สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ธุรกิจต้องร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น

บทบรรณาธิการ
จากประชาชาติธุรกิจ



สัปดาห์ ที่ผ่านมา องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ได้เปิดเผยผลการศึกษาเรื่องคอร์รัปชั่นกับภาคธุรกิจ ปี 2552 ซึ่งชี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทุจริตและการฉ้อโกงขององค์กรธุรกิจใน 46 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กๆ ในกลุ่มประเทศแถบทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกา จนถึงบริษัทข้ามชาติในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับวิธีคอร์รัปชั่น ในรูปแบบต่างๆ ของภาคธุรกิจ เช่น การติดสินบน การฮั้วกันในภาคธุรกิจ การฉ้อโกงขององค์กร รวมถึงคอร์รัปชั่นในสายการผลิตและการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ล้วนแต่สร้างความเสียหายแก่บริษัทและประเทศเป็นอย่าง มาก

การทุจริตในหลายกรณีเกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น ผู้จัดการบริษัท ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อผลประโยชน์ ส่วนตัว ไปจนถึงเจ้าของบริษัท นักลงทุน พนักงานบริษัท คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ในประเทศที่กำลังพัฒนา พบว่าบริษัทที่ทุจริตได้ร่วมมือกับนักการเมืองและข้าราชการที่โกงกินได้ กระทำการทุจริตมีมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ รายงานยังบ่งชี้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผู้บริหารบริษัทข้ามชาติระบุว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นทำให้ต้นทุนทางธุรกิจสูงขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 แต่ที่สุดแล้ว ผู้บริโภคจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 10.5 ล้านล้านบาท

ประเด็นที่ น่าสนใจคือความล้มเหลวในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นผลทำให้เกิดระบบพวกพ้อง เกิดการวิ่งเต้น ระบบขาดความโปร่งใสและไม่มีการตรวจสอบและถ่วงดุล

ระบบ การต่างตอบแทนที่เกิดขึ้นในการทุจริตระหว่างภาครัฐกับภาคธุรกิจยังพบเห็นได้ ในการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่มีการแข่งขันที่แท้จริงและกระบวนการที่ไม่โปร่งใส ซึ่งปัญหาเหล่านี้นำไปสู่การ สูญเสียงบประมาณของรัฐอย่างมหาศาล และการไม่มีมาตรฐานของสินค้าและบริการในการแก้ไขปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้น จากการศึกษาพบว่าประมาณร้อยละ 90 ของบริษัทขนาดใหญ่ 200 แห่งทั่วโลก ได้นำจรรยาบรรณภาคธุรกิจเข้ามาใช้ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีการติดตามผลการปฏิบัติตามจรรยาบรรณดัง กล่าว

ผลการศึกษาเรื่องคอร์รัปชั่นกับภาคธุรกิจยืนยันว่า ความซื่อสัตย์สุจริตของภาคธุรกิจจึงมีความสำคัญต่อรายได้และผลตอบแทนทาง ธุรกิจที่ยั่งยืน ในทางกลับกัน หากบริษัทเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นจะเกิดผลเสีย หายอย่างมหาศาล ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยป้องกันผลเสียหายที่เกิดขึ้นจาก การทุจริตคอร์รัปชั่นด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ เอาเข้าจริง ผลการศึกษาเรื่องนี้สะท้อนภาคการคอร์รัปชั่นกับภาคธุรกิจของไทยได้อย่าง ชัดเจนที่สุด เพราะทุกโครงการทุจริตที่ผ่านมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มักเป็นการสมคบคิดกันระหว่างนักการเมืองกับนักธุรกิจ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เอาคนโกงมาลงโทษได้

ทุกวันนี้ พฤติกรรมการติดสินบน การฮั้ว การยักยอกฉ้อโกง เกิดขึ้นดาษดื่นไปหมด จากโครงการระดับชาติจนถึงโครงการระดับท้องถิ่น ภาคธุรกิจไทยเองก็ไม่ได้แข็งขันและจริงจังในการร่วมกันต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น ซ้ำร้ายภาคเอกชนยังซ่อนตัวเองอยู่ในเงามืด หากเป็นเช่นนี้แล้ว โอกาสที่ประเทศไทยจะเข้มแข็งและสะอาดโปร่งใสแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะภาคธุรกิจเอกชนไม่เคยมีจุดยืนที่เข้มแข็งในการต่อต้านคอร์รัปชั่น นอกจากสร้างภาพลักษณ์จอมปลอมไปวัน ๆ

view