ยุติศึกเสื้อแดง...ก่อนศก.ล่มสลาย
โพสต์ทูเดย์หมดสิ้นแล้วความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาชาวโลก ซึ่งทุกคนก็แทบไม่เชื่อเหมือนกันว่า ประเทศไทยเป็นอะไรไปได้มากมายถึงขนาดนี้
ความหวังสุดท้ายของภาคธุรกิจในเวลานี้ คือ การจบสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มม็อบเสื้อแดงให้เร็วที่สุด ด้วยยุทธวิธีขั้นเด็ดขาด เนื่องด้วยเวลานี้ม็อบดำเนินกิจกรรมโดยขาดเหตุผลและหลักการประชาธิปไตยไป แล้ว
จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งคืนความสงบให้บ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ ของประเทศที่ไม่ต้องการเลือกสีแบ่งฝ่ายเป็นลำดับแรก
เพราะความหวังอันเลือนรางต่อการประคับประคองเศรษฐกิจประเทศในเวลานี้ ช่างยากเย็นยิ่งกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา สถานการณ์เพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ทำให้ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) และ หอการค้าไทย ตลอดจนภาคธุรกิจท่องเที่ยวต่างออกมาแสดงท่าทีชัดเจน ขอให้รัฐบาลจัดการแก้ปัญหาม็อบให้เรียบร้อยภายใน 1-2 วัน
หากจบเทศกาลสงกรานต์แล้ว ยังไม่สามารถแก้ไขหรือคลี่คลายปัญหาให้ทุเลาลงได้ ปล่อยทุกอย่างให้ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ทุกเสียงพูดตรงกันว่า อนาคตประเทศไทยคงหมดสิ้นนับจากนี้
ขณะนี้ภาคธุรกิจเหลือที่จะรอไหว ไม่เฉพาะแต่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเท่านั้น ที่เดือดร้อนย่ำแย่ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ แม้แต่ในกลุ่มภาคการค้าทั้งในประเทศและกลุ่มผู้ประกอบการภาคส่งออก การค้าขายติดขัดไปทั่ว
เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มการค้าระหว่างประเทศ ตอนนี้ประเทศคู่ค้าต่างก็เป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทยไม่แพ้คนในชาติ
ใครๆ ก็ห่วงว่าความสามารถในการจัด ส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ หรือออร์เดอร์ของไทย จะยังทำได้ตรงตามเวลาเหมือนเดิมหรือไม่
ถึงแม้ไม่มีการปิดสนามบิน แต่การป่วน การจราจรทั่วเมือง ปิดถนนสายหลักย่านใจกลางกรุง และเส้นทางหลวงเชื่อมต่อจังหวัดใหญ่หลายๆ จังหวัด ก็เป็นเหตุให้การจัดส่งสินค้าไปยังจุดหมายต่างๆ สะดุดไปโดยปริยาย
ปัญหาที่เกิดขึ้นทันทีในขณะนี้คือ การชะลอคำสั่งซื้อของบรรดาประเทศลูกค้า เพื่อรอประเมินสถานการณ์
เรื่องการเดินทางเข้ามาติดต่อซื้อขายในประเทศไทยก็เป็นอันเลิกพูดถึง ได้เลย เช่นเดียวกับการเชิญชวนต่างชาติเข้ามาลงทุน ก็ต้องพับแผนเอาไว้ก่อน และแน่นอนว่ากระเทือนถึงแผนการเดินสายโรดโชว์กระตุ้นการลงทุนในประเทศต่างๆ ด้วย รัฐบาลคงต้องปรับแผนกันยกใหญ่หลังจากนี้ เนื่องจากดันทุรังไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะในบ้านยังจัดการสะสางปัญหาไม่ได้
แม้กระทั่งการค้าการขายในประเทศ ก็ได้ผลกระทบอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน เพราะเทศกาลรื่นเริงถูกยกเลิกงานไปหลายพื้นที่ หยุดยาวก็จริงแต่ไม่มีใครกล้าออกมากิน ดื่ม เที่ยว ช็อป
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางกรุงที่อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อ การชุมนุมของกลุ่มม็อบเสื้อแดง ก็ปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัย ต้องคอยดูสถานการณ์วันต่อวัน เรียกว่าทุกอย่างเลวร้ายไปหมด
ความเสียหายที่มีการประเมินกันไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในแง่ของผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ อย่างภาคการท่องเที่ยวที่ระบุว่าจะสูญเสียรายได้ 1.3-2 แสนล้านบาท และภาคการลงทุนเชื่อว่าจะหดหายไปอีก 20%
ถึงเวลานี้ทั้งมูลค่าความเสียหาย ภาพลักษณ์ของประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน คงต้องประเมินกันใหม่แบบวันต่อวัน อิงกับสถานการณ์และระดับความรุนแรง ซึ่งมูลค่าความ เสียหายคงเพิ่มขึ้นอีกนับไม่ถ้วน เพราะยังเหลือภาคส่งออกที่ยังไม่ได้มีการประเมินตัวเลขอย่างเป็นทางการ ตลาดค้าปลีกในประเทศ รายได้ของ ห้างสรรพสินค้า ก็ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขความเสียหายเช่นกัน
แน่นอนว่าสุดท้ายเศรษฐกิจประเทศปีนี้คงพูดถึงได้แต่ตัวเลขติดลบ ซึ่งก็ยังประเมินได้ยากว่าจะลบมากแค่ไหน ในเมื่อรัฐบาลไม่มีเวลาไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องหันมาจัดทัพเปิดศึกทางการเมืองเต็มสูบ
นอกจากนี้ งบประมาณของชาติที่จะต้องโถมเข้าไปจัดการกับปัญหาม็อบ ก็จะเป็นอีกอุปสรรคที่ไปเบียดบังงบประมาณที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
ที่แน่ๆ ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศคง ไม่ติดลบน้อยแน่นอน ถ้ารัฐบาลยังไม่รีบจบ ศึกแดงเดือดนี้ในเร็ววัน
สหรัฐประณามม็อบเสื้อแดง
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามม็อบเสื้อแดงใช้ความรุนแรงประท้วงรัฐบาล แนะให้ใช้แนวทางสันติวิธี
นาย โรเบิร์ต วู้ด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในไทยว่าเป็น ความรุนแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ และว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจับตามองสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วง ตลอดจนบรรดาแกนนำทั้งหลายยุติการใช้ความรุนแรง หันมาใช้แนวทางสันติในการแก้ปัญหาแทน
นอกจากนี้ นายวู้ด ยังเชื่อมั่นว่า สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพ ได้ติดต่อเพื่อฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลไทยแล้ว
"เราปรารถนาให้ความตึงเครียดในกรุงเทพฯลดลงและไม่มีความรุนแรง ซึ่งเรามั่นใจว่ารัฐบาลปัจจุบันของไทยทราบจุดยืนของสหรัฐในเรื่องนี้อยู่ แล้ว" โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าว
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศเตือนพลเมืองชาวอเมริกัน ที่กำลังอยู่ในประเทศไทยว่าเจตนาของผู้ชุมนุมอาจเปลี่ยนสันติภาพเป็นการ เผชิญหน้าและมีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวสู่ความรุนแรง จึงขอให้ประชาชนชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดในกรุงเทพ
40 สว.ค้านวุฒิถกแก้ม็อบ
สว.สมชาย ค้านปธ.วุฒิฯนัดประชุมถกแก้วิกฤติ ไม่เห็นด้วย เสนอนายกฯยุบสภา-ลาออก หนีแก้เสื้อแดงก่อจลาจล
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าจากการได้ร่วมหารือกับกลุ่ม 40 สว. ทั้ง นส.รสนา โตสิตระกูล ,นายคำนูณ สิทธิสมาน ,นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายมณเฑียร บุญตัน รวมถึง สว.บุคคลอื่น ต่างไม่เห็นด้วยอย่างต่อกรณีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมเพื่อหารือต่อกรณีแก้ปัญหาวิกฤตจลาจลทั้งที่รัฐบาลได้ดำเนินการ แก้ปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการนัดที่ผิดจังหวะอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ในการประชุมครั้งวันที่ 3 เมษายน 52 ทางตนเองได้ยื่นให้ที่ประชุมพิจารณาต่อกรณีปัญหา แต่ประธานในที่ประชุมได้ชิงหนีปิดการประชุมไปก่อน อย่างไรก็ตามหากที่ประชุมวันนี้ดำเนินการต่อก็ไม่ถือว่าเป็นมติของวุฒิสภา เพราะสมาชิกหลายคนอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด และไปทำธุระในต่างประเทศ
นายสมชาย กล่าวว่า นอกจากนั้น กรณีที่สมาชิกวุฒิสภาบางราย เสนอให้นายกรัฐมนตรี ยุบสภาหรือลาออก เพื่อคลี่คลายวิกฤตก็ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะสถานการณ์ตอนนี้กลุ่มเสื้อแดงไม่ได้ชุมนุมอย่างสงบ แต่ได้ดำเนินการก่อการจลาจล ยิงประชาชนที่ต่อต้านเสียชีวิต รวมถึงได้สร้างความเดือดร้อนและก่อการวุ่นวายไปทั่วตามที่ภาพข่าว และสาธารณชนได้รับทราบอย่างทั่วกันแล้ว จึงจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาให้สังคมส่วนรวม ซึ่งตามหลักสากลหลายประเทศทั่วโลกก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างนี้ด้วย
