จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
รมว.ยุติธรรมย้ำรัฐบาลเอาจริงปราบปัญหาทุจริต ดันกฎหมายยกเลิกอายุความคดีโกงชาติ ตามยึดทรัพย์ถึงมรดกลูก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดการสัมมนารวมพลังป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐ 312 หน่วยงาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมาณ 700 คน เข้าร่วม จากนั้นได้กล่าวถึงนโยบายกระทรวงยุติธรรมในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ว่า ในอดีตเคยมีแนวคิดให้แก้ปัญหาการทุจริตด้วยการขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ เพราะเชื่อว่าเมื่อมีรายได้มากขึ้นจะคอร์รัปชั่นน้อยลง วันนี้แม้จะมีการปรับขึ้นเงินเดือนจนทำให้ข้าราชการบางตำแหน่งมีเงินเดือนหลักแสนบาท แต่การทุจริตกลับเพิ่มมากจนยากที่จะปราบปรามให้หมดสิ้น เพราะเป็นการร่วมมือกันทุจริตระหว่างข้าราชการกับภาคธุรกิจเอกชน หากไม่มีการปลูกจิตสำนึกสร้างค่านิยมใหม่ บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยปัญหาทุจริต

"ทุกวันนี้ร้อยละ 80 ของงบประมาณต้องจ่ายเป็นเงินเดือนข้าราชการ เหลืออีกเพียงร้อยละ 20 หากต้องหมดไปกับการทุจริตคงไม่เหลือเงินสำหรับพัฒนาประเทศ"

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ทุจริตงบประมาณของคนในองค์กร และการร่วมกับภาคธุรกิจทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
ภาคธุรกิจไม่สนใจปัญหาทุจริตเพราะสนใจอยู่แต่ผลกำไร ที่สำคัญการทุจริตที่น่ากลัวคือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ทำให้เป็นทุจริตโดยชอบด้วยกฎหมาย กรณีค่าโง่ทางด่วน 6,500 ล้านบาท เป็นค่าเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย เพียงแค่ใช้ความร่วมมือร่วมใจทุจริตระหว่าง ภาคเอกชนกับภาครัฐ และช่องโหว่ของระบบอนุญาโตตุลาการ ทำให้เงินใต้โต๊ะกลายมาเป็นเงินบนโต๊ะ แม้ว่าต่อมาจะมีการต่อสู้คดีว่าสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนทำให้เราไม่ต้องเสียค่าโง่ทางด่วน แต่จากการตรวจสอบพบคดีที่พฤติการณ์คล้ายกับคดีค่าโง่ทางด่วนอีกกว่า 100 คดี ดังนั้นอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ รัฐบาลจะเสนอให้ยกร่างกฎหมายเพื่อเลิกอนุญาโตตุลาการสัญญาภาครัฐ โดยให้คงไว้เฉพาะอนุญาโตตุลาการในกรณีสัญญาภาคเอกชนเท่านั้น

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริต ภายใต้นโยบาย 1 คนไทยต้องไม่โกง 2 คดีทุจริตไม่ มีอายุความ ตรวจสอบพบเมื่อไรก็จับกุมดำเนินคดีได้ทันที นอกจากนี้จะมีการเสนอกฎหมายให้ยึดอายัดทรัพย์ให้กลับคืนเป็นของแผ่นดินทั้ง หมด แม้จะถ่ายโอนทรัพย์สินให้ทายาทไปแล้วก็ต้องยึดมรดกกลับคืน อย่างไรก็ตาม

กรณีการยกเลิกอายุความคดีทุจริตไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะเรื่องการยกเลิกอายุความในคดีทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นประเด็นที่มีการหารือกันมาตั้งแต่ก่อน ปี 2549 ส่วนการยกเลิกอายุความจะมีผลย้อนหลังหรือไม่ คงต้องให้นักกฎหมายได้วินิจฉัย แม้ที่ผ่านมากฎหมายอาญาไม่สามารถย้อนหลังให้ไปเป็นโทษได้ แต่เรื่องนี้เป็นทฤษฎีกฎหมายไม่ใช่เรื่องการกระทำผิด

“ขอให้ข้าราชการทุกหน่วยงานร่วมกันตรวจสอบทั้งจากภายในและภายนอกองค์กรเพื่อลดปัญหาการทุจริต อย่าทำตัวให้เคยชินกับการรับสินน้ำใจ ซึ่งนานวันเข้าสินน้ำใจที่เคยรับตามน้ำจะเปลี่ยนเป็นต้องให้และต้องจ่าย ทุกวันนี้สถาบันตุลาการมีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็งและเอาจริงเอาจัง ทำให้องค์กรมีปลาเน่าปะปนอยู่น้อยที่สุด” นายพีระพันธุ์ กล่าว

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า การชี้มูลความผิดคดีทุจริตคอร์รัปชั่นแก่ ข้าราชการระดับสูงหลายคดีของป.ป.ช. ทำให้คนในระดับผู้ใหญ่ของประเทศไม่มีที่อยู่ จึงขอให้ข้าราชการฝ่ายนิติกรและตรวจสอบภายในที่มาร่วมสัมมนาครั้งนี้ ต้องนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาให้จริงจังกับเรื่องวินัยและกำลังเจ้าหน้าที่ใน การตรวจสอบองค์กรภายใน มิเช่นนั้นปัญหาจะย้อนกลับมาถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ไล่ไปจนถึงผู้อำนวยการกอง หากองค์กรตรวจสอบภายในยังทำตัวเป็นไม้ประดับ เราจะมือเปื้อนและเอาตัวไม่รอด