ปาร์ตี้"เอาอยู่"โชว์ผลงานเยียวยา5พันตกค้างทั่วไทย
จาก โพสต์ทูเดย์
เปิดผลงานค้างจ่าย 5 พัน ต้อนรับปาร์ตี้เอาอยู่
โดย.....ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว
ขณะที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณ 10 ล้านบาทจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศ” ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ เพื่อขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือแก้ปัญหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 จนประสบความสำเร็จตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง แต่ท่ามกลางงานเลี้ยงยินดีที่กำลังมีขึ้น ก็มีเสียงอื้ออึงจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่าจนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา โดยเฉพาะค่าชดเชยเบื้องต้นครอบครัวละ 5,000 บาท
สอดคล้องกับข้อมูลภาครัฐ เมื่อสำนักงบประมาณรายงานภาพรวมการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย( 5,000 บาท ) ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบ โดยเป็นการรายงานสถานะความคืบหน้าเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 2 ก.พ. และเป็นการรายงานก่อนที่จะมีการจัดงานประกาศความสำเร็จแก้ปัญหาน้ำท่วม เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า แท้ที่จริงมีความสำเร็จระดับไหน
ทั้งนี้ ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินในการจ่ายค่าเยียวยา 5,000บาท จำนวน 14,554.59 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอุทกภัย 2.91 ล้านราย ปรากฎว่าถึงวันที่ 2 ก.พ.มีการจ่ายจริงไปแล้ว 6,426.10 ล้านบาท ให้กับประชาชน 1.28 ล้านราย หรือคิดเป็น 49 % ของยอดจัดสรร
สาเหตุที่จ่ายไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนประชาชนที่ได้รับความ เสียหาย จากข้อมูลพบว่า เงินที่อนุมัติตกค้างอยู่ที่ธนาคารออมสิน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ประชาชนที่ได้รับผลกระทบยังไม่แสดงตนเพื่อรับเงิน อาจเป็นไปได้ กรณีเอกสารหลักฐานไม่ครบ ไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่มาขอรับเงิน นั่นคือกรณีที่ประชาชนไม่พร้อมเอง
ส่วนจะมาจากสาเหตุหน่วยงานราชการเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงิน มีความบกพร่องล่าช้าในการดำเนินการหรือไม่ นี่เป็นอีกประเด็นต้องพิจารณาและต้องไล่บี้กัน
ทั้งนี้การจัดสรรงบจะผ่านการพิจารณาจากกรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัยเพื่อให้ธนาคารออมสิน เบิกจ่าย
สำหรับจังหวัดที่มีการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือสูงกว่า 100 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายให้ครอบครัวละ 5,000 บาท ที่ยังไม่ครบ 100 เปอร์เซนต์ ได้แก่ ปทุมธานี ตั้งงบไว้ 1.6 พันล้านบาท จ่ายไปแล้ว 1.1 พันล้านบาท หรือ คิดเป็น 71.10 % จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งงบไว้ 1.02 พันล้านบาท จ่ายไปแล้ว 952.74 บาท หรือคิดเป็น 93.32 % นนทบุรี ตั้งงบไว้ 1.04 พันล้านบาท จ่ายไปแล้ว 765.77 หรือคิดเป็น 73.40% นครปฐม ตั้งงบไว้ 416.55 ล้านบาท จ่ายแล้ว 352 .79 ล้านคน หรือ 84.69% นครสวรรค์ ตั้งงบไว้ 207.74 ล้านบาท จ่ายไปแล้ว 202.47 ล้านบาท คิดเป็น 97.46 % สมุทรสาคร ตั้งงบไว้ 170.10 ล้านบาท จ่ายแล้ว 143.67 ล้านบาท คิดเป็น 84.46 % สุพรรณบุรี ตั้งงบไว้ 130.70 ล้านบาท จ่ายแล้ว 129.73 ล้านบาท คิดเป็น 99.25 % อ่างทอง ตั้งงบไว้ 124.07 ล้านบาท จ่ายแล้ว 122.83 ล้านบาท หรือคิดเป็น 99.00% เชียงใหม่ ตั้งงบไว้ 102.21 ล้านบาท จ่ายแล้ว 101.48 ล้านบาท คิดเป็น 99.28 %
