สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

บริษัทตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ โอดการเมือง-สื่อทำธุรกิจพัง

จาก โพสต์ทูเดย์
รายงานโดย :ทีมข่าวในประเทศ:



ภาย หลังคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริงโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายเจริญ คันธวงศ์ สส.กทม. เป็นประธาน ได้สรุปให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดโทษสข. พรรค 4 คน ซึ่งมีพฤติกรรมร่วมมือกับพนักงานบริษัทขายสินค้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้ชุมชน พอเพียงในลักษณะไม่โปร่งใส

ด้าน บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ โปร เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายตู้น้ำยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกเป็นจำเลย ได้ขอชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านโพสต์ทูเดย์ โดย ขันติ ปานขลิบ ผู้จัดการบริษัท

บริษัทจำหน่ายตู้น้ำหยอดเหรียญไปทั้งหมดกี่ชุมชน?

จำหน่ายสินค้าให้ชุมชนในกทม. กว่า 100 ชุมชน แต่มีปัญหาแค่ 4 ชุมชน คือ ชุมชนเปรมประชา ชุมชนร่วมใจรักษ์ ชุมชนวัดกลาง และชุมชนสุขสันต์ 26 ซึ่งได้มีการปรับปรุงแก้ไขไปแล้ว

ทำไมตู้น้ำถึงมีราคาแพงมาก?

ตู้น้ำที่นำมาจำหน่ายมี 3 รุ่น คือ รุ่นทั่วไปราคา 2 แสนบาท รุ่นกลางราคา 2.5 แสนบาท เพิ่มอะไหล่ให้จำนวนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนได้อีกประมาณ 1 ปี บวกพัดลมไอน้ำ 1 ตัว รุ่นที่ 3 เช่นเดียวกันกับรุ่นที่ 2 แต่เพิ่มพัดลมไอน้ำให้ 2 ตัว เป็นราคา 3 แสนบาท ทุกรุ่นมีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรอง ทั้งสามรุ่นมีกำไร 16.67%, 16.44% และ 16.28% ตามรุ่น สาเหตุที่มีราคาแพง เพราะเป็นสินค้าของบริษัท Water Net ซึ่งถือว่าดีที่สุดในประเทศ

“ระบบ RO หรืออุปกรณ์ของระบบการกรองน้ำนำเข้าจากยูเอสเอ ไม่ใช่ของจีนแดง ระบบ Solar Cell ก็ใช้แผงของ Sharp แบบชนิด Poly Crystalline Silicon 130 W ซึ่งนำเข้าจากญี่ปุ่น แผงหนึ่งราคาก็ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว ซึ่งเราจัดให้ 2 แผงพร้อมขาตั้ง ชุดควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่ 100 Ah อีก 2 ลูก

รวมถึงเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า มิเตอร์ไฟ มิเตอร์น้ำ ฯลฯ พัดลมไอน้ำที่จัดให้ก็ของบริษัท Master Cool ซึ่งก็ถือว่าเป็นเจ้าที่ดีที่สุดในประเทศไทยเช่นกัน ราคาก็ไม่ได้แตกต่างจากท้องตลาดนัก ปัญหาที่ถูกกล่าวหาก็เรื่องบริการล่าช้า ซึ่งได้แก้ไขไปหมดแล้ว

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราถูกโจมตีมาก ทั้งที่ชุมชนอื่นๆ ที่ซื้อสินค้าไปเขาก็พอใจ เพราะชุมชนได้ประโยชน์ โดยเฉพาะในกทม. มีปัญหาเรื่องน้ำดื่ม ไม่มีบ่อน้ำเหมือนต่างจังหวัด แต่ต้องซื้อน้ำขวดดื่ม ซึ่งมีราคาแพงกว่ามาก เปรียบเทียบน้ำดื่มชนิดขวดหรือน้ำถังที่จำหน่ายในท้องตลาดแล้ว ราคาน้ำจากตู้ยอดเหรียญถูกกว่ามาก ประหยัดทั้งค่าไฟฟ้า แล้วยังได้ดื่มน้ำสะอาดอีกด้วย”

ทำไมบริษัทไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงกับสาธารณะ?

ผมได้ไปชี้แจงกับกรรมการสอบสวนของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เขาก็เข้าใจ แต่สื่ออื่นไม่สนใจถามข้อเท็จจริง ไม่เคยให้ความเป็นธรรมธุรกิจของเรา วันนี้เบิกเงินก็ไม่ได้ ธุรกิจได้รับความเสียหายมาก เราอยากได้รับความเป็นธรรมบ้าง ทำไมไม่ไปดูชุมชนที่เขาพอใจสินค้าของเราบ้าง โจมตีแต่ 4 ชุมชนนี้ อย่างนี้ไม่แฟร์เท่าไหร่ วันนี้ถ้าใครขายถูกกว่าของเราก็ไปขายให้ชุมชนได้เลย มาเทียบคุณภาพสินค้ากันดูได้ว่ามาตรฐานต่างกันหรือไม่ เพราะมีตัวอย่าง ตู้น้ำยอดเหรียญที่เสียใช้งานไม่ได้อยู่เต็มไปหมดในหลายชุมชน แต่ไม่มีใครลงไปดู

“ของเราที่เสียหายจริงๆ เทียบกันแล้วน้อยมากกับที่ขายไปทั้งหมด ซึ่งก็ยอมรับว่ามีบ้างที่ไม่ 100% แต่เราก็แก้ไขให้”

ถูกโจมตีว่าเอื้อประโยชน์และร่วมมือกับนักการเมืองท้องถิ่น?

ผมไม่ทราบเอื้อประโยชน์กันตรงไหน การรู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่น ก็รู้จักบ้างเป็นเรื่องปกติ การขายของต้องรู้จักคนบ้าง ถ้าไม่รู้จักใครเลยก็ขายไม่ได้ ที่ผ่านมาส่งเซลส์ 10 กว่าคนลงพื้นไปขายสินค้า แล้วชุมชนเขาก็ทำประชาคมเสนอซื้อสินค้าให้สพช. เรามีหน้าที่ขายของให้ได้

บริษัทไปจัดตั้งประชาคมเองหรือไม่?

ไม่จริง เป็นเรื่องของชาวบ้านที่รวมตัวกันเสนอซื้อสินค้ามาเอง เป็นเรื่องของแต่ละชุมชน ไม่ได้ไปบังคับให้ใครมาซื้อ แต่ตอนนี้มีการสั่งห้ามซื้อสินค้าพลังงานแสงอาทิตย์หมดแล้ว เราก็เสียหายเพราะลงทุนไปแล้ว ขายไม่ได้มากมายอะไร เพราะ ทั่วประเทศมี 8 หมื่นชุมชน เราขายได้ 100 กว่าชุมชน แค่เสี้ยวของโครงการทั้งหมด แต่ก่อนบริษัทขายได้มากกว่านี้อีก มากกว่าโครงการอยู่ดีมีสุขอีก

“เราตกเป็นจำเลย ที่ตั้งบริษัทก็ถูกโจมตีว่าไม่มีตัวตน ทั้งๆ ที่เรามีออฟฟิศเพียงแต่อยู่อีกที่ สินค้าเราก็มีมากกว่า 20 รายการ ขายให้โครงการนี้แค่ 2 รายการ คือ ตู้น้ำและโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ มีบริษัทอื่นที่ไปขายอีกมาก ไม่ใช่มีแต่เราบริษัทเดียว”

บริษัทไปจำหน่ายสินค้าที่ จ.น่าน และอำนาจเจริญ ด้วยหรือไม่?

อ่านข่าวแล้วงง เพราะ 2 จังหวัดนี้ไม่ได้ไปขาย แต่ว่ามีชื่อบริษัทเราไปโผล่หน้าหนังสือพิมพ์ ยอมรับว่าเราได้แจกโบรชัวร์ไปทั่วประเทศว่ามีสินค้าอะไรบ้าง ชุมชนไหนสนใจก็ติดมาได้ แต่ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นสื่อถึงเอาชื่อสินค้าและบริษัทเราไปทำลายแบบนี้ แม้แต่เรื่องเบอร์โทร.ยังเอาไปโจมตี

ทั้งที่เป็นการอำนวยความสะดวกเรื่องบริการหลังการขายปกติ จริงๆ ในต่างจังหวัดขายได้น้อยมาก เพราะชาวบ้านเขามีน้ำดื่ม ไม่ทราบใครจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นบ้าง เพราะเราได้รับผลกระทบมากทั้งด้านธุรกิจ รวมถึงขวัญและกำลังใจของพนักงานอีก 27 คนในบริษัท

ทำไมต้องมีพันธมิตรทางธุรกิจในการจำหน่ายสินค้าโครงการนี้?

ความจริงที่ต้องพึ่งพาบริษัท บีเอ็นบี ที่เป็นเจ้าของสินค้า เพราะเราไม่มีสายป่านยาวขนาดนั้น เราไปซื้อสินค้ามาจำหน่าย เขาให้เครดิต แล้วปันกำไรกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกในการทำธุรกิจ เอสเอ็มอีกำลังตายหมดแล้ว เพราะขาดสินเชื่อ ธนาคารไม่ปล่อยกู้ ให้ เราก็ต้องพึ่งรายใหญ่ให้บริษัทอยู่รอด

ตกลงว่ามีการทุจริตตามที่กล่าวหาหรือไม่?

ก็ไม่ทราบว่าทุจริตกันตรงไหน เราดำเนินงานโปร่งใส กำไรก็น้อย การเมืองและสื่อที่โจมตีเรื่องนี้ทำให้เดือดร้อนมาก มาหาว่าทุจริตเป็นพันล้าน เป็นไปได้อย่างไร เราไม่ได้ทำธุรกิจกับสพช. หน่วยงานเดียว ตอนนี้กระทบไปหมด ลูกค้าหน่วยงานอื่นอาจไม่วางใจเรา ผมไม่รู้ว่าเป็นการทุจริตด้วยความรู้สึกกันหรือเปล่า เพราะลูกค้าเรา 90% พึงพอใจ เนื่องจากชุมชนมีรายได้เพิ่ม ได้ดื่มน้ำที่สะอาด สุขภาพก็ดีขึ้น

คำอธิบายจากบริษัทซึ่งถูกโจมตีว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง เท็จจริงประการใดต้องพิสูจน์กันต่อไป

view