สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดรายงานคอป.ชุด2ชี้คดีซุกหุ้น ทักษิณ รากเหง้าขัดแย้งสู่นองเลือด53

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คอป.รายงานผลทำงานรอบ6เดือนครั้งที่ 2 ตั้งอนุกก.ยุทธศาสตร์ปรองดองเป็นตัวกลางประสานคู่ขัดแย้ง ชี้คดีซุกหุ้น'ทักษิณ'รากเหง้าความขัดแย้งของคนไท
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สรุปผลการดำเนินงานของคอป.ในรอบ 6 เดือน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 16 ม.ค.-16 ก.ค. 2554  ตามระเบียบที่กำหนดให้คอป.ต้องรายงานผลการทำงานทุก 6 เดือน ต่อรัฐบาล

สำหรับความคืบหน้าการทำงานคอป.คือการดึงความร่วมมือจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ไข  ขณะที่คอป.ยังคงเดินหน้าตรวจสอบเหตุการณ์ สถานการณ์ภาพรวมของความขัดแย้งและสรุปข้อมูลการเสียชีวิต สูญหาย การบาดเจ็บ ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ถูกจับกุมดำเนินคดี จำนวนและลักษณะของความรุนแรง ตลอดจนความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้นของทุกฝ่าย

นอกจากนี้คอป. ยังจัดให้มีโครงการรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย (Hearing) ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบุคคลจากมุมมองต่าง ๆ ของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  เพื่อเป็นการเปรียบเทียบความถูกต้องของข้อเท็จจริงที่ได้ทุกเหตุการณ์  โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเพื่อให้เกิดการปรองดองของประเทศ

ทั้งนี้ คอป.ได้แต่งตั้งอนุกรรมการด้านยุทธศาสตร์เพื่อการปรองดอง ซึ่งพยายามเน้นบทบาทในการเป็นตัวกลางประสานให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคู่ขัดแย้งสามารถเจรจาพูดคุยกันได้

คอป.เห็นว่าในระหว่างที่สังคมไทยยังมีความขัดแย้งรัฐบาลต้องมีเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะยึดถือหลักนิติธรรมในการบริหารประเทศโดยเคารพกฎหมาย และยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการเพื่อลดความขัดแย้ง  พร้อมย้ำให้รัฐบาลนำข้อเสนอแนะที่คอป.เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการให้สิทธิต่อสู้คดี

ทั้งนี้ ในรายงานคอป. มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอาทิ การดำเนินคดีอาญาในคดีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) รวมทั้งคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ล้วนเป็นเรื่องที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลสมควร เร่งรัดตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามีการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินสมควรหรือไม่ หากผู้ต้องหาและจำเลยนั้นไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว รัฐบาลสมควรจัดหาสถานที่ในการควบคุมที่เหมาะสมที่มิใช่เรือนจำปกติ และนำเอาหลักวิชาการเกี่ยวกับความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน และความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ มาปรับใช้ โดยในระหว่างนี้ให้อัยการ ชะลอการดำเนินคดีอาญาเหล่านี้ไว้ก่อน

นอกจากนี้ คอป.มีความกังวลต่อสถานการณ์เกี่ยวกับการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตาม มาตรา 112และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กลายเป็นพัฒนาการทางการเมืองและการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่สหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน และนานาประเทศให้ความสนใจติดตามอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน คอป. เห็นว่ารัฐบาลต้องดำเนินการทุกวิถีทางโดยคำนึงถึงเป้าหมายสุดท้าย คือการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่ในสถานะที่สามารถดำรงพระเกียรติยศได้อย่างสูงสุดเป็นสำคัญ

ประการสุดท้าย ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา คอป.ได้ข้อสรุปประการหนึ่งว่าสาเหตุอันเป็นรากเหง้าของปัญหาความขัดแย้งของประเทศจนเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.2553 ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการที่ละเมิดหลักนิติธรรม อันเกิดจากกรณีของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2547 ในคดี "ซุกหุ้น" ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด

เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คนที่เคยลงมติว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ลงไปวินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหาของคดี แต่กลับมีการนำเอาคะแนนเสียง 2 เสียงนี้ไปรวมกับคะแนนเสียงอีก 6 เสียงที่วินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กระทำผิดในข้อกล่าวหาว่า "ซุกหุ้น" แล้วศาลรัฐธรรมนูญได้สรุปเป็นคำวินิจฉัยชี้ขาดยกฟ้อง ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ผิดหลักกฎหมายโดยแท้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรมของประเทศไทย คอป.จึงขอเสนอแนะให้รัฐและสังคมได้ตรวจสอบการยึดถือปฏิบัติตามหลักนิติธรรมอย่างจริงจัง


สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี

Tags : เปิดรายงานคอป.ชุด2 ชี้คดีซุกหุ้น ทักษิณ รากเหง้าขัดแย้ง นองเลือด53

view