รถเมล์ถูกเสื้อแดงยึด 52 คัน
ขสมก.เริ่มเปิดให้บริการตามปกติแล้ว สรุปถูกเสื้อแดงยึด52คัน ทำใจถูกเผาหมด
ผอ.ขสมก.ยังกล่าวถึงจำนวนรถเมล์ซึ่งถูกผู้ ชุมนุมยึดไป ว่า จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 52 คัน เป็นรถเมล์ขสมก. 33 คัน รถเมล์ร่วมบริการ 19 คัน โดยรถเมล์ของขสมก.นั้น ขณะนี้ได้คืนมาแล้ว 14 คัน ถูกเผาทั้งคัน 3 คัน เสียหายบางส่วนหลายคัน ยังอยู่ในที่ชุมนุมอีก 19 คัน คาดว่าจะถูกเผาทั้งหมด
ผวาม็อบ!ห้างกลางกรุงหลายแห่งยังปิดบริการ
โพสต์ทูเดย์วันนี้สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเซ็นทรัลเวิลด์ ยังคงปิดให้บริการอีก 1 วัน ปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมืองให้มีความชัดเจนก่อน โดยจะมีการพิจารณาเหตุการณ์กันวันต่อวัน และจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป
ส่วนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งว่า วันนี้ (14 เม.ย.) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาต่าง ๆ เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ยกเว้น เซน และสาขาสีลมคอมเพล็กซ์ ด้านห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
ขณะที่โรงภาพยนตร์ และโบว์ลิ่งในเครือเอสเอฟ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป เปิดให้บริการตามปกติ ยกเว้นสาขาสยามพารากอนที่ปิดบริการ
ยอดผู้บาดเจ็บจากม็อบเสื้อแดง123ราย
โพสต์ทูเดย์
นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะระหว่างกลุ่ม เสื้อแดงและชาวบ้านย่านนางเลิ้งตั้งแต่เวลา 4.50 น.วันที่ 13 เมษายน จนถึงขณะนี้ 9.00 น.มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 123 ราย เป็นผู้ป่วยที่รับการรักษาและกลับบ้านแล้ว 71 ราย เสียชีวต 2 ราย ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 50ราย เป็นชายทั้งหมด พักอยู่ที่รพ.ราชวิถี 6 ราย รพ.รามา 10 ราย รพ.ทหารผ่านศึก 15 ราย รพ.มิชชั่น 3 ราย รพ.หัวเฉียว 4 ราย รพ.กลาง 5 ราย รพ.พระมงกุฎ 5 ราย รพ.วชิระ 1 ราย รพ.ตำรวจ 1 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู 2 ราย
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคม กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประชาชนมีความตึงเครียดจากสถานการณ์การชุมชุนของกลุมนปช.ในช่วงหลายวันที่ ผ่านมา ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมาซึ่งมีการสลายผู้ชุมนุมโดยไม่ไม่รุนแรงมากนักโดยการสูญเสียค่อน ข้างน้อย ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เส้นทางการจราจรดีขึ้น ทุกอย่างกลับเป็นปกติ หากรัฐบาลให้ความมั่นใจในความมปลอดภัยซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานอยู่ แล้ว ทุกอย่างจะต้องกลับมาดีขึ้นแน่นอนส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจบนั้นอยู่ ไอซียู 2 ราย
“จริงๆ ช่วงนี้เป็นวัดหยุดวันครอครัวถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของปี เวลาที่ผ่านไปเป็นเวลาสำคัญในครอบครัว ดังนั้นจึงควรใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เพราะหากครอบครัวดี สังคมก็จะดีด้วยโดยการ ใช้เวลาอย่างเหมาะสม ดูแลเอาใจใส่เด็กและสูงอายุ ไม่ใช่สนเรื่องการเมืองอย่างเดียว หากเราไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง ก็อยากให้ใช้เวลากับครอบครัวถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งกว่า”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ความเครียดเกิดขึ้นเนื่องจากมีความเห็นต่างกัน ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยง ไม่ให้มีข้อขัดแย้ง ซึ่งปกติคนทั่วไปจะมีความเครียดสะสมที่มาจากปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ครอบครัว ผู้ป่วยในครอบครัว จึงควรใช้เวลาในการพูดคุยแก้ปัญหาเรื่องราวๆ ต่างๆ เหล่านี้ ดีกว่าโดยเน้นให้ รู้จักหน้าที่ มีการแสดงออกที่เหมาะสม จัดเรียงลำดับความสำคัญ อะไรมีความสำคัญมากที่สุด
