สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มาร์คชี้เช่ารถเมล์NGVเสี่ยงน้อยกว่าซื้อ

มาร์คชี้เช่ารถเมล์NGVเสี่ยงน้อยกว่าซื้อ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"อภิสิทธิ์"อ้างผลศึกษาสภาพัฒน์ เช่าเสี่ยงน้อยกว่าซื้อ แถมได้กำไร สั่งการบ้าน 3 ข้อคมนาคม เออรี่พนักงาน- จัดหาสถานีอู่-จัดซื้อจัดจ้างโปร่งใส

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ครม.ได้มีการพิจารณาผลการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาสังคมและ เศรษฐกิจแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ในโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โดยสภาพัฒน์ได้ทำการสรุปว่าการเช่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าการซื้อ

นายกฯ กล่าวว่า ครม.จึงมีมติเห็นชอบให้เดินหน้าโครงการเช่ารถเมล์ ซึ่งมีประเด็นที่ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการเสนอเรื่องกลับมาให้เห็นแผนที่ ชัดเจน โดยจะมีเรื่องสำคัญ 3 เรื่องที่ต้องดำเนินการ คือ 1. โครงการนี้จะคุ้มค่าและให้ขสมก.เปลี่ยนแปลงได้คือการใช้ระบบตั๋ว อิเล็กทรอนิกส์ และต้องมีการลดพนักงาน จัดทำโครงการเพื่อให้เกิดการจูงใจให้เกิดการเกษียณอายุก่อนกำหนด ฉะนั้นตรงนี้กระทรวงคมนาคมจะต้องทำแผนออกมาให้ชัดเจนว่าจะลดจำนวนพนักงาน ผ่านโครงการนี้ อยู่ที่ตัวเลข 6,000-7,000 คน ได้แล้วเสร็จภายในเมื่อไหร่ หากไปเดินหน้าโครงการนี้แล้ว ปรากฎว่าพนักงานก็ไม่ลดในที่สุดก็ไม่ได้แก้ปัญหาขสมก.ซึ่งต้องไปจัดทำมา เพราะต้องมีการเสนอของบประมาณในการจัดโครงการให้พนักงานเกษียณอายุก่อนกำหนด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า 2. ถ้าจะทำรถเมล์ 4000 คัน และใช้เอ็นจีวี ต้องมีการเพิ่มจำนวนอู่ เพราะต้องมีสถานีที่จะเติมเอ็นจีวีได้ ต้องไปทำแผนให้เห็นชัดเจน ว่าอู่หรือสถานีเอ็นจีวีที่จัดทำเพิ่มขึ้น สามารถรองรับรถได้กี่คันภายในระยะเวลาเท่าไหร่ เพราะถ้าไปเช่ารถมา แล้วไม่มีอู่ให้เติมเอ็นจีวีก็ไม่มีประโยชน์

นายกฯกล่าวว่า 3.การจัดซื้อจัดจ้างต้องมีความโปร่งใสมากที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนห่วงใยเฉพาะ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องไปทำมี 2 เรื่องคือ 1. ต้องมีคณะกรรมการที่มากำหนดราคากลาง 2. การที่ต้องให้มีการจัดซื้อจัดจ้างให้มีการแข่งขันมากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม จัดทำเป็นแผน เสนอกลับมายังครม.ต่อไป เพื่อเดินหน้าโครงการดังกล่าว ส่วนเงื่อนไขอื่นที่เคยพิจารณาไปแล้ว เช่น ให้เป็นรถที่ประกอบในไทย ก็ยังให้คงเดิมอยู่ รวมถึงการลดตัวเลขที่เป็นประมาณการวงเงินที่เคยทำไว้สมัยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ก็ให้นำไปประกอบการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมทำแผนเสนอกลับมา แต่ถ้าตามความเป็นจริงกว่ารถจะเข้ามาและมีอู่รองรับทั้ง 4000 คัน ก็ไม่เร็ว จริงๆแล้วแนวน่าจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ทั้งเรื่องความพร้อมของอู่และการลดพนักงาน

