จาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
 |
การ เมืองหลังจบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) มีทั้งเกมใต้ดิน-บนดิน
แม้ "พล.ต.อ.ประชา" จะไม่ลอยตามน้ำไป แต่กลับมีการปล่อยข่าวจนเกิดเสียงลือทั่วอาคาร "โอเอไอ ทาวเวอร์" ที่ทำการพรรคเพื่อไทยว่า อาจมีการปรับ ครม.ปู 1 ในเวลาอันใกล้นี้
เมื่อทีมงานการเมืองบ้านเลขที่ 111 ตั้งวงวิเคราะห์ ประเมินผลงานรัฐมนตรีที่ทำงานไม่เข้าตา มีถึง 5 ราย
และ ชื่อของรัฐมนตรี 5 ราย ถูก "รัฐมนตรีหน้าใหม่" ที่อ้างตัวเป็น "ศิษย์ก้นกุฏิ" ของ "ดร.วีรพงษ์ รามางกูร" ผู้มีบารมีในทำเนียบรัฐบาลนำไปขยายผล หาเหตุเพิ่ม และสรุปว่า "สอบไม่ผ่าน" วาระการทำงาน 3 เดือน
ทั้งอ้างว่าเป็นวงใน คนใกล้ชิด เป็นทีมเศรษฐกิจที่รับคำสั่งสายตรงของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
จึง เป็นที่มาของกระแสข่าวการปรับ 5 รัฐมนตรี ที่เข้าข่ายทำงานไร้ฝีมือและมีผลงานไม่เข้าตา ประกอบด้วย 2 รัฐมนตรีจากกระทรวงศึกษาธิการวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ-สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศึกษาธิการ
2 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กฤษณา สีหลักษณ์ และสุรวิทย์ คนสมบูรณ์
กับอีก 1 รัฐมนตรีจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สันติ พร้อมพัฒน์
ส่วน "พล.ต.อ.ประชา" แม้จะถูกฝ่ายค้านขึงพืดอภิปรายกลางสภา แถมคนที่อยู่เบื้องหน้า-เบื้องหลังในพรรคเพื่อไทยจะส่งซองคะแนน "ลับ" ให้ "ทักษิณ" รับรู้ว่า "สอบไม่ผ่าน"
แต่ "พล.ต.อ.ประชา" ก็ยังมีกลุ่ม "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายใหญ่-กลุ่ม ส.ส.อีสาน-กลุ่มอมรวิวัฒน์ เป็นแบ็กอัพคอยประคองหนุนหลังอยู่
ที่ สำคัญ "พล.ต.อ.ประชา" ยังเสมือนเป็นหนังหน้าไฟ ป้องกันคมหอกคมดาบจากฝ่ายตรงข้ามไม่ให้พุ่งตรงไปหา "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ในเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม
จึงทำให้ชื่อของ "พล.ต.อ.ประชา" ยังไม่ปรากฏอยู่ในโพยปรับ ครม.ปู 1 งวดนี้
ทว่า สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" คนเดียวเท่านั้น ว่าจะไฟเขียวให้ "พล.ต.อ.ประชา" นั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม คุมเกมการอภัยโทษ-นิรโทษกรรม ปูพรมให้ "พ.ต.ท.ทักษิณ" กลับบ้านเกิดสมดังปรารถนาอีกครั้ง
ด้านโควตาพรรคร่วมทั้งชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนา-พลังชล ยังไม่มีการเคลื่อนไหวขอปรับ-เปลี่ยนเก้าอี้
โดย เฉพาะในรายของ "ชาติไทยพัฒนา" แม้จะมีปัญหาขัดแย้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำกับพรรคเพื่อไทยในช่วงวิกฤตน้ำ ท่วมก่อนหน้านี้ จนมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยอาจขอโควตากระทรวงเกษตรและสหกรณ์คืน
แต่สุด ท้ายแล้ว ด้วยความสัมพันธ์ อันแนบแน่นกับ "บรรหาร ศิลปอาชา" ผู้มีบารมีในพรรคชาติไทยพัฒนากับ "ทักษิณ" เจ้าของพรรคเพื่อไทย จึงสามารถเคลียร์กันได้ลงตัว
ยังไม่มีใบสั่งปรับ ครม.โควตาพรรคร่วมออกมาในเวลาอันใกล้
อย่าง ไรก็ตาม แม้จะมีสัญญาณจาก "ยิ่งลักษณ์" ส่งออกมาผ่านคำให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนถูกหามเข้าโรงหมอเพราะเกิดอาการท้องเสียยืน ยันว่ายังไม่มีความคิดปรับ ครม.
"ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิด ขอให้รัฐมนตรีได้ทำงานในส่วนของตัวเองก่อน"
แต่ "อนุสรณ์ อมรฉัตร" สามีนายกฯ กลับออกมาส่งสัญญาณชัดเจนว่า "นายกฯกำลังดูอยู่ โดยใช้วิธีเก็บผลงาน นายกรัฐมนตรีบอกว่า ต่อไปนี้จะต้องประเมินไปเรื่อย ๆ หากตรงไหนอ่อนก็จะเรียกมาคุย เพื่อให้เร่งทำผลงาน เพราะถ้าไม่มีผลงานก็อยู่ไม่ได้"
นับเป็นการ "ส่งข่าวการเมือง" จากหลังบ้านนายกรัฐมนตรี ตรงตัวไปถึงคณะรัฐมนตรีที่ชัดยิ่งกว่าชัด
ตอกย้ำด้วยสัญญาณลับจาก "คำสั่ง" นายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่ส่งผ่านถึงห้องประชุมคณะรัฐมนตรี
เมื่อ จู่ ๆ ก่อนการปิดประชุมคณะรัฐมนตรี 29 พฤศจิกายน 54 นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ้างถึง "คำสั่ง" นายกรัฐมนตรีว่า "ขอให้รัฐมนตรีทุกคนทำรายงานสรุปผลการทำงานในรอบ 3 เดือน และส่งให้นายกรัฐมนตรีภายใน 7 วัน"
จากนั้นจะประเมินผลงานของรัฐมนตรี หากใคร "สอบผ่าน" ผลงานก็จะถูกแถลง-เผยแพร่สู่สาธารณะ
แม้แต่ชื่อ-ตำแหน่ง "โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" ยังถูกอ้างถึงว่าอาจจะมีการ "ปรับ" เพราะอยู่ในเกณฑ์ที่ "สอบไม่ผ่าน"
นาง ฐิติมา ฉายแสง พูดถึงเรื่องที่ถูกอ้างถึงว่า "ยังไม่ได้ยินจากปากนายกฯว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในช่วงนี้ แต่ก็อาจจะเรียกรัฐมนตรีบางคนที่ผลงานยังไม่เข้าตามาพูดคุย เพื่อให้ปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น"
รัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย รับรู้เงื่อนไขที่อำมหิตของ "ทักษิณ" ดีว่า หากถูกปรับพ้นจากคณะรัฐมนตรี จะส่งผลทางการเมืองถึง 2 ต่อ 2 แต้ม
ต่อที่ 1 คือ ไม่มีเก้าอี้รัฐมนตรี
แต้มที่ 2 คือ ไม่มีเก้าอี้ ส.ส.ให้นั่ง
เพราะ รัฐมนตรีทุกคนได้เขียนใบลาออกจากการเป็น ส.ส. ตามกฎเหล็กของพรรคที่กำหนดไว้แล้ว เพื่อเปิดทางให้ ส.ส.ลำดับถัดไปขึ้นมาแทนที่ไปแล้ว
สัญญาณจาก "ยิ่งลักษณ์" ที่ส่งตรงมาจาก รพ.พระราม 9 ถึงห้องประชุมทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ ได้จุดประกายความหวังให้กับบรรดา ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยในบัญชีว่าที่รัฐมนตรี ได้มีโอกาสลุ้นอีกครั้ง
ในจำนวนนั้นมีทั้งมือเศรษฐกิจ-มือร่างนโยบาย-มันสมองของพรรคช่วงหาเสียง
ชื่อที่เห็นชัดมีตั้งแต่ "วัฒนา เมืองสุข" ซึ่งเคยมีชื่อติดโผ รมว. ยุติธรรม แข่งกับ "พล.ต.อ.ประชา"
แต่ยังผลิตผลงานใต้ดิน ลุยเรื่องการปรองดองอย่างลับ ๆ ทั้งใน-นอกสภา ผู้แทนราษฎร
ไม่ ต่างจาก "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" เลขาธิการพรรค ที่เคยมีชื่อนั่งเก้าอี้ รมว.แรงงาน ก่อนถูก "เผดิมชัย สะสมทรัพย์" โควตาภาคกลางจากนครปฐมซิวไปครอง
ทำ ให้ "จารุพงศ์" ต้องหายเงียบไปกับบทบาท ส.ส.ของพรรค จนได้รับการเปิดพื้นที่อีกครั้ง เมื่อถูกแต่งตั้งเป็นมือประสาน-มือไกล่เกลี่ยใน "ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย" ในห้วงที่ ศปภ.มีปัญหาไม่กินเส้นกับ กทม.
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชื่อ อาทิ คณวัฒน์ วศินสังวร-มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์- นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล-สุชาติ ธาดาธำรงเวช-วิชาญ มีนชัยนันท์ ฯลฯ ที่ยังต้องเข้าแถวรอลุ้นโผ "ยิ่งลักษณ์ 2"
หลังสภาผู้แทนราษฎรปิดสมัยประชุม จึงถึงเวลาที่ "กลุ่ม-ก๊ก-ก๊วน" ในพรรคเพื่อไทยต้องเริ่มเคลื่อนไหว จัดวาระสงครามในพรรค ช่วงชิงโอกาสให้ตัวเองหรือคนในกลุ่มได้เข้าร่วม ครม.ปู 2
หากใครตกขบวนชวดการปรับ ครม.งวดนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นการ "ปรับเล็ก" เพียงไม่กี่ตำแหน่ง ก็อาจทำให้ชวดไปตลอดกาลได้
เพราะ เป็นที่ทราบกันดีในพรรคเพื่อไทยว่า เดือนพฤษภาคมนี้ บรรดา "ตัวจริง" แห่งสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ก็จะพ้นจาก "Dead lock" ฟื้นคืนชีพทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งเว้นวรรคไปนาน 5 ปี จากเหตุยุบพรรคไทยรักไทย
เมื่อ "ตัวจริง" กลับมา เหล่า "ตัวสำรอง-แถวสาม-ทีมซี" ก็หมดความหมาย
สัญญาณจาก "ยิ่งลักษณ์" และคำสั่งอำมหิตจาก "ทักษิณ"
ทำให้คนในพรรคเพื่อไทยหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี
