สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

หมู่บ้านแดงปลดธงแล้วหวั่นไม่มีใครซื้อเสียง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สัมมนาแฉกลโกงเลือกตั้ง องค์กรกลางปูดเรื่อง "ทะเบียนบ้านผี" ระบุ "หมู่บ้านเสื้อแดง" ปลดธงแล้วหวั่นไม่มีใครมาซื้อเสียง
ผุ้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.00 น.ศูนย์ศึกษาเอเชียอาคเนย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้จัดการอภิปรายเหตุการณ์เฉพาะการณ์ ในหัวข้อ “กลโกงการเลือกตั้ง” โดยมีพระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  รศ.ดร.ชัยชนะ อิงคะวัต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) และนางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้อำนวยการมูลนิธิอัลเฟรล เข้าร่วมอภิปราย

พระรักเกียรติ กล่าวว่า สมัยก่อนการจะเข้าสู่อำนาจมี 2 ประเภทคือการปฏิวัติรัฐประหาร และการซื้อเสียง โดยเฉพาะในปี 2544 มีการใช้เงินซื้อเสียงกันทั้งประเทศ จนสามารถตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งหากพรรคไหนมีกลุ่มทุนมาก พรรคนั้นก็มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง และหลังจากเข้าสู่อำนาจได้แล้วก็ทุจริตในหน้าที่เพื่อตอบแทนกลุ่มทุนที่สนับสนุน โดยจากประสบการณ์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าในวันเลือกตั้งจะมีชาวบ้านส่วนหนึ่งจะไม่ค่อยออกไปใช้สิทธิ์ โดยจะรอเงินจากผู้สมัครถึงจะไปลงคะแนน ซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ที่ต้องกำจัดออกจากการเมืองไทย

พระรักเกียรติ กล่าวต่อว่า แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มีการโกงกันมากที่สุด โดยใช้กลไกอำนาจรัฐและอำนาจเงินในการซื้อเสียง ทั้งนี้ กลโกงมีวิวัฒนาการ โดยในอดีตเวลาหาเสียงผู้สมัครจะต้องไปจัดตั้งหัวคะแนนในหมู่บ้านก่อน ซึ่งจะตั้งยอด หากหัวคะแนนทำได้ก็จะคูณเป็นเงินเพิ่มให้ ส่วนเทคนิคใหม่ในสมัยนี้ ก็จะมีการขายหวยผู้แทน เช่น พรรคก.ไปหาหัวคะแนน อาจจะเป็นแสดงตัวว่าเป็นเจ้ามือหวยและไปขายหวยในหมู่บ้าน เช่น ขายเบอร์พรรคการเมืองเบอร์ 100 หากชาวบ้านซื้อเบอร์ 100 หากถูกก็จะจ่ายให้ 100 บาท แต่ถ้าเป็นเบอร์อื่น เช่น หากซื้อพรรคการเมืองเบอร์ 200 ต้องซื้อใบละ 100 บาทแต่หากถูกจะได้รับเงิน 500 บาท ซึ่งถ้าเบอร์ 200 แพ้เจ้ามือก็จะกิน ซึ่งชาวบ้านก็ต้องซื้อเบอร์ 200 เพราะมีโอกาสได้รับเงินในจำนวนมาก ทางหัวคะแนนก็จะมีเทคนิคการตั้งรางวัลต่างๆ

พระรักเกียรติ กล่าวว่า สำหรับเทคนิคการโกงในปัจจุบัน จะมีการซื้อกรรมการเลือกตั้งหน่วย หรือที่เรียกว่ากรรมการเขต ประกอบด้วย ปลัดอำเภออาวุโส ซึ่งเป็นประธานเขต ส่วนกรรมการสอบสวนก็จะใช้รองผู้กำกับการสถานีตำรวจ ซึ่งส่วนใหญ่พรรคที่โกงก็มักจะเป็นพรรคจากรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลคุมองค์กร และคุมข้าราชการ สังเกตได้จากหากพรรคจากฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้ร้องให้ตรวจสอบการโกงการเลือกตั้งของฝ่ายตรงข้ามสำนวนจะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นอกจากนี้ ยังมีการโกงบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นไปในลักษณะการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเพิ่ม โดยจะมีกาเบอร์ไว้ก่อนล่วงหน้า และให้ผู้ใช้สิทธิ์ใส่กระเป๋าเข้าไปในคูหา ส่วนใบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมไว้เขาจะไม่กา แต่เขาจะเอาใบเปล่าใส่กระเป๋าออกกลับมา และนำใบที่เตรียมมาหย่อนลงหีบ จากนั้นก็กลับมารับเงิน โดยต้องเอาบัตรเปล่าให้หัวคะแนนดูต่อมา

ขณะที่รศ.สมชัย กล่าวว่า กลโกงการเลือกตั้งมีสองแบบ คือโกง กับโคตรโกง ซึ่งโคตรโกง จะมีการทำทะเบียนบ้านผี ซึ่งทะเบียนบ้านอย่างนี้ไม่มีตัวตน หลังจากนั้นก็จะไปขอให้เพื่อนที่เป็นผู้บริหารท้องถิ่นจังหวัดอื่นย้ายคนออกมา และย้ายเข้าทะเบียนบ้านผีที่สร้างขึ้นมา ดังนั้น คนก็จะเพิ่ม แต่คนเหล่านี้ไม่มีตัวจริง ซึ่งเวลาเลือกตั้ง คนเหล่านี้ที่อยู่ในทะเบียนบ้านผีไม่ต้องไปเลือกตั้ง แต่จะมีทีมตระเวนไปเลือกตั้งแต่ละหน่วยเพื่อเลือกตั้ง ซึ่งวันๆหนึ่งทำได้เป็น 1,000 คะแนน

ทั้งนี้ ในช่วงการเลือกตั้ง ก็จะมีการซื้อเสียงโดยใช้หัวคะแนน สังเกตได้ว่าหมู่บ้านเสื้อแดงในภาคอีสานเคยที่ปักธงไว้หน้าบ้านเริ่มเอาธงลงแล้ว เนื่องจากเดี๋ยวพรรคอี่นไม่กล้ามาซื้อเสียง ต้องเปิดหมู่บ้านรับการซื้อเสียง การซื้อเสียงในภาคอีสานมีการซื้อเสียงแบบเกทับบลั๊ฟแหลกจ่ายเงินไม่อั้นเพื่อแข่งขันกับคู่ต่อสู้ ถามว่าผู้สมัครกับพรรคการเมืองใครมีส่วนในการซื้อเสียงมากกว่ากัน ซึ่งต้องตอบว่าตัวพรรคเองไม่ประสงค์จะซื้อเสียง แต่ตัวผู้สมัครโดนหัวคะแนนมาปลุกปั่นว่าถูกพรรคนั้นพรรคนี้ทำคะแนนแซงแล้ว ผู้สมัครจึงต้องยอมซื้อ และสุดท้ายตนเชื่อว่าทุกพรรคซื้อเสียงหมด

ส่วนการโกงในวันเลือกตั้งนั้น หากกรรมการเลือกตั้งหน่วยรู้เห็นเป็นใจกับผู้กระทำความผิดก็จะสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยหัวคะแนนอาจนำเงินไปจ้างคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้ง หรืออาจใช้วิธีข่มขู่ คุกคามไม่ให้กรรมการหน่วยฯเหล่านี้ไปทำหน้าที่ ซึ่งเมื่อไม่ทำหน้าที่ ตามระเบียบการเลือกตั้งหากกรรมการหน่วยไม่มาทำหน้าที่ กรรมการหน่วยที่เหลือสามารถแต่งตั้งประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นเข้ามาทำหน้าที่ได้เลย ซึ่งมันก็เป็นวิธีการที่เรื่องเพิ่งแดงขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้

"การซื้อเสียงแบบเติมเงินในมือถือให้ก็มี แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะชอบเงินสดมากกว่า ซึ่งก็ยังอุ่นใจได้บ้าง และต้องสังเกตในพื้นที่ กทม. ในช่วงก่อนวันเลือกตั้งจะมีรถตู้ขนคนที่เข้ามาทำงานในกทม.ไปเลือกตั้งที่บ้านต่างจังหวัด และก็จะได้ค่าตอบแทนอีกด้วย" รศ.สมชัยกล่าว

Tags : หมู่บ้านแดง ปลดธงแล้ว หวั่น ไม่มีใครซื้อเสียง

view