สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดผลสอบสัญญาทาสช่อง 3 (ตอนที่ 9) : สัญญาต้องไม่ต่อโดยอัตโนมัติ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์


       ข้อเสนอแนะเชิงธุรกิจเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญา
       
       ในการทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการ นอกจากคู่สัญญาจะต้องคำนึงถึงข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว คู่สัญญายังควรคำนึงถึงเงื่อนไขทางธุรกิจที่เป็นธรรมสำหรับคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย ข้อเสนอแนะต่อไปนี้ เป็นข้อเสนอแนะเชิงธุรกิจที่ควรระบุหรือไม่ควรระบุในสัญญาร่วมดำเนินกิจการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อ อสมท
       
       ข้อเสนอแนะ 1 – ผลตอบแทนควรเป็นจำนวนร้อยละจากรายได้ทั้งสิ้น
       
       ผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินควรกำหนดเป็นอัตราร้อยละจากรายได้ทั้งสิ้นก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ การกำหนดอัตราผลตอบแทนควรทำขึ้นอย่างมีหลักการ ( อาศัยทฤษฎีด้านการเงินและการลงทุน ) โดยศึกษาข้อมูลในอดีตและแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อหาอัตราที่จะใช้ เป็นหลัก ( Benchmark) ในการเจรจาต่อรอง ( กรณีของบีอีซี Benchmark ของการต่อรองควรอยู่ที่ร้อยละ 15.20 ถึง 25.73 ของรายได้ทั้งสิ้นก่อนหักค่าใช้จ่าย ) อสมท ควรสงวนสิทธิที่จะปรับอัตราผลตอบแทนเป็นระยะๆ ( อาจกำหนดให้ต้องทำการเจรจาปรับอัตราผลตอบแทนใหม่หลังจากที่เวลาในสัญญาได้ ผ่านพ้นไประยะหนึ่ง หรือกำหนดให้ผลตอบแทนต้องมีการปรับโดยอัตโนมัติตามตัวแปรที่สะท้อนหรือสภาพ ตลาดที่เปลี่ยนไป ) หรือปรับผลตอบแทนทันทีที่เห็นชัดว่า สถานการณ์ในตลาดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นอกจากนั้น อสมท ยังควรกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่าย และคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องรับภาระร่วมกับบีอีซีในกรณีที่ใช้ทรัพย์สิน ร่วมกัน เนื่องจากค่าใช้จ่ายจะทำให้อัตราผลตอบแทนสุทธิลดลง
       

       ข้อเสนอแนะ 2 – รายได้ทั้งสิ้นควรรวมรายได้ที่กระจายอยู่ในบริษัทที่เกี่ยวข้อง
       
       การกำหนดผลตอบแทนเป็นอัตราร้อยละ จากรายได้ทั้งสิ้นก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ ( แทนการคำนวณจากกำไรสุทธิ ) ก็เพื่อป้องกันการตกแต่งตัวเลขกำไร ถึงกระนั้น รายได้ก็ไม่ได้ปลอดจากการตกแต่งตัวเลข โดยเฉพาะการตกแต่งรายได้โดยใช้บริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น การขายให้บริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาถูกขณะที่บริษัทที่เกี่ยวข้องนำไปขายได้ ราคาแพง ดัง นั้น ค่าตอบแทนควรคำนวณจากรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานตามสัญญา ทุกรายการ ไม่ว่าจะแสดงในงบการเงินของผู้รับสัญญาหรือกระจายกันแสดงในงบการเงินของ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้รับสัญญา ( ปรับลดด้วยรายการระหว่างกัน ) ในกรณีที่ผู้รับสัญญาเป็นบริษัทที่ถูกควบคุมโดยบริษัทใหญ่ที่จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ ( เช่นที่บีอีซีถูกควบคุมโดยบีอีซีเวิลด์ ) ค่าตอบแทนควรคำนวณจากจำนวนรายได้ ( รายการที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานทุกรายการ ) ที่แสดงในงบการเงินรวมของบริษัทใหญ่
       
       ข้อเสนอแนะ 3 – เลิกใช้ความหมายของ “รายได้” ตามที่ระบุไว้ในการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาครั้งที่ 2
       
       การ แก้ไขเพิ่มเติมสัญญาครั้งที่ 2 กำหนดความหมายของรายได้ว่าเป็น “รายได้ทั้งหมดแต่ละปีก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ ( Gross Revenue) ซึ่ง “บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์” ได้รับจากการ ดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีและที่เกี่ยวเนื่องกับจากการส่งโทรทัศน์สีตลอด อายุสัญญานี้ตามงบดุลและงบบัญชีกำไรขาดทุนประจำปีที่ถูกต้องและซึ่งได้ยื่น ต่อกรมสรรพากรแล้ว” ความหมายดังกล่าวขัดแย้งกันเอง เนื่องจากรายได้ตามงบกำไรขาดทุน ( รายได้ไม่แสดงในงบดุล ) ที่ยื่นต่อกรมสรรพากรจะจำกัดอยู่เพียงรายได้ที่แสดงในงบการเงินของผู้รับ สัญญาเพียงบริษัทเดียว ( ทำให้ไม่สามารถนำรายได้ที่กระจายไปแสดงในงบการเงินของบริษัทที่เกี่ยวข้อง อื่นมารวมคำนวณ ) ทั้งที่เจตนารมณ์ของสัญญาต้องการให้รวมรายได้ทั้งหมดที่บีอีซีได้รับจากการ ดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีและรายได้ที่เกี่ยวเนื่อง
       