เมื่อถามต่อว่ากระทรวงคมนาคมมีความมั่นใจมากแค่ไหนว่าเรื่องการปลด พนักงานจะไม่เป็นปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าทำไม่ได้โครงการนี้ก็เดินไม่ได้ เพราะเราคงไม่ไปเอารถติดระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์มาใช้แล้วพบว่าใช้ต้นทุนทั้ง อิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังใช้ต้นทุนพนักงานเท่าเดิม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่วนความโปร่งใสตามแนวทางที่สภาพัฒฯเสนอมาก็คือต้องมีคณะกรรมการไปกำหนดราคา กลาง การจัดซื้อจัดจ้าง ต้องเปิดให้มีการแข่งขันมากที่สุด ถือเป็นหลักประกันที่ดีที่สุด จะได้ราคาสมเหตุสมผล ซึ่งเป็นมติครม. อย่างที่บอกกระทรวงคมนาคมต้องไปจัดทำรายละเอียดในทุกเรื่องมาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่าการเช่าเสี่ยงน้อยกว่าการซื้อ เนื่องจากรถที่หมุนเวียนอยู่ในขณะนี้ ถ้าซื้อต้องซื้อมาอีก และดูจากประวัติขสมก.จะพบว่าค่าซ่อมบำรุงมักจะแพงกว่า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของเวลากระทรวงคมนาคมต้องไปทำปฏิทินมาเลย ส่วนหนี้สินเดิมต้องไปแก้ปัญหาต่างหากอยู่แล้ว ถ้าเอาหนี้สินเดิมมาดูด้วยโครงการอะไรก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น ซึ่งกระทรวงคมนาคมพยายามให้เสร็จภายใน 2 ปี นอกจากนี้ในเรื่องบประมาณเป็นเรื่องของขสมก.ซึ่งจากที่สภาพัฒน์ทำการศึกษามา ที่ได้มีการปรับตัวเลข มีการประมาณการของผู้ที่จะใช้ในการปรับลดลงมา 10 เปอร์เซ็นต์ก็ยังยืนยันว่าได้กำไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนเวลานี้นายกฯให้ความสนใจการเมืองมากกว่า เศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้สนใจการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ ที่พูดการเมืองเพราะสื่อมาถาม


 

กมธ.บี้ล้มเช่ารถเมล์NGV หวั่นซ้ำรอยโกงยูโร1-2

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ป.ป.ช.ของสภา บี้ล้มเช่ารถเมล์4พันคันจะซ้ำรอยเมล์ยูโร2รุ่นขาดทุนยับ ชี้ทำตามเงื่อนไขสภาพัฒน์ฯได้ยาก สหภาพต้าน ทิ่ม"อภิสิทธิ์"หยุดหลอกชาวบ้าน

วานนี้(30 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนฯ แถลงถึงกรณีคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา มีมติให้กระทรวงคมนาคม เช่ารถเมล์ 4 พันคัน ว่า กมธ.ได้ตรวจสอบโครงการนี้แล้วพบความไม่ชอบมาพากล หลายประการ อาทิ ค่าเช่าแพงกว่าความเป็นจริง ประมาณ 4 พันล้านบาท ค่าซ่อมแพงกว่าข้อเสนอเดิมถึง 3 พันล้านบาท ส่วนระบบเก็บตั๋วแบบอิเล็กทรอนิคส์นั้นคนไทยยังไม่มีวินัยเพียงพอ ดังนั้น จะขาดทุนอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมีลักษณะใกล้เคียงกับการเช่ารถยูโรวันและยูโรทู ซึ่งขาดทุนย่อยยับ โดยเฉพาะยูโรวันเสียหาย 1.5 พันล้านบาท และ กมธ.เคยศึกษาแล้วพบว่าส่อไปในทางทุจริต มีการบวกเอาค่าคอร์รัปชั่นและค่าล้มเหลวในการบริหารมารวมอยู่ในค่าโดยสาร ถ้ารัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้ก็จะซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน และสุดท้ายจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายชาญชัย กล่าวอีกว่า แม้ว่าครม.จะอนุมัติหลักการให้เช่ารถเมล์ แต่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้วางเงื่อนไขเอาไว้จะเช่ารถเมล์ได้ก็ต่อเมื่อต้องเออรี่รีไทร์พนักงาน 7,009 คนออกก่อน ทั้งที่ สหภาพแรงงานไม่ยอมออก หรือการต้องสร้างปั๊มแก๊ส ซึ่ง ปตท.ก็ระบุว่าไม่ต่ำกว่า 1 ปี และการสร้างอู่จอดรถเมล์ราคาสูงถึง 3 พันล้านบาทนั้น เนื่องจากเป็นโครงการที่มีวงเงินเกิน 1 พันล้านบาท ในการจัดการที่เพื่อให้เอกชน จึงต้องเข้าเงื่อนไขพ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐกับเอกชน ยืนยันว่าโครงการนี้อีก 10 ปีก็เช่าไม่ได้ แต่ถ้าขสมก.และกระทรวงคมนาคม ดันทุรังเช่ารถเมล์ก็ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดกฎหมายอาญามาตรา 157

"คณะรัฐมนตรีควรจะยกเลิกโครงการนี้ไป ก่อน แล้วทำการศึกษาอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันการขาดทุน ผมได้ยื่นข้อมูลที่ได้ศึกษาให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แล้วท่านก็บอกให้สรุปไปให้อีกครั้งหนึ่ง ขอให้หยุดหลอกประชาชนได้แล้ว" รองประธาน กมธ.ป้องกันทุจริต ขงอสภา กล่าว


กมธ.พบส่อทุจริต7พันล้านเช่าเมล์เอ็นจีวี4พันคัน "โสภณ"ฟิตนัดถกแผนสัปดาห์หน้า

จากประชาชาติธุรกิจ
รม ว.คมนาคมนัดถกทำแผนจัดเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันสัปดาห์หน้า ก่อนเปิดประมูลเดือน พ.ย. นี้ "สาทิตย์" ยันไม่ได้เอื้อให้ภูมิใจไทย แต่รับเป็นเรื่องที่รัฐบาลห่วง กมธ.เผยผลศึกษาพบส่อทุจริต 7 พันล้าน ติงอย่าบวก "ค่าการทุจริต-บริหารพลาด" ในค่าโดยสาร

คาดประมูลเช่ารถเมล์ พ.ย.
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าถึงการดำเนินการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เช่าเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมาว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม กระทรวงคมนาคม จะส่งหนังสือถึงผู้เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการพิเศษเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสร่าง ทีโออาร์ (ข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา) และการจัดเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน จากนั้นจะจัดทำรายละเอียดตามมติ ครม.ทั้งเรื่องสถานีเติมก๊าซเอ็นจีวี อู่จอดรถ และแผนโครงการเกษียณก่อนกำหนด คาดว่าจะดำเนินการจัดทำรายละเอียดให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเปิดประมูลภายในเดือนพฤศจิกายน
"สำหรับผู้ที่จะมาเป็นประธานคณะกรรมการพิเศษ จะต้องหาคนที่พอบอกชื่อแล้วทุกคนเชื่อมั่นและให้การยอมรับได้ทันที" นายโสภณกล่าว และว่า สำหรับอู่จอดรถและค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการเกษียณก่อนกำหนดของพนักงาน ขสมก. เป็นเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณ แต่ปีงบประมาณ 2553 ไม่ได้ตั้งงบฯไว้ ดังนั้น จะต้องหาทางออกด้วยการแบ่งระยะการใช้เงินออกเป็นช่วงๆ โดยการจัดหาอู่จอดรถนั้น ขมสก.มีอยู่แล้ว 16 แห่ง โดยเป็นของ ขสมก. 7 แห่ง เช่าจากหน่วยงานราชการ 4 แห่ง และเช่าจากเอกชน 5 แห่ง ซึ่งในส่วนของการเช่าเอกชนจะทำสัญญาเช่าซื้อ และจะต้องจัดหาอีก 3 แห่ง โดยการจัดซื้อภายใน 2 ปี ส่วนเรื่องบุคลากรจะทำรายละเอียดเพื่อแจกแจงว่าแต่ละส่วนจะต้องใช้บุคลากรใน การทำงานเท่าใด คาดว่าจะต้องทยอยเกษียณก่อนกำหนดเป็นเวลา 2 ปี
นัดทำแผนสัปดาห์หน้า
ด้าน นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้ากระทรวงคมนาคมจะประชุมหารือเพื่อจัดทำแผนรายละเอียดการจัดเช่ารถ เมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ทั้งการจัดหาอู่จอดรถพร้อมทั้งติดตั้งสถานีเติมก๊าซเอ็นจีวี รวมทั้งแผนเกษียณอายุก่อนกำหนด จำนวน 7,009 คน สำหรับกรณีพนักงานนั้นจริงๆ แล้วตามแผนก็ให้เกษียณอายุก่อนกำหนดจำนวน 7 พันคนมาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ไม่ได้เอาออกครั้งเดียวหมด แต่จะค่อยๆ ทำ ล่าสุดมีพนักงานที่สมัครใจลาออกแล้วประมาณ 2,500 คน
