่สุรินทร์ อยู่ตำบลพิรามเดิม สมัยก่อน คนที่จะไปคล้องช้างต้องมีช้างตัวต่อ ต้องลงทุนมีข้าวสารใส่ถุงหนังเต็มรับประทานได้ 2 คน 3 เดือน มี อุปกรณ์ พริกเกลือ ปลาร้า ใส่หลังช้าง เอาไปคล้องช้าง พอไปถึงเขาก็มีประกำ หมอช้างกับควาญช้างก็เอาเชือกประกำใส่หลังช้าง มีไม้ขอสำหรับตีให้ช้างวิ่ง"

"ใครคล้องได้ พอคล้องติดคนข้างหลังก็ต้องกระโดดลง แล้วเอาเชือกหนังไปมัดกับต้นไม้ ก็มีชะเนียงคล้องคอสำหรับดึง เขาทำเป็นชนักจากเขากวางแหลม ๆ รอบชนัก 4 ข้าง ถ้าช้างเอียงคอไปทางอื่นจะถูกชนักเขากวางแทง มันหันซ้ายหันขวาไม่ได้ มันก็ต้องเดินตรง จูงไปยังไงก็ได้ เวลาเขาคล้องช้างได้แล้วเขาก็เอามาฝึก แล้วเวลาช้างมันเป็นแผล เขาก็เอาเปลือกต้นสกรอมมาแช่น้ำ แล้วสาดใส่แผลมัน มันจะหายเอง"

"ตั้งแต่ปู่มา ผมก็ติดเชื้อสายเลี้ยงช้างมาตลอด ประมาณราว 70-80 ปีแล้ว คนสืบทอดตอนนี้ก็มีเนวิน ศักดิ์สยาม เพิ่มพูล 3 คนสืบทอด ผมไม่ต้องทำอะไรแล้ว"