สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แต่งตั้ง 47 นายพลสีกากี ทักษิณยึดรัฐตำรวจ

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ธนก บังผล

รายชื่อ 47 บิ๊กวงการสีกากี แต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ถึงรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) หรือเข้าใจง่ายๆ คือ ระดับตำแหน่งนายพล คราวนี้อาจเรียกได้ว่าไม่ผิดโผ

47 คนนี้ มีตำแหน่งระดับที่ปรึกษามาเป็น รอง ผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นที่ปรึกษา 5 ตำแหน่ง โดยใช้หลักอาวุโสเป็นลำดับส่วนระดับ ผบช.เลื่อน 10 คน หมุน 6 คน รอง ผบช.เลื่อนเป็น ผบช. 22 คน เป็นไปตามอาวุโส 33% 8 คน ตามความเหมาะสม 14 คน

ที่ผ่านมาใครเส้นไหนสายใครรับใช้การเมืองได้เข้าตาก็ย่อมมีการตบรางวัล

สายที่เดินกันแรงที่สุดย่อมไม่มีใครสู้สายจันทร์ส่องหล้า ที่มีหลานเขยอย่าง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 (ผบช.ภ.1) เป็นผู้เดินไปบนเส้นทางที่ถูกโรยไว้ด้วยดอกกุหลาบ

พล.ต.ท.วินัย นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 32 (นรต.32) หลังระเห็จมาจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เพียงเดือนกว่า อีกไม่ถึง 60 วันข้างหน้าก็ต้องไปเป็น ผบช.ภ.2 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ จ.ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง เป็นต้น

การโยกครั้งนี้ทำให้ พล.ต.ท.วินัย ขึ้นแท่นจ่อตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. เต็มที

ส่วน “คนรักวินัย” นรต.32 อีกคนคือ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. เองก็ย้ายไปเป็น ผบช.ภ.9 คุมกำลังและดูแลงานของตำรวจในภาคใต้ตอนล่าง อาทิ จ.พัทลุง จ.สตูล จ.สงขลา เป็นต้น

ว่ากันว่า ถ้าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ กลับกรุงเมื่อไหร่อาจมีเลื่อนชั้นอย่างเร็ว อย่างน้อยๆ ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. ก็ไม่น่าจะพลาด

สายนี้แรงดีไม่มีตกไปถึง พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ น้อง ชายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาตามกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับอานิสงส์มาตั้งแต่ยังเป็นจเรตำรวจ (จตร.) ดีดขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.)

มาคราวนี้ ด้วยความที่เป็นสายเลือด “ดามาพงศ์” พล.ต.ท.พีระพงศ์ ได้ขึ้นตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.

โดยผลพวงมาตกอยู่ที่ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น เพื่อนร่วมรุ่น นรต.32 จาก ผบช.ภ.2 จะโยกไปเป็น ผบช.สพฐ.ตร. นัยว่ายกเก้าอี้ให้ พล.ต.ท.วินัย นั่งแทน

อีกคนหนึ่งคือ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล นรต.30 สายตรง คุณหญิงพจมาน ได้ย้ายจาก ผบช.ภ.3 มาเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.พจน์ ไทยกล้า รอง ผบช.ภ.6 สายตรง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้ขึ้นไปเป็นจเรตำรวจ

ที่ได้กับเขาเหมือนกันคือ พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ นรต.37 รอง ผบช.น. ที่กระโดดขึ้นมาเป็น ผบช.ภ.1 แทน พล.ต.ท.วินัย เพราะมีดีกรีเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นั่นทำให้เพื่อนร่วมรุ่นนายกฯ คนนี้จะต้องดูแลงานในพื้นที่ 9 จังหวัดปริมณฑลและภาคกลางส่วนหนึ่ง

 

อีกสายหนึ่งนั้นวิ่งเบาๆ เอาการเมืองนำ พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช รอง ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. เชี่ยวชาญด้านสืบสวน ได้แรงหนุนจากเพื่อนร่วมรุ่น นรต.30 อย่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จนได้ตำแหน่ง ผบช.ภ.8

