สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แดงชนแดงได้เวลาเคาะสนิม

จาก โพสต์ทูเดย์

ถ้า นปช.แตก มันก็จะเหมือนอย่างแดงสยามที่แต่ก่อนรวมกับแดง นปช. แต่วันนี้ แดง นปช.จัดกิจกรรม แดงสยาม ก็ไม่ไปร่วมทั้งที่เป็นคนในอ่างเดียวกันเสื้อแดงทั้งหมดต้องเป็นเอกภาพแต่ ถ้าวันหนึ่งเกิดปัญหาจนมองหน้ากันไม่ติด แดงนั้น แดงนี้ก็ไม่อยากร่วมเพราะตั้งแง่กับ"คนคนเดียว" ถ้าเกิดอย่างนี้สัก 5 กลุ่ม เสื้อแดงก็ขาดพลัง

โดย ...ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม

ร้อนข้ามสัปดาห์กับ "รอยร้าว"ภายในขบวนการเสื้อแดง เมื่อแกนนำ นปช.กลุ่มหนึ่ง ออกมาขับไล่ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ พ้นรักษาการประธาน"นปช.แดงทั้งแผ่นดิน" ว่าไปแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่แกนนำเสื้อแดงขัดแย้งกันอย่างรุนแรง!
         
ครั้ง แรกระหว่างการต่อสู้ในเหตุการณ์พฤษภา2553 แกนนำเสื้อแดงแตกออกเป็นสองเสี่ยง ปีกหนึ่งให้ยุติชุมนุม อีกปีกให้เดินหน้าต่อ ทว่าผลสุดท้ายแกนนำต่างพ่ายแพ้ติดคุก บางส่วนหลบหนีกระเจิงไปต่างประเทศ
         
ครั้ง นี้เสื้อแดงกลับมาแข็งแกร่งช่วยให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาล ขณะที่ชาวแดงฉลองชัยยินดี แต่แกนนำกลุ่มหนึ่งใช้โอกาสนี้สะสางปัญหาความขัดแย้งที่สะสมจนระเบิดออกมา โดยเฉพาะคำพูดของ "ชินวัฒน์ หาบุญพาด"หัวหอกที่ออกมาขับ ไล่ธิดาอย่างไม่ไว้หน้าว่า มีท่าทีเผด็จการ ทุบโต๊ะไม่รับฟังผู้อื่น พร้อมอ้างว่า แกนนำส่วนหนึ่งก็สุดเอือมกับพฤติกรรมเช่นนี้จนไม่มีใครอยากนั่งร่วมแถลงข่าว กับธิดาแล้ว
         
ก่อนที่ธิดา จะตอบโต้ว่า การขับเคลื่อนให้ปลดเธอออกจากผู้นำ นปช. มีวาระซ่อนเร้น!แม้ปฏิบัติการ "ดับเครื่องชน" ของชินวัฒน์ ที่บุกไปหาธิดาก่อนการแถลงข่าวที่อิมพีเรียลลาดพร้าวเพื่อขอให้ลาออกจนเป็น ข่าวครึกโครมว่า "แดงแตก"จน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะกาวใจให้ทั้งหมดยุติการเคลื่อนไหว แต่ชินวัฒน์ยืนยันว่า เรื่องนี้ยังไม่จบรอให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาลเสร็จก่อน แล้วค่อยมาสะสางจนกว่า ธิดา จะลาออกจากรักษาการประธาน นปช.
         
"อ.ธิดา บอกว่า ไม่เคยยึดติด แต่ก็ไม่ลาออกมันสวนทางที่พูด เราเคยขึ้นเวทีด่านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไม่ใช่หรือว่า ทำไมตั้ง ผบ.ตร.รักษาการจนเกษียณอายุ แต่นี่เรากลับมาทำเอง เราต้องเอาหลักการมาตัดสิน อย่าดันทุรัง ถ้ายังบอก ฉันไม่ออกแล้วใครจะทำงานแทน มันผิดหลักการ เรื่องนี้เป็นเรื่องระบบ ไม่ใช่เรื่องหลักกู และขอบอก หมอเหวง(โตจิราการ) ควรปกป้ององค์กร อย่ามาปกป้องเมียอย่างผมปกป้ององค์กร เพราะผมกลัวองค์กรจะแยกเป็นสองส่วน และถ้าหัวขบวนแยกกัน มันก็ไม่มีพลัง"ชินวัฒน์ บอก 