"สาทิตย์" ยันเช่ารถเมล์ไม่เอื้อ ภท.
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การผ่านความเห็นชอบโครงการรถเมล์เอ็นจีวีของ ครม.เป็นการอนุมัติแบบมีเงื่อนไข โดยเห็นควรให้แยกประมูลเป็นส่วนๆ เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบ ไม่ได้เป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์จะเคยออกมาคัดค้าน แต่เนื่องจากการพิจารณาครั้งนี้เป็นการพิจารณาตามการศึกษาของสำนักงาน พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ได้ศึกษาอย่างมีหลักการและเหตุผล ดังนั้น จึงเชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกรณีที่ 40 ส.ว.แสดงความเป็นห่วงว่าประเด็นนี้อาจจะล้มรัฐบาลได้นั้น ตนยอมรับว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นห่วง
กมธ.ข้องใจส่อทุจริต 7 พันล้าน
ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎรแถลงว่า มติ ครม.ให้เช่ารถเมล์ 4,000 คัน เป็นการอนุมัติในหลักการแบบมีเงื่อนไข 5 ข้อ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามก่อนเช่ารถมาวิ่งได้เช่น การให้พนักงาน ขสมก. 7,009 คน เกษียณก่อนกำหนด หาอู่และสถานที่เติมก๊าซเอ็นจีวี ซึ่ง ปตท.เคยชี้แจงว่าน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท จึงต้องดำเนินการตา มพ.ร.บ.ร่วมทุนด้วย ซึ่งตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฉบับใหม่ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาไปแล้วนั้น บริษัทที่ได้รับสัมปทานจะต้องเปิดบัญชีพร้อมรายงานรายรับรายจ่ายต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้สามารถตรวจสอบความโปร่งใสด้วย
"กมธ.เคยศึกษาแล้วพบว่า โครงการเช่ารถเมล์มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการทุจริต 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเช่ารถที่แพงกว่าปกติ 3,000 ล้านบาท และค่าซ่อมบำรุงที่แพงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผลอีก 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ สศช.ก็เคยอนุมัติโครงการเช่ารถเมล์ยูโรวันและยูโรทู ซึ่งภายหลังพบว่าทั้ง 2 โครงการทุจริตและขาดทุนอย่างย่อยยับ โดยเฉพาะโครงการเช่ารถเมล์ยูโรทู ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบว่า มีความเสียหายถึง 1,500 ล้านบาท จึงไม่รู้ว่า สศช.คิดอะไรจึงอนุมัติโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีที่เป็นโครงการลักษณะเดียว กันอีก อยากเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการทุกคน อย่าหลอกลวงชาวบ้าน ด้วยการบวกค่าการทุจริตและความเสียหายจากความผิดพลาดในการบริหารเข้าไปในค่า โดยสาร" นายชาญชัยกล่าว


view