จะเห็นได้ว่าการย้าย พล.ต.ท.ยงยุทธ ไป บช.ภ.8 เป็นยุทธศาสตร์การเมืองที่ต้องให้คนสนิทเท่านั้นเข้าไปดูแลพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์

พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รอง ผบช.สตม. (นรต.28) สายตรงพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ทำหน้าที่ประสานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย

ส่วนสายที่ต้องลุ้นตัวโก่งนั้นก็มี พล.ต.ต.เชิด ชูเวช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ที่ได้แรงหนุนจาก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. จนได้กลับไปเป็น ผบช.ภ.3 ดูแลงาน 8 จังหวัดภาคอีสานถิ่นเสื้อแดง

พล.ต.ต.จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ รอง ผบช.สยศ.ตร. ซึ่งสนิทกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม ได้ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ

รวมถึง พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รอง ผบช.ภ.4 อดีตนายเวร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ที่งานนี้ได้ดีขึ้นเป็น ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ทำหน้าที่บริหารด้านป้องกันปราบปราม

อีกคนหนึ่งคือ พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ รอง ผบช.ภ.4 ซึ่งเป็นสายตรง พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 ดูแลภาคอีสานตอนบน

ที่น่าสนใจคือ ในจำนวน ผบช.ที่เลื่อนนี้ มีผู้สละสิทธิ 1 คน นั่นคือ พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) นายกสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ที่เป็นอาวุโสลำดับ 8 โดยแจ้งว่ามีภารกิจต่อเนื่องไม่ประสงค์จะเลื่อนตำแหน่ง

ขณะที่ในตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. นี้มีฮือฮาเล็กน้อย เมื่อ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา นรต.36 อดีต ผบช.น. ที่โดนย้ายไปเป็น ผบช.ภ.9 ได้ขึ้นมาผงาดอีกครั้ง

ด้วยอายุงานอีกนาน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. คราวนี้มองยาวๆ แล้ว ตำแหน่งสูงสุดของวงการสีกากีคงไม่น่ารอดมือ ถ้าไม่สะดุดเสียก่อน รวมถึงเพื่อนร่วมรุ่น นรต.32 พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รอง ผบช.ภ.6 ขึ้นเป็นจเรตำรวจ

ตำแหน่งระดับบิ๊กอย่างตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ชื่อที่เป็นไปตามคาดตามอาวุโส คือ พล.ต.อ.วรพงศ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) หรือบิ๊กย้อย ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ขยับขึ้นมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ 10) ตอบแทนการทำงานเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในการสอบสวนดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบิน

จากรายชื่อ นายพลตำรวจ ที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นที่ชัดเจนว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ คุมองค์กรตำรวจแบบเบ็ดเสร็จ

แม้การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ มีคำพูดที่สวยหรูจาก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า เพื่อรองรับต่อนโยบายรัฐบาลตามยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านระดับภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนเน้นเป็นพิเศษคือ พม่า ลาว กัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญ

แต่ต้องไม่ลืมว่า เรื่องเส้นสายนั้น โดยเฉพาะการ “วิ่ง” หาให้นายช่วยนั้น มีอยู่จริงในระบบตำรวจ ทำไมหลายคนเป็นสารวัตรมา 10 กว่าปี

การโยกย้ายครั้งนี้จึงชัดเจนว่าหลายคนเป็นเด็กใคร สายไหน อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าตำรวจที่ถูกโยกย้ายจะไร้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำงาน เพียงแต่ระบบโยกย้ายที่กลายเป็นวัฒนธรรม กดขี่คนทำงานดีแต่ไม่เติบโต

เมื่อประกอบกับการเมืองเล่นพรรคเล่นพวก เข้ามาล้วงรายชื่อ “คนของตัวเอง” ให้ได้ดิบได้ดี ใครที่รับใช้สนองงานได้ตามที่สั่งก็ประเคนยศให้ แล้วจะให้ตำรวจเอาเวลาไหนมาพิทักษ์สันติราษฎร์


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : แต่งตั้ง นายพลสีกากี ทักษิณยึดรัฐตำรวจ

view