"ถ้า นปช.แตก มันก็จะเหมือนอย่างแดงสยามที่แต่ก่อนรวมกับแดง นปช. แต่วันนี้ แดง นปช.จัดกิจกรรม แดงสยาม ก็ไม่ไปร่วมทั้งที่เป็นคนในอ่างเดียวกัน เสื้อแดงทั้งหมดต้องเป็นเอกภาพ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดปัญหาจนมองหน้ากันไม่ติด แดงนั้นแดงนี้ก็ไม่อยากร่วมเพราะตั้งแง่กับ 'คนคนเดียว'ถ้าเกิดอย่างนี้สัก 5 กลุ่ม เสื้อแดงก็ขาดพลัง"
         
ถ้า อ.ธิดา ไม่ลาออกจะเป็นอย่างไร?....ก็จะเป็น"จารุวรรณ 2" เราก็เคยด่าเขาไม่ใช่หรือว่า เกาะเก้าอี้แน่น ขนาดหมดวาระแล้วก็ไม่ไป แต่ถ้าเราเอาหลักการมาจับ อ.ธิดาก็ต้องออก ถ้าจะเป็นต่อก็มาเลือกตั้งแข่งเป็นประธาน นปช.ตัวจริง
         

แต่หลายคนในแกนนำฝ่ายเรือนจำสนับสนุนธิดา?..."ถ้า เห็นด้วยก็มาเลือกตั้งประธาน นปช.ซิ อย่างพี่วีระ มุสิกพงศ์ ก็มาจากการเลือกตั้ง คนเสื้อแดงโหวตให้ จะมาบอกว่า เฮ้ย...อยู่ไปอย่างนี้อ.ธิดา ดีแล้วเป็นไปเหอะ...อ่าวแล้วพวกคุณไม่ยึดหลักการเหรอ ในเมื่อเราต่อสู้กับคนที่ไม่มีหลักการมาเราไล่ให้รัฐบาลอภิสิทธิ์เลือกตั้ง ใหม่ให้มาจากประชาชน อ.ธิดา ก็ควรมาจากการเลือกตั้ง เขาโหวตมาจากไหนล่ะ หน้าเรือนจำเหรอ"
         
แกนนำ นปช.ผู้นี้ ย้ำว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหาและไม่ได้เป็นศัตรูกับธิดา เพราะเคยร่วมต่อสู้มาด้วยกันตั้งแต่หลายปีก่อน แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว แกนนำนปช.ที่เป็นนักเรียนนอก (หลบหนีคดีไปต่างประเทศ)ได้เดินทางกลับประเทศไทยและได้ประกันตัว ส่วนเสื้อแดงก็ชนะที่ช่วยให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็ถึงคราวที่ต้องมาปรับโครงสร้างองค์กรเสื้อแดงกันใหม่เพราะช่วงที่ อ.ธิดาได้รับเลือกเป็น รักษาการประธานนปช. ก็หลังเหตุการณ์พฤษภา 2553 ที่สถานการณ์บังคับเนื่องจากไม่มีแกนนำเหลืออยู่ ส่วนหนึ่งติดคุกอีกส่วนออกนอกประเทศ มีเพียง อ.ธิดา ที่ไม่ถูกตั้งข้อหาจับกุมและเป็นผู้อาวุโสสุด จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำโดยอัตโนมัติ
         
ชินวัฒน์ ลำดับเหตุการณ์ "ดับเครื่องชน" ว่า ในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค. ได้นัดพบแกนนำ นปช.ร่วมสิบคนที่ร้านอาหารเพลิน มี สุ ภรณ์ อัตถาวงศ์ "แรมโบ้อีสาน" พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ วิสา คัญทัพไพจิตร อักษรณรงค์ วรวุฒิ วิชัยดิษฐ ประแสงมงคลศิริ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ วันชนะ เกิดดีสมหวัง อัสราษี โดยตั้งใจคุยเรื่องทิศทาง นปช.หลังพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อีกเรื่องได้เสนอว่าเมื่อ นปช.หันเหสู่การเมืองในระบบ ก็ต้องไม่ทิ้งพี่น้องเสื้อแดง แกนนำที่เหลือจึงควรกลับไปสู่บ้านหลังเก่า คือ "นปช.แดงทั้งแผ่นดิน"
         
"ตอน นั้นผมเชิญทุกคนไปอิมพีเรียลลาดพร้าวที่ อ.ธิดาจะแถลงข่าว แต่ทุกคนบอกว่า ไม่ไป บางคนก็บอกว่า ผมจะกลับไปหาเสื้อแดงที่จังหวัดเขา อย่างนี้มันก็แตกซิ เพราะแกนนำ นปช.นับสิบ ไม่ใช่คนคนเดียวแล้ว และการที่แกนนำนั่งแถลงข่าวแต่ละวัน พอตัวหลักของ นปช.หาย ก็ไปหยิบเอาคนอื่นมานั่งคู่ อย่างนี้ไม่ดี สุดท้ายแล้วมันก็จะเกิดการเสื่อมสลายขององค์กรเพราะมันเริ่มจากจุดที่แตกแยก
         
"ผม เลยถามทุกคนว่า เพราะอะไรที่จะไม่ไปอิมพีเรียล แกนนำทั้งหมด ยกเว้น วรวุฒิ กับวิสา บอกโดยสรุปคือ 1.อ.ธิดาไม่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย แกนนำเสนอเรื่องอะไรแทนที่จะพิจารณาก็บอกไม่เอา 2.อ.ธิดาเป็นคนเจ้าอารมณ์ ถ้าไม่ได้ดั่งใจก็แสดงความโกรธออกมาหรือระหว่างแถลงข่าวก็แสดงความไม่พอใจ ออกมา 3.อ.ธิดาเป็นต้นเหตุของความแตกแยกของแกนนำ 4.อ.ธิดาเป็นต้นเหตุความแตกแยกของกลุ่มต่างๆ เช่น กับกลุ่มแดงสยาม เพราะทะเลาะกับ สุรชัย แซ่ด่าน ไม่เว้นแม้แต่บ้านเลขที่ 111 ที่เขาอบรมประชาธิปไตย อ.ธิดาก็ไม่พอใจยังบอกว่า มาจัดแข่งทำไม ชวนทะเลาะกับสมาชิกทั้งที่เขาก็เป็นเสื้อแดงเหมือนกัน 5.ข้อกล่าวหา สภาผัว-นปช.เมีย ที่นพ.เหวงโตจิราการ และ อ.ธิดา เป็นสามีภรรยากัน"
         
"ผม อาสาไปคุยกับ อ.ธิดา เลยถามว่า ต่อไปนี้ นปช.จะเดินไปทางไหน และแจ้งว่ามีแกนนำนปช.กล่าวหาอ.ธิดา ก็อยากให้ถอยหลังแล้วเอาลูกปิงปองมาคละกันใหม่ ใครหยิบลูกใครได้ก็ว่าไป พอผมพูดแค่นี้ อ.ธิดาก็อารมณ์โกรธ ทุบโต๊ะเปรี้ยง ช้อนร่วง แล้วก็ลำเลิกบุญคุณทันทีว่า'ไอ้ที่ออกคุก ตารางมาได้ไม่ฉันหรือ และพวกคุณกลับบ้านมาได้ ไม่ใช่ฉันหรือ' บางประโยคก็พูดว่า 'ถ้าฉันออก ใครจะรับผิดชอบ' อ.ธิดายังตะโกนว่า ต่อไปนี้ต้องประกาศรับสมัครประธาน นปช.แล้ว"

อย่างไรก็ตาม อ.ธิดา ตอบโต้ภายหลังว่าการเคลื่อนไหวของชินวัฒน์อาจโยงถึงกลุ่ม"แดงสยาม"และเป็น แผนให้ นปช.เกิดความแตกแยก ชินวัฒน์อารมณ์ขึ้นทันที
         
"เขา เรียกว่า พฤติกรรมสันดานคนอย่างนี้แหละ ที่เขาไม่อยากให้อยู่ ก็เพราะไปก้าวก่ายคนนั้นคนนี้ ผมบอกแล้วไงว่า ผมมาในฐานะตัวแทนของ นปช.กลุ่มหนึ่งรวม 9 คน"

"ผมรู้ว่าอ.ธิดา มองไปถึงใคร ถึงนู้นแหละ(ลากเสียง)... จักรภพ เพ็ญแข ที่อยู่ต่างประเทศอย่างผมไม่มีใครหนุนหลัง ผมสู้มาก่อนใครๆ ทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้ นายกฯ ทักษิณ ก็ไม่สามารถสั่งทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ แต่วันนี้ อ.ธิดา ก็ยังไม่ไปเยี่ยม สุรชัย แซ่ด่าน (แกนนำแดงสยาม) เลยอย่ามาบอกคนพวกนี้ไม่ดี แสดงว่า คุณปฏิเสธพวกเดียวกันซิ คุณอย่ามาชูตัวเองว่า ดีกว่าคนอื่นนะ ทุกคนต่างต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีการมันเป็นเรื่องของเขา แสดงว่า อ.ธิดา กลัวสุรชัย มาแย่งที่นั่งเหรอ สุรชัยเขาอยู่ในคุก เขาจะได้ออกเมื่อไรก็ไม่รู้ เพราะพวกคุณไม่ได้สนใจเขา แล้วทำไมอ.ธิดา อยากอยู่นัก แสดงว่าคุณกลัวคนอื่นจะมาเอาผลประโยชน์ อย่าเอากิเลสมาพูด โถ...ไอ้ที่นั่ง ประธาน นปช.ยังขนาดนี้แล้ว ถ้าคุณไปเป็นอย่างอื่นจะเป็นอย่างไรแล้วเราจะไปด่าว่า คุณหญิงเป็ดทำไม อ๋อ...ผมก็มาถึงบางอ้อว่า คุณหญิงเป็ด ยังเบากว่าคุณหญิงธิดาใช่ไหม ก็เนี่ยล่ะเพราะความอคติ กิเลส (เน้นเสียง) ไอ้แค่นี้ก็กิเลสหนาป่านนี้แล้วปัทโธ่...มันก็แค่รักษาการ ถ้าทำให้มันถูกมาลงเลือกตั้งก็จบแล้ว"
         
ปมความขัดแย้งที่ แดงเดือดอยู่ในหมู่แกนนำยังไม่รู้บทสรุปจะรุนแรงแค่ไหนและใครจะอยู่ใครจะไป แน่นอนนี่ย่อมกระทบต่อเอกภาพของแกนนำเสื้อแดง ในภาวะ "แดงกลับมาสงบ" ผ่อนเบาการต่อสู้ลง กระนั้น ชินวัฒน์ ในอีกสถานะคือ ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยลำดับที่ 72 มองว่า แม้เราช่วยให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่เสื้อแดงยังมีภารกิจสร้างความเป็นธรรมต่อไป รวมทั้ง ตรวจสอบ ตักเตือนรัฐบาลไม่ให้คอร์รัปชัน ป้องกันไม่ให้คนอื่นมองว่า "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง"
         
"ถ้ารัฐบาลใหม่อีลุ่ยฉุยแฉก เราก็ไม่เอา ไม่ใช่ว่า เราไปผูกติดกับรัฐบาลนี้แบบดีก็รัก ไม่ดีก็รัก ไชโยทุกอย่าง ชั่วก็ดี ไม่ใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็เป็นปัญหาอีก เราต้องดูรัฐบาลด้วยว่า เขาเดินไปถูกทางหรือไม่ ทำประโยชน์ให้กับประชาชนแค่ไหน ถ้ามันมีการโกงกินกันแบบเดิม เราก็ต้องติงกัน"
         
"เราอย่าไปหวังว่า เราจะต้องอยู่นาน เราต้องคิดเสมอว่า รัฐบาลต้องบริหารประเทศให้โปร่งใส แต่ถ้ายังอยู่แบบเก่า มีแต่โกงกิน อยู่ซอมซ่อ ทำอะไรก็ไร้ผล ก็ต้องบอกกันให้ปรับปรุง ถ้าไม่ได้ก็ต้องออกไป เราต้องยึดหลักความเป็นธรรม นี่ผมพูด ผมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและเป็นผู้สมัคร สส. และแกนนำ นปช.ด้วย แต่จะมาแบ่งใจผมให้กับคนที่ไม่ถูกต้อง ผมก็ไม่เอา"
         
นปช.จะ ซ้ำรอยพันธมิตรกับประชาธิปัตย์ที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน แต่เมื่อประชาธิปัตย์มีอำนาจรัฐ ไม่ตอบสนองพันธมิตร เสื้อเหลืองจึงแยกมาเป็นศัตรู โจมตีกันเอง?ชินวัฒน์ แย้ง"ต่างกันสิ้นเชิงเสื้อแดงไม่เหมือนพันธมิตรที่ไม่มีหลักการและไม่ได้ทำ เพื่อประชาธิปไตย"
         
"เราจะไม่ทำอย่างพันธมิตร ไม่ใช่โกรธ แล้วทำลาย เราต้องใช้หลักการประชาธิปไตยเป็นเครื่องตัดสิน ...แน่นอนเราก็ไม่ได้เหมาว่า เสื้อแดงทำอะไรแล้วถูกต้องทั้งหมดนะ อย่างที่บางกลุ่มปิดล้อมพรรคประชาธิปัตย์ ขับไล่นายอภิสิทธิ์ เราก็ไม่ได้เห็นว่า ถูกต้อง ความจริง เสื้อแดง เราบังคับเขาไม่ได้หรอก มันมีเยอะ ทุกตัวเมือง แต่เราต้องมีหลักการมากำหนด"
         
"แต่ การที่อย่างแม่น้องเกด (พะเยาว์อัคฮาด) มาเรียกร้องต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเรื่องการฆ่า 6 ศพ ที่วัดปทุมวนารามอย่างนี้ถือว่า ทำถูก พรรคเพื่อไทยไม่มีสิทธิมาห้ามให้อยู่อย่างเงียบๆ หรืออยู่อย่างสงบ แต่ถ้าเสื้อแดงไปรุกรานให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองทั้งที่ยังไม่ได้เป็น รัฐบาลหรือเป็นรัฐบาลแล้ว โดยไม่มีเหตุผล อย่างนั้นเราก็ไม่เห็นด้วยฉะนั้น การเดินต้องยึดระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ตั้ง สิทธิที่ถูกต้องและต้องถูกใจด้วย"
        

ผู้นำแท็กซี่สู่นปช.

ขบวนการเสื้อแดงที่ใหญ่โตมาจากแนวร่วมที่หลากหลาย โดยเฉพาะจากกลุ่มคนชั้นล่างที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สำหรับ "ชินวัฒน์หาบุญพาด"เป็นแกนหลักในปีกมวลชนกลุ่มคนแท็กซี่ในเมือง ที่ร่วมออกมาต่อสู้ให้ทักษิณเมื่อครั้งม็อบเสื้อแหลืองออกมาขับไล่ใหม่ๆ จนวันนี้ยืนเคียงข้างมาร่วม 5 ปี
         
ชินวัฒน์ เป็นแกนมวลชนต่อสู้กับทักษิณตั้งแต่ยังไม่ใส่เสื้อแดง โดยเป็นแกนนำ นปก.หรือ "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ" ชุดดั้งเดิม ก่อนจะพัฒนาเป็น นปช. ปัจจุบันเจ้าตัวเป็นนายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ และผู้อำนวยการวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ FM 92.75
         
กระบอกเสียง สำคัญของเสื้อแดง แต่ผลจากขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ในเหตุการณ์สงกรานต์เลือด ปี 2552 และพฤษภามหาโหด 2553 ทำให้ชินวัฒน์ถูกตั้งข้อหาไปเหนาะๆ ร่วม10 คดี เช่นคดีตั้งวิทยุชุมชนเถื่อน คดียุยง ปลุกปั่นที่แท็กซี่ปิดอนุสาวรีย์ชัยฯคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ทำเนียบรัฐบาล คดีก่อการร้าย และหลังเจ้าตัวเดินทางกลั บ ไ ทยทั น ทีที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็โดนทิ้งท้ายไปอีกคือ "คดีหมิ่นสถาบัน" ผิดมาตรา 112
         
ชิน วัฒน์ บอกว่า การจัดกิจกรรมตั้งแต่เป็นนปก.จนถึง นปช. ที่สนามหลวงมาจากกระบอกเสียงของเรา มีคนรู้จักเกินกว่า 80% สำหรับสมาชิกที่มาลงทะเบียนเป็นทางการมีอยู่ 8,000 แต่ไม่ได้หมายความว่าวันนี้จะเรียก 8,000 ได้ ผมเคยตั้งเวทีเองก่อนพรรคพวกด้วยซ้ำ ที่หมอชิตจตุจักร กระทั่งล้นหลามโด่งดังไปทั่วโลก
         