ส่วนการเสพสื่อไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือทีวีนั้น นพ.ทวีศิลป์ กลาวว่า หน้าที่ของสื่อในการเสนอภาพข่าวเพื่อดึงความสนใจของคนที่ดูสื่ออยู่ด้วยทั้ง ภาพทั้งเสียงมีความตื่นเต้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพความรุนแรงไม่สงบทำให้เกิดความตื่นเต้น ความเครียดขึ้นได้ดังนั้นให้ดูว่าหากเป็นข่าวที่รับรู้มาแล้วระยะหนึ่งไม่มี ข่าวใหม่ ให้พักฟังข่าวเป็นระยะๆ โดยไม่เปิดทีวีค้างไว้ จะช่วยให้ความเครียดลดลงมากทั้งนี้ ทั้งนี้ ครอบครัวควร ปกป้องเด็กกับผู้สูงอายุ ที่ภาพข่าวอาจจะกระตุ้นให้เกิดเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กอาจหงุดหงิดก้าวร้าวไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็กต่ำกว่าวัยประถม หรือคอยอธิบายว่า พฤติกรรมอย่างนั้นสังคมไม่ยอมรับไม่เหมาะสมส่วน ผู้สูงอายุซึ่งการปรับตัวปรับใจได้ยากกว่าคนทั่วป อาจเกิดความวิตกกังวล เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยต่อทรัพย์สินชีวิต เป็นภัยใกล้ตัวก็จะวิตกมาก นอนไม่หลับหรือบ่นพูดซ้ำๆ ก็ขอให้ลูกหลานให้ความเข้าใจ เพราะเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุที่พบมากที่สุด
รวบมือเผาแบงก์กรุงเทพ-CP
โพสต์ทูเดย์
"สุเทพ"ควง ผบ.ตร.และโฆษก สตช. แถลงรวบ 3 ผู้ต้องหาเตรียมก่อเหตุเผาธนาคารกรุงเทพสาขาใหญ่-ตึกซีพี 1 คน รับสารภาพ ถูกจ้างวาน
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับมีคนเตรียมวางระเบิดธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และสำนักงานซีพี สีลม พบผู้ต้องหาในรถกระบะ วีโก้ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี รวมทั้งของกลาง ประกอบด้วยระเบิดเพลิงในขวดน้ำหวานและขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ถังน้ำมัน 20 ลิตร อาวุธปืนพกสั้น 4 กระบอก มีดพกสั้น เครื่องมือช่าง และมือถือ 6 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามวางเพลิง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า ยืนยันทั้งหมดเป็นผู้ต้องหารที่จับได้ในที่เกิดเหตุ และไม่ได้สร้างหลักฐานเท็จแต่อย่างใด
"กรณ์" เซ็ง เสื้อแดงป่วน! ศก.ทรุดหนัก
โพสต์ทูเดย์
นาย กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเดิม ที่คาดว่าจะลดลง 200,000 ล้านบาท เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวและการส่งออกลดลงอย่างชัดเจน จากความเชื่อมั่นที่หดหายไป โดยกระทรวงการคลังเตรียมประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบร้อยละ 2.5-3 ปัจจุบันนี้อาจจะติดลบไปมากกว่านั้น
รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาโดยตลอด ในช่วง 3 เดือนของการทำงาน ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น แต่สำหรับเหตุการณ์ล่าสุด ยอมรับว่ารัฐบาลอาจต้องทำงานหนัก และกลับไปเริ่มต้นแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่ติดลบ แต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยมีแผนเดินทางไปชี้แจงกับนักลงทุนและหน่วยงานต่างประเทศ เกี่ยวกับแผนการลงทุน และศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในการประชุมธนาคารโลก ที่วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา การประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน +3 ที่บาหลี อินโดนีเซีย รวมทั้งพบปะกับนักลงทุนอังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติ
นอกจากนี้ นายกรณ์ ระบุด้วยว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาให้สงบโดยเร็ว แต่ก็ยอมรับว่าหนักใจกับการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ขอให้คนไทยใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข่าวสาร