       นอกจากนั้น รายได้ที่ยื่นต่อกรมสรรพากรนั้นแสดงไว้ 2 แบบ คือ รายได้ที่บันทึกตามมาตรฐานการบัญชีและรายได้ที่คำนวณตามประมวลรัษฎากร ( ซึ่งตามปรกติจะแตกต่างกัน ) ทำให้เกิดข้อโต้แย้งได้ว่า รายได้ที่จะนำมาใช้ในสัญญานั้นเป็นรายได้ใด ( รายได้ที่ควรนำมาใช้ในสัญญาคือ รายได้ที่บันทึกตามมาตรฐานการบัญชี ) และคำว่า “ถูกต้อง” นั้น ถูกต้องตามความหมายใด เช่น ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีสำหรับบริษัทเดียวหรือสำหรับงบการเงินรวม ( ซึ่งผู้สอบบัญชีแสดงความเห็น ) หรือถูกต้องในแง่ธุรกิจที่ต้องนำรายได้ที่กระจายแสดงในงบการเงินของบริษัท ที่เกี่ยวข้องอื่นมารวมคำนวณตามเจตนารมณ์ของสัญญา
       
       ข้อเสนอแนะ 4 – สงวนสิทธิในการตรวจสอบรายได้ทุกปี
       
       การตกแต่งตัวเลขรายได้ของบริษัทหนึ่งอาจทำได้หลายวิธี เช่น ละเว้นไม่แสดงรายได้ที่ควรแสดง นำรายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณไปแฝงไว้กับรายได้รายการอื่น ผ่องถ่ายรายได้ให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง ( ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกันโดยผู้ถือหุ้น การถือหุ้นแทน การใช้ Nominees หรือการมีผู้บริหารร่วมกัน ) ฯลฯ ดังนั้น อสมท ควรมีส่วนร่วมกับผู้บริหารของผู้รับสัญญาในการกำหนดผู้สอบบัญชีที่จะทำ หน้าที่ตรวจสอบงบการเงินของผู้รับสัญญา ( ค่าสอบบัญชีอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับสัญญา ) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสมบัติของผู้สอบบัญชีมีความเป็นอิสระ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่เชื่อถือได้ นอกจากนั้น อสมท ควรสงวนสิทธิในการตั้งผู้ที่จะเข้าทำการตรวจสอบรายได้ที่ใช้ในการคำนวณค่า ตอบแทนอย่างน้อยปีละครั้ง และทุกเมื่อที่ อสมท เห็นว่ามีความจำเป็น ( ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบควรอยู่ในความรับผิดชอบของ อสมท )
       
       ข้อเสนอแนะ 5 – กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่อง
       
       สัญญาควรกำหนดให้ชัดเจนว่า ทรัพย์สินรายการใดของผู้รับสัญญาต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ อสมท ณ เวลาใด ( เมื่อกำหนดแล้ว ควรปฎิบัติตามโดยเคร่งครัด ) หากทรัพย์สินต้องตกเป็นของ อสมท สัญญาควรกำหนดให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในภาระภาษี ในการบริหารจัดการ ในการบำรุงรักษา และในการจ่ายค่าบำรุงรักษา ค่ารื้อถอนทำลาย หรือค่าขนส่งเมื่อทรัพย์สินสิ้นสถานะในการใช้งาน ในกรณีที่ผู้รับสัญญายังทำการครอบครองทรัพย์สิน อสมท ควรกำหนดให้ผู้รับสัญญาเป็นผู้รับผิดชอบในภาระและค่าใช้จ่ายดังกล่าว นอกจากนั้น อสมท ควรรับมีสิทธิในการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ในครอบ ครองของผู้รับสัญญา รวมถึงตรวจสอบการบันทึกบัญชีของผู้รับสัญญาและบริษัทที่เกี่ยวข้องของผู้รับ สัญญา และในสัญญาต้องระบุว่าทรัพย์สินประเภทใดบ้างที่ผู้รับสัญญาสามารถจัดหาโดย ใช้วิธีการอื่นนอกเหนือจากการซื้อเสร็จเด็ดขาด เพื่อป้องกันข้อพิพาทที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ในกรณีที่ผู้รับสัญญาสร้างสถานีส่งโทรทัศน์สีบนที่ดินเช่า โดยที่ผู้รับสัญญา โอนสถานีส่งโทรทัศน์สีแต่ไม่โอนที่ดิน หรือในกรณีที่ผู้รับสัญญาเช่าอาคารสำนักงานแยกต่างหากจากสถานีส่งโทรทัศน์สี โดยผู้รับสัญญาโอนสถานีส่งโทรทัศน์สีให้ อสมท แต่ไม่โอนอาคารสำนักงาน
       
       ข้อเสนอแนะ 6 – การเปลี่ยนแปลงสำคัญต้องได้รับการอนุมัติจาก อสมท
       
       สัญญาควรกำหนดให้ผู้รับสัญญาต้องได้รับการอนุมัติจาก อสมท ทุกครั้งที่ผู้รับสัญญาต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้น เพิ่มทุน ลดทุน เปลี่ยนแปลงข้อบังคับสำคัญของบริษัท และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการดำเนินธุรกิจ หรือเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ความน่าเชื่อถือขององค์กร และความมั่นคงของประเทศ
       
       ข้อเสนอแนะ 7 – การต่อสัญญาต้องไม่เป็นไปโดยอัติโนมัติ
       
       เมื่ออายุสัญญาสิ้นสุดลง การต่อสัญญาไม่ควรกำหนดให้เป็นไปโดยอัติโนมัติ อสมท ควรกำหนดให้มีการประมูลใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ อสมท ( ในด้านต่างๆ ) อย่างไรก็ตาม อสมท จะต้องไม่จำกัดสิทธิผู้รับสัญญาเดิมในการที่จะเข้าร่วมประมูลใหม่
       
       (อ่านต่อวันพรุ่งนี้)

view