หลังเหตุการณ์ "ผ่านฟ้า-ราชประสงค์" แกนนำนักเรียนนอกผู้นี้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศร่วม 8 เดือนพร้อมกับแกนนำอีกกลุ่ม แต่ปฏิเสธที่จะบอกว่าหลบอยู่ประเทศใด
        
เขา เล่าเหตุการณ์วิกฤตครั้งนั้น"ออกจากเวทีวันที่ 17 พ.ค. 2553 ก่อนสลายการชุมนุม 2 วัน ตอนนั้นผมและแกนนำ เช่น พี่วีระ อดิศร วิสา ไพจิตร ไวพจน์ มาอยู่ โรงแรมที่ประตูน้ำแถวอินทรา ตอนผมออกตั้งใจจะเข้าไปใหม่ก็เข้าไม่ได้ เพราะทหารเริ่มล้อม ผมก็ต้องนึกเสี่ยงออกดีกว่า ทุกด่านถูกตรึงไว้หมด และไม่นานทหารก็ต้องเข้ามาที่โรงแรมแน่ ถ้าเราอยู่ ไม่ตายก็ติดคุก คนที่พูดว่าสู้ตาย แต่ถึงเวลาจะ ตายจริงๆ บอกไอ้นี่ไปตายแน่ จ้างก็ไม่ไป "ตอนนั้น หมอเหวงอ.ธิดา ก่อแก้ว หายไปก่อนผมอีก พี่น้องลืมไปแล้วหรือครับ ส่วนพี่วีระไปลงสถานีบางซื่อก่อน อ.ธิดา มาอีกครั้ง ตอนฝุ่นจางควันปืนหายทุกอย่างสงบ ก็เพราะรัฐบาลไม่ได้ตั้งข้อหาอะไรเนื่องจาก อ.ธิดาไม่ได้ยืนอยู่บนเวที เหมือนณัฐวุฒิ จตุพร วิภูแถลง"
         
"ผมเดินทางออกไปทาง มักกะสัน ฝ่าด่านช่วงใกล้เที่ยง แต่ทหารต่างจังหวัดจำหน้าผมไม่ได้ ผมให้ลูกน้องผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปเคลียร์ดูอาการทหารก่อน นานๆ เห็นรถไปสักคันก็เลยสั่งลูกน้องไป ตอนออกผมก็ยังวนเวียนอยู่ที่กรุงเทพฯ 10 กว่าวัน ก่อนจะหลบไปต่างประเทศวันที่ 29 พ.ค. ตอนนั้นไม่รู้ว่าแกนนำ นปช. หลบไปทางไหนบ้าง ทุกคนกระจัดกระจาย"
         
ชินวัฒน์ บอกว่า ตลอด 8 เดือนอยู่ประเทศเดียวร่วมกับ "กี้ อริสมันต์"ด้านจิตใจลำบากมากเพราะอยากกลับบ้าน แต่ถ้ากลับไปก็กลัวปืนของทหาร ไม่มั่นใจว่า ถ้ากลับแล้วจะตายหรือจะติดคุก หรือจะได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน ส่วนแนวร่วมต่างประเทศ ที่หลบหนีไปด้วยมี 10 กว่าคน แต่อยู่คนละประเทศ บางคนก็อยู่ยุโรปเช่น อ.จรัล ดิษฐาอภิชัย ดารุณี กฤตบุญญาลัยก็อยู่อีกเมือง แต่เราสื่อสารกันได้ทางอินเทอร์เน็ต ก่อนยืนยันว่า ไม่ได้ซ่องสุมกำลังเพื่อโค่นล้มอย่างที่รัฐบาลกล่าวหา เพราะแม้แต่อาชีพ ความเป็นอยู่ เรายังต้องอาศัยเขา แล้วจะเอาอะไรมาซ่องสุม
         
ก่อน จบ ชินวัฒน์ ขอความเป็นธรรมให้"กี้ อริสมันต์" ว่า "เท่าที่อยู่มาด้วยกันไม่มีอะไรแต่กี้เสียเพราะปาก เป็นคนชอบแอ็กชัน ส่วนลึกเขาโอบอ้อมอารีกับพรรคพวก แต่ไม่มีอะไรช่วงหลังเขาก็บอกผมว่า มีคนว่าเขาเยอะ เขาก็คงจะรู้ตัวบ้างแหละ"

Tags : แดงชนแดง ได้เวลาเคาะสนิม

view