สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

Reinsurance จุดอ่อนธุรกิจในเครือ สัญญาณอันตรายรอบใหม่ AIG

จาก ประชาชาติธุรกิจ


ดู เหมือนว่าบริษัทประกันภัยหลายแห่งที่อยู่ในมือของบริษัทแม่ "อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป" หรือเอไอจี กำลังส่งสัญญาณเตือนถึงจุดอ่อนที่ซุกซ่อนอยู่ แม้ว่าเอไอจีจะได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จากรัฐบาล สหรัฐ

นิวยอร์ก ไทม์ส อ้างถึงรายงานของคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการประกันภัยของรัฐที่ระบุว่า จุดอ่อนดังกล่าวอาจหมายถึงความยุ่งยากที่จะมีต่อผู้ถือกรมธรรม์ที่เป็น ลูกค้าของเอไอจี และพวกเขาก็จะตั้งคำถามไปถึงคณะกรรมการกำกับดูแล (เรกูเลเตอร์) ซึ่งโดยปกติจะต้องเข้ามาดูแลผู้เอาประกันในกรณีที่เกิดปัญหา โดยไม่ให้บริษัทประกันออกกรมธรรม์ใหม่ หากมีข้อสงสัยว่าบริษัทนั้นๆ อาจจะไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยได้ตามที่ระบุไว้

ทว่ากรณีของเอไอจี นั้น ผู้กำกับดูแลของรัฐกลับกระตือรือร้นที่จะให้บริษัทประกันออกกรมธรรม์ใหม่ เพราะมองว่านี่เป็นความหวังที่ดีที่จะสามารถหาเงินมาจ่ายคืนให้แก่ผู้เสีย ภาษี หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติเงิน 182 พันล้านดอลลาร์มาใช้อุ้มเอไอจี

แม้ เรกูเลเตอร์ต่างพูดย้ำว่า ธุรกิจประกันภัยหลักยังแข็งแกร่ง ขณะที่วิกฤตการเงินส่งผลต่อหน่วยธุรกิจขนาดเล็กที่เกี่ยวพันกับอนุพันธุ์รูป แบบแปลกๆ เท่านั้น

แต่รายงานของคณะกรรมการกำกับดูแลของรัฐนำเสนอภาพ ที่แตกต่างออกไป โดยสะท้อนว่าบริษัทประกันชีวิตในเครือ เอไอจีได้ดำเนินการในลักษณะไขว้กันไปมามานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นของกันและกัน การยืมพอร์ตลงทุนกันและกัน การรับรองกรมธรรม์ให้กันและกัน ทั้งที่บริษัทเหล่านี้ไม่ได้มีเครื่องมือที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่เรกูเลเตอร์ก็มองข้ามว่ากิจกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบไม่มาก

นอกจากนี้ บริษัทประกันในเครือเอไอจีหลายแห่งยังส่งต่อความเสี่ยงไปยังบริษัทอื่นๆ ซึ่งบ่อยครั้งอยู่ภายใต้ร่มเงาของเอไอจี

ดัง กรณีของ "เนชั่นแนล ยูเนี่ยน ไฟร์ อินชัวรันซ์ คอมปะนี" ซึ่งเคยมีเงินมากพอที่จะจ่ายภาระหนี้ได้ แต่พอถึงสิ้นปีที่แล้ว หุ้นราว 1 ใน 3 ที่บริษัทลงทุนในบริษัทอื่นในเครือเอไอจีไม่สามารถซื้อขายได้ จึงส่งผลต่อเนชั่นแนล ยูเนี่ยนฯ และเมื่อหนี้ 42.1 พันล้านดอลลาร์ปรากฏในบัญชีงบดุลของเนชั่นแนล ยูเนี่ยนฯ จึงเกี่ยวโยงไปถึงบริษัทอีก 56 แห่ง ในฐานะผู้รับประกันภัยต่อ

ขณะที่ "ร็อบ ชิเมค" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเอไอจีแย้งว่า ความเป็นอิสระของธุรกิจในเครือไม่ได้ก่อปัญหา

ทั้ง นี้ ในความเป็นจริงมีการส่งต่อความเสี่ยงไปยังบริษัทอื่นๆ ที่เรียกว่าการประกันภัยต่อ (reinsurance) เมื่อบริษัทรับประกันภัยต่อไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน และไม่ได้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และสามารถยอมรับได้หากมีการส่งต่อความเสี่ยงในจำนวนที่ไม่มากนักระหว่าง บริษัทที่มีความเกี่ยวโยงกัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทในเครือเอไอจีมีการทำประกันภัยต่อให้กันและกันจำนวนมาก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ปัจจุบันอาจมี ความเสี่ยงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในที่สุดบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกันอาจจะไม่สามารถหาวิธีจัดการได้

"ดับ เบิลยู.โอ. มายริค" อดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐลุยเซียนากล่าวว่า บริษัทลักษณะนี้พึ่งพาจำนวนเบี้ยประกันภัยที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาจึงยังสามารถ จัดการได้ แต่หากเบี้ยประกันภัยของเอไอจีลดลงก็จะเป็นปัญหา

แม้ "มายริค" จะไม่ได้ตรวจสอบบริษัทลูกของเอไอจีทั้งหมด แต่เขาเห็นว่าผลการตรวจสอบในหลายรัฐก็พบความกังวลในเรื่องนี้มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้การประกันภัยต่อ ซึ่งวิธีนี้มักถูกใช้โดยบริษัทโฮลดิ้งเพื่อจะกลบเกลื่อนเรื่องภาระหนี้สิน

ทั้ง ที่ในความเป็นจริง เบี้ยประกันภัยของเอไอจีลดลงอย่างมาก เนื่องจากบริษัทถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ และลูกค้าก็หันไปหาบริษัทที่เก็บเบี้ยประกันต่ำๆ แทน ดังนั้นเพื่อจะดึงลูกค้ากลับมา เอไอจีจึงต้องยอมลดราคาลงมา อย่างไรก็ตามผู้บริหารของเอไอจียืนยันว่า บริษัทไม่ยอมลดราคา ซึ่งเป็นอันตรายต่อธุรกิจมากกว่า

ทั้งนี้ การดำเนินการของบริษัทในเครือเอไอจีเป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ยาก เพราะ ไม่ได้ยื่นรายงานทั้งหมดต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่ละบริษัทจะยื่นเรื่องแยกกัน ซึ่งจะตรวจพบได้ก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ของแต่ละรัฐทำงานร่วมกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะหน่วยธุรกิจของเอไอจีมีกว่า 4,000 แห่ง ในกว่า 100 ประเทศ ขณะที่ในสหรัฐก็มีบริษัทประกันภัยในเครือเอไอจี 71 แห่ง มีเจ้าหน้าที่จาก 19 รัฐ

view