ส่วนเขตกทม. ที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ต้องจ่ายครัวเรือนละ 5,000 บาท ระบุว่า เขตคลองสามวา ตั้งงบไว้ 162.09 ล้าน จ่ายไปแล้ว 64% บางแค ตั้งงบ 200.78 ล้านบาท จ่ายแล้ว 50 % ตลิ่งชัน 118.35 ล้านบาท จ่ายแล้ว 82.34 % บางเขน ตั้งงบ 209.88 ล้านบาท จ่ายแล้ว 39.79% บางพลัดตั้งงบไว้ 119.89 ล้านบาท จ่ายแล้ว 59.38% หนองแขม ตั้งงบ 102.06 ล้านบาท จ่ายแล้ว 67.37 % ดอนเมือง ตั้งงบ 123.87 ล้านบาท จ่ายแล้ว 31.67 % สายไหม ตั้งงบ 210.38 ล้านบาท จ่ายแล้ว 17.48 % หนองจอกตั้งงบ 66.67 ล้านบาท จ่ายแล้ว 50.88% ลาดกระบัง ตั้งงบ 41.88 ล้านบาท จ่ายแล้ว 73.49 % มีนบุรี ตั้งงบ 68.62 ล้านบาท จ่ายแล้ว 39.26 % ภาษีเจริญ 92.93 ล้านบาท จ่ายแล้ว 28.28% บางกอกน้อย ตั้งงบ 37.36 ล้านบาท จ่ายแล้ว 67.71 % หลักสี่ ตั้งงบ 136.52 ล้านบาท จ่ายแล้ว 16.40 % คันนายาว ตั้งงบ 30.99 ล้าน จ่ายแล้ว 64.43 %
ทวีวัฒนา ตั้งงบ 120 ล้าน จ่ายแล้ว 17.90% จตุจักร ตั้งงบ 110 ล้านบาท จ่ายแล้ว 15.13 % ลาดพร้าว ตั้งงบ 36 ล้าน จ่ายแล้ว 27.29 % ลพบุรี ตั้งงบ 4.08 ล้านบาท จ่ายแล้ว 88.25% สัมพันธวงศ์ ตั้งงบ 3.93 ล้านบาท จ่ายแล้ว 31.05 % บางซื่อ ตั้งงบ 2.95 ล้านบาท จ่ายแล้ว 66.72 % พระนคร ตั้งงบ 1.3 ล้าน จายแล้ว 90.05 % ดุสิต ตั้งงบ 1.7 ล้าน จ่ายแล้ว 87.64 % คลองสาม ตั้งงบ 7 แสนบาท จ่ายแล้ว 97.16% คลองเตย ตั้งงบ 4แสนกว่าบาท จ่ายแล้ว 92.93 % บางคอแหลม ตั้งงบ 4 แสนกว่าบาท จ่ายแล้ว 95.70% คลองหลวง ตั้งงบ 2 แสนกว่าบาท จ่ายแล้ว 78% ยานนาวา ตั้งงบ 9 แสนกว่าบาท จ่ายแล้ว 19.13 %
ทั้งหมดนี้ เป็นภาพสะท้อนการบริหารจัดการเยียวยาหลังน้ำลด ผ่านมาจนถึงวันที่งานเลี้ยงปาร์ตี้เอาอยู่กำลังเริ่มขึ้น มีความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน
นี่ยังไม่นับรวมกับแผนงาน/โครงการขนาด ใหญ่ในการฟื้นฟูประเทศและรับมือกับสถานการณ์น้ำที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า จะง่ายรวดเร็วสำเร็จเหมือนกับการจัดงานปาร์ตี้เอาอยู่หรือไม่
10 ล้านปาร์ตี้ - ขอขมาอำมาตย์
จาก โพสต์ทูเดย์
ก่อนทัพมวลชนเสื้อแดงเคลื่อนสู่สี่เสาเท เวศน์ สารพัดถ้อยคำหยาบคาย กล่าวจาบจ้วงเบื้องสูง คำกล่าวร้ายโจมตีอำมาตย์พรั่งพรูออกมา ราวกับเป็นศัตรูไม่เผาผี
โดย ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว
เสียงเพลงประสานเสียงจากวงไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิคออร์เครสตร้า ดังไพเราะทั่วทำเนียบรัฐบาล ไม่บ่อยนักที่จะมีการแสดงดนตรียิ่งใหญ่ในสถานที่ราชการสำคัญแห่งนี้ เป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริงก่อนที่งาน” รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย “ จะเริ่มขึ้นในช่วงห้าโมงเย็นของวันที่ 10 ก.พ. พร้อมกับมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโมเดิร์นไนน์
ต้องยอมรับว่าเป็นการประเดิมความยิ่งใหญ่ในปี 2555 ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทุ่มทุนสร้าง ด้วยการเจียดงบประมาณ 10 ล้านบาท จัดงานเลี้ยงขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือดูแลในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม
เม็ดเงิน 10 ล้านหากเทียบกับงบประมาณเพื่อนำไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยเมื่อปี ที่ผ่านมา อาจดูน้อยนิด จึงทำให้รัฐบาลไม่ค่อยสะเทือนเท่าไหร่อีกทั้งเป็นการดึงงบมาจากสำนัก เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายดนตรีและการจัดเวทีเครื่องเสียงรวมถึงค่าเดินทางของคณะ ดนตรี จำนวน 6.5 ล้านบาท และค่าอาหารเครื่องดื่มว่าจ้างโรงแรมสวิสโฮเต็ล 3.5 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมค่าใช้จ่ายในวันซ้อมก่อนจัดงานจริงด้วย
กว่า จะเป็นมหกรรมยิ่งใหญ่ 10 ล้าน 10 กุมภา ย้อนกลับไปดูปฐมบทของเรื่องนี้มาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2555 เมื่ออนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมครม.ว่า นายกรัฐมนตรีกำชับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ให้ไปพิจารณาจัดเตรียมงานเลี้ยงขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกส่วนราชการ กองทัพ เอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน ที่เข้ามาช่วยเหลืองานของ ศปภ.ในช่วงเกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา เนื่องจากทุกคนทุกฝ่ายทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจบสิ้นเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้แล้ว รัฐบาลจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณ ซึ่งเป็นงานใหญ่ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล แล้วจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ในกำกับของรัฐไปทั่วประเทศ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ พร้อมทั้งจะมีการออกใบประกาศเกียรติคุณให้กับทุกคนที่มาช่วยเหลือด้วย
นี่คือความเดิม ณ ตอนนั้น
เป็นการวางหลักการ จัดงานเพื่อขอบคุณทุกหน่วยงาน บรรดาจิตอาสา นั่ นก็คือ พี่น้องประชาชนร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหาน้ำท่วมในสถานการณ์ที่รัฐบาลเอาไม่ อยู่ แถมมีการมอบหมายให้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไปรวบรวมทะเบียนรายชื่อจิตอาสา หน่วยงานภาคสังคม ส่วนกลาโหมให้ประสานหน่วยงานทหารที่ให้ความร่วมมือ เพื่อจะได้ทำทะเบียนรับมอบเกียรติบัตร แสดงการขอบคุณ
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป หลักการเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร
เป็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากภาพข่าวการได้พบกันครั้งแรกของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ นายกฯยิ่งลักษณ์ ในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพบก พร้อมมีเสียงกระซิบอยากให้พล.อ.เปรม ได้มีโอกาสเยี่ยมเยือนทำเนียบฯ มีการต่อสายเป็นระยะๆ ถึงบ้านสี่เสาเทเวศน์ โดยคนคุ้นเคยอย่างพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหมขณะนั้น ตามด้วยกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เพื่อขอคำยืนยันความมั่นใจว่า “ป๋ามาแน่” ในที่สุด งานแทงกิ้วปาร์ตี้จิตอาสา จึงกลับกลายเป็นงาน 10 ล้านปาร์ตี้ขอขมาป๋าเปรม
เพราะทันทีที่ ฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกฯ ออกมายืนยัน พล.อ.เปรม มาร่วมงานแน่ บรรดาแกนนำคนเสื้อแดง ต่างออกมากัดฟันกลืนเลือดประสานเสียงยินดี ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ แกนนำคนเสื้อแดงปลุกระดมมวลชนออกมาขับไล่ พล.อ.เปรม ด้วยข้อกล่าวหาเป็นอำมาตย์ตัวพ่อ ตัวต้นเหตุของการล้มรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ
หากย้อนกลับวันดีเดย์ 8 เม.ย. 2552 ก่อนทัพมวลชนเสื้อแดงเคลื่อนสู่สี่เสาเทเวศน์ สารพัดถ้อยคำหยาบคาย กล่าวจาบจ้วงเบื้องสูง คำกล่าวร้ายโจมตีอำมาตย์พรั่งพรูออกมา ราวกับเป็นศัตรูไม่เผาผี แถมปรากฎภาพ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นนายกฯคนปัจจุบันนี้ บุกเต็นท์คนเสื้อแดงเพื่อให้กำลังใจก่อนยาตราออกศึกถล่มบ้านสี่เสาเทเวศน์ ด้วยซ้ำ แต่ ณวันนี้ บุคคลที่อัดฉีดกำลังใจคนเสื้อแดงถล่มบ้านสี่เสาเทเวศ์เป็นคนเดียวกันที่ เชื้อเชิญ พล.อ.เปรมมาเยือนทำเนียบรัฐบาล และณ วันนี้ บรรดาแกนนำที่กล่าวหาอำมาตย์ก็สั่งให้มวลชนตบแถวต้อนรับอำมาตย์เข้าสู่ ทำเนียบฯ
จุดประสงค์การจัดงานที่เคยระบุแต่แรกเริ่มกับ ณวันนี้ จึงสร้างความงุนงง! ตกลง นี่เป็นงานแทงกิ้วปาร์ตี้จิตอาสา หรืองานขอขมาป๋าเปรมกันแน่ และถ้าจะย้อนกลับไปอีก นายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ให้นโยบายกลางที่ประชุม ครม.ควรสร้างแบบอย่างที่ดีให้ประชาชน ด้วยการสั่งการหน่วยงานราชการ ไม่ควรจัดงานรื่นเริงบันเทิงใจ ในยามที่ประชาชนกำลังระทมทุกข์จากสถานการณ์น้ำท่วม กอปรกับภาวะค่าครองชีพหลังน้ำลดก็ซ้ำเติมประชาชน ต้องเร่งฟื้นฟูประเทศภายใต้การใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด ก่อนเป็นลำดับแรก แต่เหตุไฉนกลับกลายเป็นการทุ่มทุนสร้าง 10 ล้านบาท เพื่อการนี้
ครั้นจะบอกว่าขอบคุณชาวจิตอาสา ดูจะไม่ใช่แล้ว ดังจะเห็นจากการเชื้อเชิญบุคคลมาร่วมงาน ล้วนเน้นหนักบุคคลระดับสูงทางสังคม อาทิ พล.อ.ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี อดีตผบ.ทอ. ในฐานะรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) , นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี , พล.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ปฏิบัติงานใน ศูนย์ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ปลัดกระทรวง อธิบดีกรม สภาอุตสาหกรรมการค้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นต้น
นี่คืองานเลี้ยงสังสรรค์สังคม"อำมาตย์" ตามที่คนเสื้อแดงรังเกียจหรือไม่
หากดูคิวกำหนดการ ก็ปรับเปลี่ยนเน้นให้ความสำคัญพล.อ.เปรม เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการนำดนตรีของวงยะลา ซิมโฟนีออร์เครสตร้า วงไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิคออร์เครสตร้า ของ ดร.สุกรี เจริญสุข จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล และวงดุริยงค์ 3 เหล่าทัพ ล้วนเป็นวงดนตรีที่พล.อ.เปรมโปรดปรานให้การสนับสนุน มีการซักซ้อมความพร้อมเน้นหนักต้องเล่นเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งบางเพลงประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้ประพันธ์เอาไว้ด้วย บางเพลงมีการร้องเดี่ยว ร้องประสานเสียง และเพลงบรรเลง ฟังแล้วสบายใจให้รู้สึกว่าบ้านเมืองเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และสามารถฝ่าฟันจากความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนทุกหน่วยงาน มีหัวหน้าหน่วยงานเป็นตัวแทนร่วมงาน
แถมก่อนปิดท้ายรายการ วางกำหนดเวลาสองทุ่ม ให้พล.อ.เปรม มอบช่อดอกไม้วงดนตรีโปรดปราน พร้อมกล่าวแสดงความชื่นชม ซึ่งแน่นอน เป็นไฮไลท์ที่สื่อมวลชนต้องเงี่ยหูฟังเพื่อนำเสนอข่าวในวันรุ่งขึ้นถึงคำ กล่าวพล.อ.เปรม ที่มีต่อรัฐบาลและประเทศชาติ
ภาพออกมาสื่อสารสมานฉันท์ ดันหลังพล.อ.เปรมผู้ที่ถูกยัดเยียดให้เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญออกมายืน อยู่ข้างหน้าเรียกความเชื่อมั่นให้เหล่าคณะรัฐบาล และบริวาร ที่เคยออกมาขับไล่อำมาตย์
จุดประสงค์เดิมจัดงานเพื่อจิตอาสาจึงเป็นแค่ภาพหลอกเท่านั้นเอง
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี