พาณิชย์แจงมีสัญญาขายข้าวกับประเทศต่างๆ แล้ว 8 ล้านตัน

จากประชาชาติธุรกิจ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงขั้นตอนการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่า สัญญาจีทูจีเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งในทุกประเทศที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนจะมีการเจรจาขายข้าว และกระทรวงพาณิชย์จะรับหน้าที่เจรจาต่อในรายละเอียด เพื่อนำไปสู่การทำความตกลงร่วมมือ (MOU) และการทำสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศต่อไป

สำหรับรายละเอียดของการทำสัญญากับแต่ละประเทศ นายบุญทรง กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไทยไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะเป็นมารยาทของประเทศผู้ขายข้าวที่ต้องรักษาสัญญากับประเทศคู่ค้าไว้เป็นความลับ เพราะข้าวเป็นประเด็นอ่อนไหวในหลายประเทศ นอกจากนี้ การเปิดเผยสัญญาซื้อขายจะเป็นผลลบกับประเทศไทย เพราะประเทศคู่แข่งจะสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการค้าที่เป็นความได้เปรียบของประเทศไทย และอาจทำให้สถานการณ์การเจรจาขายข้าวของไทยกับประเทศที่เหลือไม่สามารถทำการขายข้าวระหว่างประเทศได้อีกต่อไป เพื่อรักษาความได้เปรียบในการเจรจาซื้ิอ-ขายข้าวเหนือประเทศคู่แข่งและรักษาความสัมพันธ์ทางการค้า ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงต้องการขอร้องให้ทุกฝ่ายเข้าใจระบบเจรจาการค้า และขอให้เชื่อมั่นว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ทุกคนทำงานหนักอย่างเต็มที่ในการเจรจาขายข้าวให้ได้ราคาดีที่สุด และประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากทุกข้อตกลง

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ทำ MOU ไว้กับประเทศผู้ซื้อ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ และโกตดิวัวร์ ซึ่งกรอบ MOU ดังกล่าวมีระยะเวลาบังคับใช้ 3-5 ปี คิดเป็นปริมาณข้าว 8 ล้านตัน ในจำนวนนี้มีการทำสัญญาซื้อขายแล้วจำนวน 6 สัญญา ปริมาณ 7.32 ล้านตัน โดยในช่วงเดือนมกราคม - กันยายน 2555 ไทยได้ส่งมอบข้าวให้ประเทศผู้ซื้อแล้วปริมาณ 1.46 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณที่ได้ทำสัญญาไว้ และในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2555 จะมีการส่งออกข้าวภายใต้กรอบจีทูจีอีก 300,000 ตัน สำหรับในปี 2556 ไทยจะสามารถส่งออกข้าวในระบบจีทูจีได้ประมาณ 5.56 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ส่งรายได้จากการขายข้าวคืนให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ไปแล้ว จำนวน 42,000 ล้านบาท ซึ่งภายในสิ้นปีนี้จะสามารถทยอยส่งคืนเงินได้ทั้งสิ้น 85,000 ล้านบาท

“บุญทรง” ลั่นข้อมูลขายข้าว “จีทูจี” เป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รมว.พาณิชย์ยันไม่สามารถเปิดข้อมูลขายข้าว “จีทูจี” ทั้งหมดได้ เพราะอาจกระทบประเทศผู้ซื้อ เนื่องจากข้าวเป็นสินค้าที่อ่อนไหวทางการเมืองสูงมาก ย้ำได้ทำสัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ 7.3 ล้านตัน พร้อมส่งเงินคืน ธ.ก.ส.ไปแล้ว 4.2 หมื่นล้าน พร้อมโต้ข่าวอุ้มบริษัทใกล้ชิดขึ้นเป็นแชมป์ส่งออก ระบุเป็นการแข่งขันในตลาดการค้าปกติ
       
       นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดในการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไม่ได้ทั้งหมด โดยเป็นห่วงว่าอาจส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ซื้อ เนื่องจากข้าวเป็นสินค้าที่อ่อนไหวทางการเมืองสูงมาก
       
       ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงเกี่ยวกับการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลว่าได้ดำเนินการ แล้วอย่างเป็นรูปธรรม โดยยืนยันได้ทำสัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ 7.3 ล้านตัน กับประเทศผู้ซื้อหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย จีน และโกตดิวัวร์ ซึ่งประเทศผู้ซื้อได้มีการชำระเงินและรับมอบข้าวไปแล้วบางส่วน และกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งคืนเงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปแล้ว 4.2 หมื่นล้านบาท
       
       นายบุญทรงกล่าวว่า การซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบบันทึก ความเข้าใจ (MOU) ที่รัฐบาลไทยได้จัดทำกับประเทศผู้ซื้อ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ และอยู่ในระหว่างการจัดทำกับประเทศโกตดิวัวร์ ซึ่งกรอบ MOU ดังกล่าวมีระยะเวลาบังคับใช้ 3-5 ปี คิดเป็นปริมาณข้าว 8 ล้านตัน ซึ่งสอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้
       
       การจัดทำ MOU เป็นกรอบพื้นฐานเพื่อนำไปสู่การเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐและการทำสัญญา ซื้อขายข้าว ในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศได้มีการเจรจากับประเทศอาเซียนในการขายข้าวแบบรัฐต่อ รัฐกับประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศและมีการซื้อขาย ข้าวระหว่างกันมายาวนาน จึงเป็นลูกค้าข้าวที่สำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
       
       ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนผู้ส่งออกข้าวบางราย ซึ่งในเรื่องนี้ขอชี้แจงว่าถึงแม้ว่ารัฐบาลจะดำเนินโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ด แต่ยังมีข้าวบางส่วนที่ไม่ได้เข้าสู่โครงการรับจำนำและหมุนเวียนอยู่ในตลาด ผู้ส่งออกหรือผู้ค้าข้าวจึงสามารถทำธุรกิจได้ตามปกติ ยิ่งกว่านั้นรัฐบาลยังเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออก ผู้ซื้อข้าว โรงสี โรงงานแปรรูปต่างๆ ที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบ สามารถเข้าร่วมเสนอราคาซื้อในทุกๆ ครั้งที่มีการระบายข้าว
       
       ส่วนการส่งออกที่อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงของผู้ส่งออกนั้น เป็นความสามารถของแต่ละบริษัทที่จะแข่งขันกันในตลาดการค้าซึ่งเป็นปกติของ การดำเนินธุรกิจ

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน