จาก โพสต์ทูเดย์

สัมภาษณ์พิเศษ "นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯผู้รับหน้าที่กำกับดูแลสื่อรัฐ

โดย...ทีมข่าวการเมือง

“...อันไหนที่จะทำให้คนหวาดกลัว หรือทำให้ไม่เข้าใจกันก็ไม่ควรจะไปย้ำ คนปรองดองจะเป็นคนที่เข้ากับทุกฝ่ายได้  เราจะใช้ศิลปะการพูด ทำความเข้าใจมากกว่าใช้การโยกย้ายเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เหมือนฟ้าผ่า ไม่อยากเห็นเช่นนั้น”

วิกฤติการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น หนีไม่พ้นการทำหน้าที่และความรับผิดชอบของสื่อสารมวลชนที่นำเสนอข้อเท็จจริง อย่างตรงไปตรงมา หรือ ถูกใช้เป็นเครื่องอย่างหนึ่งในสร้างความขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ฉะนั้นผู้ที่เข้ามารับหน้าที่กำกับดูแลสื่อของรัฐ จะต้องสลายปมปัญหาที่มีอยู่ให้หมดไป

นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นม้ามืดที่เข้ามารับหน้าที่นี้ ด้วยบุคลิกเป็นคนไม่แข็งกร้าว ชอบช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน มาตั้งแต่สมัยเป็นจักษุแพทย์ของโรงพยาบาล จ.ชัยภูมิ จนได้รับรางวัลนายแพทย์ชนบทดีเด่นของประเทศไทย พ.ศ. 2525 และได้เป็นสส.ยาวนานถึง 8 สมัย จนท้ายที่สุดได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้ รมต.กำกับดูแลสื่อที่เขายืนยันว่า มีแนวทางสนับสนุนการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนอย่างเป็นอิสระ และมีกรอบว่าจะต้องยึดแนวทางสร้างสรรค์ มีแนวทางที่ทำให้ประชาชน เกิดความรักความสามัคคี ถือเป็นจุดใหญ่ที่ตั้งไว้

“ผมตั้งความหวังไว้สูงกับพี่น้องสื่อสารมวลชน เป็นหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ โดยจะต้องพูดคุยกันเพื่อหาวิธีไม่ว่าจะเป็นด้าน การเมือง ท่องเที่ยว การศึกษา ทุกด้านที่เราจะอาศัยสื่อมวลชน เข้าไปเป็นหลัก ผมเห็นหลายประเทศก็ใช้ เช่น สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ก็ใช้มาแล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จ ถ้าผมทำงานชิ้นนี้สำเร็จก็คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน รวมถึงนักวิชาการด้วย ให้มาร่วมคิดว่าถ้าคิดอย่างนี้จะไปได้หรือไม่”

@พูดกันเสมอผู้เข้าสู่ตำแหน่งมักใช้อำนาจรัฐแทรกแซงสื่อ

ไม่มีครับ แต่จะเป็นการหารือกับสื่อสารมวลชนของเรา จะมารับผิดชอบในเรื่องใดบ้าง เช่น การท่องเที่ยวที่จะทำอย่างไรให้ภาพพจน์ของประเทศไทยจึงจะเป็นแรงจูงใจให้คน มาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น ด้านการศึกษา เราก็จะหาวิธีว่าสื่อสารมวลชนจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพูดเรื่องพิษภัยยาเสพ ติด การรักษาผู้ที่ติดยาเสพติด และปรามผู้ที่กระทำผิด ตามที่พระราชเสาวณีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ท่านได้ตรัสว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาร้ายแรง

@มีจุดยืนอย่างไรต่อสื่อเสนอข้อมูลไม่ถูกใจนำไปสู่คำสั่งรื้อผังรายการ

ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ยังคิดว่าทุกคนมีความรักบ้านรักเมืองเหมือนกัน แม้ว่า รายการจะเคยไม่ถูกอกถูกใจบางกลุ่ม แต่ถ้าได้พูดคุยกัน ปรับแนวทางบ้าง ก็สามารถทำต่อได้ แต่เราจะต้องยึดหลักประโยชน์ของประชาชน การปรองดองของคนในชาติ อันไหนที่จะทำให้คนหวาดกลัว หรือทำให้ไม่เข้าใจกัน ก็ไม่ควรจะไปย้ำ คนปรองดองจะเป็นคนที่เข้ากับทุกฝ่ายได้  เราจะใช้ศิลปะการพูด ทำความเข้าใจมากกว่าใช้การโยกย้ายเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เหมือนฟ้าผ่า ไม่อยากเห็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะพูดกันได้ คงไม่ถึงกับต้องปรับอะไร เพราะเชื่อว่าจะสำเร็จก่อนที่จะทำเช่นนั้น มีผู้ใหญ่ในพรรคเลือกให้มานั่งตำแหน่งนี้ ก็เพราะเชื่อว่า ไม่ใช่คนแข็งกร้าว ฉะนั้นทุกรูปแบบที่รัฐบาลนี้จะทำคือ ต้องการให้เป็นเชิงปรองดองมากที่สุด ถ้าเราไปทำอะไรรุนแรงมันก็ไม่จบ เริ่มต้นจะพูดให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบที่เราต้องการ

ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงที่สื่อนำมาเสนอ เราก็ยอมรับ แต่มุมที่ออกไปให้ประชาชนได้เข้าใจนั้นจะมีหลายมุมก็เลือกมุมที่จะเป็น ประโยชน์ต่อประชาชน แต่ข้อเท็จจริงก็ต้องนำมาเผยแพร่ ซึ่งข้อเท็จจริงของกรณีต่างๆ ก็ขอให้ทุกฝ่ายยืนอยู่ต่อไป แต่การนำข้อเท็จจริงมาออกย้ำ มันขึ้นอยู่กับแนวทางที่จะให้คนตีกันก็ได้ ให้คนปรองดองก็ได้

ดังนั้นจะขอให้ทุกฝ่ายนำข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงเหล่านั้นออกมาทำให้ประชาชนเกิดความรู้ ซึ่งเราต้องมาช่วยกัน ดีกว่าที่จะไปประหารกัน

เคยมีเหตุการณ์กลุ่มการเมืองเข้ามาจัดรายการปลุกระดม ภาพเช่นนี้จะกลับมาหรือไม่ : เชื่อว่าไม่น่ากลับมาอีก ทุกคนหวังจะอยู่ในกรอบของเขา แต่ต้องอยู่ในกรอบของเราด้วย เพราะแม้แต่เวทีเสื้อแดงก็จะต้องไปพูดคุย ถ้าคนเสื้อแดงลดลง ทุกอย่างก็ลดลงได้ เพื่อทำให้ทุกคนเห็นบ้านเมืองเดินไปได้ ถ้าเราปลุกระดมให้คนเกิดความรู้สึกเป็นฝักฝ่ายมากเกินไป ก็จะทำให้เราไม่สามารถร่วมกันแก้ปัญหาของประเทศ ต้องให้เหตุและผล เชื่อว่าสุดท้ายจะทำได้

@ถ้าหากมีอำนาจที่ใหญ่กว่าสั่งได้ไหม

น่าจะไม่มีใครมาสั่ง เพราะแนวคิดปรองดอง เชื่อว่าคนทุกระดับยังต้องการเห็นประเทศชาติเกิดความปรองดองให้ได้ ส่วนตัวมีความประทับใจ ว่า จะใช้สื่อสารมวลชนเป็นแกนหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ คือจุดใหญ่ แต่เรื่องรายละเอียดจะต้องมาปรึกษากัน เป็นการลงทุนน้อยแต่เห็นผล

@ย้อนไปรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการเชิญทุกฝ่ายมาร่วมเสนอ ภาพเช่นนั้นจะมีอยู่หรือไม่

ควรจะมีครับ สิ่งที่ดีเราจะสานต่อ ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคน ทุกสาขาอาชีพ อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าเราบอบช้ำมามาก จะเป็นช่วงเวลาที่เราจะมาสร้างบ้าน สร้างในสิ่งที่ดีงาม

