จากประชาชาติธุรกิจ
หนึ่งในอาหารทะเลยอดฮิตที่คนนิยมกินคือกุ้ง เพราะรสชาติหวานและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ถึงอย่างนั้นกุ้งก็เป็นอาหารต้องห้ามของบางคน เนื่องจากกินแล้วจะเกิดอาการแพ้
วิธีกินกุ้งอย่างมีความสุข ห่างไกลจากอาการแพ้ จึงได้รวบรวมวิธีสังเกตอาการแพ้ และการกินที่ถูกต้องมาฝากกัน
รู้สาเหตุ+สังเกตอาการแพ้กุ้ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภัคดี สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า
อาการแพ้กุ้งคือหนึ่งในกลุ่มอาการแพ้อาหาร (food allergy) มีสาเหตุจากสารในอาหาร (antigen) หรือสารที่เกิดขึ้นจากกระบวนการย่อยอาหาร (breakdown product) กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สร้างภูมิคุ้มกัน (antibody) ขึ้นมาต่อต้าน อาการแพ้จึงปรากฏ
อาการแพ้จะแสดงออกใน 3 ระบบ คือ
1.ระบบผิวหนัง เช่น มีผื่นขึ้น
2.ระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง
3. ระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด บางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
สำหรับคนที่มีอาการแพ้เมื่ออายุมากขึ้น แม้ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากภูมิคุ้มกันภายในร่างกายบกพร่อง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก กินอาหารไม่ถูกสัดส่วน พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือหลายปัจจัยร่วมกัน
แพ้สารอะไรในตัวกุ้ง
โครงการวิจัยล่าสุดตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2553 เรื่อง "การศึกษาหาสารก่อภูมิแพ้ที่จำเพาะที่เป็นสาเหตุของการแพ้กุ้งน้ำจืดและกุ้ง ทะเลที่นิยมบริโภคในคนไทย" ชี้ให้เห้นว่า กุ้งน้ำจืดที่พบรายงานการแพ้มากที่สุดคือ กุ้งก้ามกราม ส่วนกุ้งทะเลคือกุ้งกุลาดำ ทั้งนี้อาการแพ้อาจเกิดจากกุ้งเพียงชนิดเดียวหรือมากกว่าหนึ่งชนิด
ดร.สุรพล พิบูลโภคานันท์ นักวิจัยผู้ควบคุมโครงการจากสถาบันอณูชีววิทยาและพันธุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครที่แพ้กุ้งมาทดสอบและวิเคราะห์หาสารก่อภูมิแพ้ จึงค้นพบว่า สารก่อภูมิแพ้ที่จำเพาะต่อคนไทยในกุ้งก้ามกราม คือ โปรตีนเฮโมไซยานิน (hemocyanin protein) ส่วนสารก่อภูมิแพ้ในกุ้งกุลาดำ คือ โปรตีนลิพิดไบน์ดิง (hpid binding protein) และโปรตีนแอลฟาแอกตินิน (alpha actinin protein)
ใครบ้างที่มีโอกาสแพ้กุ้ง
สำหรับวิธีสังเกตเบื้องต้น มูลนิธิมาโยเพื่อการศึกษาทางการแพทย์และการวิจัย ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำว่าผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงเกิดอาการแพ้กุ้งส่วนใหญ่บุคคลในครอบครัวจะมี ประวัติการแพ้ และผู้ที่แพ้อาหารทะเล เช่น ปู หอย ปลาหมึก มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะแพ้กุ้งร่วมด้วย
หาคุณหมอ ทดสอบอาการแพ้
อาการแพ้ไม่อาจเดาสุ่มได้ ควรทดสอบให้ทราบแน่ชัดว่าร่างกายแพ้กุ้งหรือไม่การทดสอบอาการแพ้ทำบริเวณผิวหนัง โดยหยดน้ำยาที่สกัดจากสารภูมิแพ้ที่มีอยู่ในอาหารลงบนผิวหนังที่แขนและใช ช้เข็มสะกิดผิวหนังเพื่อทดสอบการแพ้ (skin prick test) หรือฉีดน้ำยาเข้าผิวหนัง (intradermal test) ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หากเกิดรอยนูน ผื่นแดง หรือรู้สึกคัน แสดงว่าแพ้อาหารชนิดนั้น
การป้องกันอาการแพ้ทุกชนิด ไม่ว่าจะแพ้กุ้ง แพ้อากาศ หรือแพ้ขนสัตว์ เราป้องกันได้ด้วยการกิน นอน ผักผ่อน ออกกำลังกาย และทำงานให้สมดุลค่ะ
ฉลาดกินกุ้งให้ดีต่อสุขภาพ
อาจารย์สาทิต อินทรกำแหง กูรู้ต้นตำรับชีวจิตแนะนำการกินกุ้งว่า
ควรกินอย่างพอดี คือไม่เกินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หากกินมากกว่านั้นไม่แนะนำ เพราะกุ้งมีคอเลสเตอรอลสูง แนะนำให้กินปลาเป็นหลักดีที่สุด
ที่มา : ชีวจิต
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน