สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ตลาด-ก.ล.ต.จับมือยัน ทุนการเมืองไม่ปั่นหุ้น

ตลาด-ก.ล.ต.จับมือยัน'ทุนการเมืองไม่ปั่นหุ้น'

ตลาด-ก.ล.ต. ยันไม่พบความผิดปกติของกลุ่มทุนการเมืองเข้ามาประโยชน์ในตลาดหุ้น หลังงานวิจัยทีดีอาร์ไอ พบปั่นหุ้นหวังผลทางการเมือง
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่ากลุ่มทุนการเมืองเข้ามาหาประโยชน์จากตลาดหุ้น เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งว่า ระบบการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว ไม่ได้แยกประเภทการตรวจสอบหรือเจาะจงเฉพาะกลุ่มนักการเมือง

"ตลาดหลักทรัพย์มีเจ้าหน้าที่ดูแลการซื้อขายให้เป็นไปตามปกติอยู่แล้ว และก็มีระบบไอทีคอยส่งสัญญานเตือน หากการซื้อขายมีความผิดปกติ เราเลือกที่จะมอนิเตอร์กลุ่มการเมืองไม่ได้ เพราะทุกคนมีสิทธิเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดก็มีหน้าที่ดูแลการซื้อขายทุกกลุ่มอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่ได้พบความผิดปกติการซื้อขายหุ้นในตลาดแต่อย่างใด"นายสมพลกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบริษัทจดทะเบียนหากมีข่าวเกิดขึ้นตลาดหลักทรัพย์ก็จะให้มีการชี้แจง และถ้าชี้แจงแล้วไม่เป็นที่พอใจ ตลาดก็จะส่งข้อมูลให้ก.ล.ต.ตรวจสอบต่อ หากพบสิ่งผิดปกติก.ล.ต.ก็จะส่งต่อให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ

ด้านนายวิจิตร สุพินิจ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์และก.ล.ต. ก็มีการประสานงานกันอยู่แล้วในการที่จะตรวจสอบดุแลการซื้อขายหุ้นในตลาด ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ก็ยังไม่ได้ส่งข้อมูลความผิดปกติการซื้อขายหุ้นที่จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนการเมือง

อย่างไรก็ตาม กรณีเชื่อมั่นว่าระบบไอทีของตลาดทรัพย์สามารถตรวจสอบการซื้อขายหุ้นในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนบางกลุ่มจะมีความซับซ้อนมากขึ้น

สำหรับกรณีที่มีการเสนอให้การกล่าวโทษดำเนินความผิดในตลาดหุ้นไม่ต้องผ่านกระบวนการส่งฟ้องทางสำนักงานตำรวจและดีเอสไอ โดยผ่านไปยังขั้นตอนอัยการเลยนั้น นายวิจิตร กล่าวคงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นไปตามขั้นตอนทางกฏหมาย และปัจจุบันกระบวนกล่าวโทษก็มีความรวดเร็วมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดีเอสไอก็มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความผิดในตลาดทุนมากขึ้น

นายวิจิตร กล่าวว่า การะบวนการกล่าวโทษในคดีความผิดด้านตลาดทุนในอนาคตจะเน้นวิธีการป้องปรามและดำเนินการทางแพ่ง เพื่อความคบ่องตัวในการดำเนินการ ซึ่งแนวโน้มการปรับผู้ที่กระทำความผิดด้านตลาดทุนจะสูงขึ้น จากตัวเลขในไตรมาสแรกที่ออกมาพบว่ามูลค่าที่ก.ล.ต. สั่งปรับบุคคลที่กระทำความผิดสูงกว่าปี 53 ทั้งปีและในปีนี้ก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้น

งานวิจัยพบปั่นหุ้นหวังผลการเมือง

รายงานข่าวแจ้งว่า ในงานวิจัยของ ดร.เดือนเด่น  นิคมบริรักษ์ จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)  เรื่องปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในวงการธุรกิจเอกชนไทย กับแนวทางแก้ไขและป้องกัน (Corruption in the Private Sector: Preventive and Remedial Measures) ที่เสนอต่อ สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)เมื่อ 10 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น มีส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ คดีในตลาดหุ้น และ ก.ล.ต.

ทั้งนี้ ในงานวิจัยระบุว่า จากการศึกษากรณีการทุจริตของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ทั้ง 5 กรณี ได้แก่ บมจ. ศิครินทร์ บมจ. รอยเนท บมจ. ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น บมจ. เซอร์คิทอิเลคโทรนิคส์ อินดัสตรีส์ และ บมจ. เอส.อี.ซี. ออโตเซลส์ แอนด์ เซอร์วิส คณะผู้วิจัยสามารถสรุปลักษณะและรูปแบบของการกระทำความผิด การทุจริตที่เกิดขึ้นในทุกกรณีเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้บริหารในระดับประธานกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ หรือกรรมการบริษัท เพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยการดำเนินการหลัก 2 ประการ คือ 1. การยักยอกทรัพย์ของบริษัทโดยตรง และ 2. การสร้างราคาหลักทรัพย์ เพื่อหวังผลกำไรจากการขายหุ้นหรือหวังผลทางการเมืองบางประการ

สำหรับวัตถุประสงค์ในการสร้างราคาหลักทรัพย์ของบริษัทนั้น ผู้บริหารจะมีวิธีการในการผลักดันให้ราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อหวังทำกำไรจากการขายหุ้นแบบการซื้อถูกขายแพง โดยจะใช้กลวิธีในการสร้างรายได้เทียมให้กับบริษัท เพื่อแสดงผลการดำเนินงานที่ดีกว่าความเป็นจริง ซึ่งจะเป็นการดึงดูดให้นักลงทุนรายย่อยที่ไม่ทราบข้อมูลเบื้องลึก ทั้งนี้ มักจะอาศัยกลยุทธ์ทางการบัญชี

พร้อมยังระบุว่า การทุจริตที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้ง 5 กรณีตัวอย่างที่ได้ศึกษานั้น ภายหลังจากที่ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษแล้ว มีเพียงกรณีทุจริตของ บมจ. รอยเนท เท่านั้นที่ศาลชั้นต้นได้ประทับรับฟ้องในปี 2546 ในขณะที่คดีส่วนใหญ่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ ศาลชั้นต้นยังได้ยกฟ้องคดีทุจริตของ บมจ. เอส.อี.ซี.ฯ ในกรณีการจัดซื้อรถยนต์ซึ่งมีหลักฐานที่ทำให้น่าเชื่อว่าเป็นการจัดซื้อที่มิได้เกิดขึ้นจริง
อ่านรายงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่ http://bit.ly/jRSJrG

Tags : ตลาด ก.ล.ต. จับมือยัน ทุนการเมือง ไม่ปั่นหุ้น

view