@รัฐบาลชุดใหม่มีแนวทางจะปฏิรูปสื่อหรือไม่อย่างไร

ในส่วนการทำงานของสื่อ ถ้าผมมีโอกาสเราจะให้กำลังใจและโอกาสในการทำงานเช่น สถานที่มีอะไรให้ทางรัฐบาลเข้าไปช่วย แต่ยังไม่รู้ปัญหา เท่าที่ทราบว่า อุปกรณ์ต่างของสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ ยังน้อยกว่าช่องอื่นๆ ส่วนเรื่องอุดมการณ์เมื่อเป็นไปในทางเดียวกันทุกอย่างก็จะเป็นการปฏิรูปไปใน ตัว

@ช่วง2ปีที่ผ่านมารายการของช่องโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ เป็นอย่างไรบ้าง

มีหลายรายการที่ดูแล้ว เป็นรายการพัฒนา เพราะแนวคิด แนวการพูดบางครั้งดูเหมือนทำให้เกิดความแตกแยก ส่วนบางรายการมุ่งตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ตรวจต่อไปได้ก็เป็นหน้าที่ อะไรที่ควรเอามาตีแผ่ก็ว่ากันไป

@จะมีรายการให้นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับประชาชนหรือไม่

ขณะนี้กำลังหาเวลาที่เหมาะสม อยากให้มีแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

@รัฐบาลจะอยู่ยาวหรือไม่

ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาล ถ้าทำงานแก้ปัญหาประเทศชาติได้ก็อยู่นาน ส่วนบรรยากาศความรุนแรงเช่นที่ผ่านมา เมื่อมองดูแล้วเห็นว่าดีขึ้น เราก็จะใช้ช่วงเวลานี้แสดงออกถึงความจริงใจที่จะเข้ามา ทั้งนี้นโยบายรัฐบาลจะมีนโยบายเร่งด่วน เช่น ในเดือน ส.ค.ก.ย. รัฐบาลจะทำอะไรบ้าง ขณะนี้นโยบายยังไม่ถึงกับร่างเสร็จแล้ว แต่ว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายไว้แล้ว ซึ่งจะต้องทำให้ได้

อย่างไรก็ตาม เราต้องอาศัยสื่อมวลชนว่ามีความคิดเห็นอย่างไรที่เราจะมาร่วมกันได้ ส่วนตัวในฐานะที่เข้ามาดูแลงานด้านนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการประสานระหว่างสื่อมวลชนได้

**************************

พลังงานหลุดสธ.วืดลงตัวสำนักนายกฯ

จากเลขานุการประธานส.ส.ภาคอีสาน ลงทุนลงแรงพาพี่น้องส.ส.ภาคอีสานกว่า 104 ชีวิตเข้าสู่สภาสำเร็จ ถือว่าเป็นชัยชนะเกินเป้าหมายที่เขาและพายัพ ชินวัตร ประธานส.ส.ภาคอีสานประเมินไว้   แน่นอนผลของความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ต้องได้ผลตอบแทนกับตำแหน่งสำคัญ

ด้วยประสบการณ์เป็นประธานกรรมาธิการพลังงานจึงเป็นอีกตัวเลือกว่าที่รม ว.พลังงานแต่คนอยากเป็นรมต.มีมากกว่าตำแหน่งจึงหลุดจากรมว.พลังงานเล็งเป้า ไปที่รมช.สาธารณสุขเพราะความเป็นหมอเก่าแต่วืดอีก ถึงกระนั้นเพราะอาวุโสมีบารมีก็ยากหลุดตำแหน่ง อีกทั้งเป็นคนมีอัธยาศรัยไมรีเข้าได้ทุกกลุ่ม ก่อน 1วันส่งรายชื่อครม.จึงลงตัวตำแหน่งสุดท้าย “ รมต.สำนักนายกฯ” กำกับดูแลสื่อสารมวลชน