สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ช่วยผมด้วย คำร้องขอจากรถคุมขัง

จาก โพสต์ทูเดย์

"ช่วยผมด้วย"คำร้องขอจากรถคุมขัง

โดย....ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

"ผมกำลังยืนบันทึกเหตุการณ์ม็อบอยู่กลางสะพาน  จู่ๆไม่รู้แก๊สน้ำตามาจากไหน ฟุ้งเลย  จากนั้นมีเตะต่อย แล้วก็โดนจับ" พัฒนศักดิ์ วรรณเดช ช่าง ภาพสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส  เปิดเผยขณะที่ยังอยู่ในอาการขวัญกระเจิง น้ำตาไหล หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมไขกุญแจรถควบคุมตัวผู้ต้องขังปล่อยออกมานั่งพัก หายใจในเต็นท์กองอำนวยการข้างทำเนียบรัฐบาลเชิงสะพานมัฆวาน           

พัฒนศักดิ์ เป็นช่างภาพประจำสายงานบชน. หรือสายตำรวจแท้ๆ แต่ก็ต้องโดนรวบตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง   เขาเกือบถูกส่งตัวไปไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีร่วมกับผู้ชุมนุมกว่า 100 คนในไม่อีกกี่นาทีข้างหน้า ถ้าหากเพื่อนสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลไม่ทันมาเจรจาขอปล่อยตัว ไม่ต่างกับ สันติ เต๊ะเปีย  ช่างภาพหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี ผู้จัดการ ที่เป็นช่างภาพสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และเป็นเจ้าของรางวัลภาพยอดเยี่ยมหลายองค์กรสื่อ ตกอยู่ในอาการขวัญผวาเช่นกันหลังจากได้รับอิสรภาพ

พัฒนศักดิ์ และสันต์ พยายามยื่นบัตรแสดงตนเป็นสื่อมวลชน ผ่านซี่ลูกกรงเหล็กของรถควบคุมผู้ต้องขัง แต่ทว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ให้ความสนใจพร้อมกับมีคำสั่งให้รีบนำตัวออกจาก พื้นที่ เขาทั้งสองพยายามส่งเสียงบอกว่าเป็นนักข่าว ก็ไม่ได้มีใครสนใจอีก จนกระทั่งตัวแทนสื่อทำเนียบรัฐบาลเดินตามหาตัวสองช่างภาพสื่อมวลชนและพบอยู่ ในรถควบคุมผู้ต้องขังในสภาพยัดเป็นปลากระป๋อง  "ช่วยผมด้วย" คือเสียงที่สื่อสารออกมา

สันติ หรือ เพื่อนๆเรียกกันว่า “สันต์” ผ่านงานถ่ายภาพเหตุการณ์ชุมนุมมาหลายกลุ่ม คุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำทำเนียบรัฐบาลเป็นอย่างดี   แต่มาครั้งนี้ถือเป็นคราวเคราะห์เขา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเหมารวมเป็นผู้ก่อความไม่สงบ เพราะการที่ไปสวมปลอกแขนสีเหลือง ซึ่งจริงๆแล้วเป็นสัญลักษณ์ช่างภาพสื่อมวลชนที่องค์กรพิทักษ์สยามออกให้ เพื่อปฏิบัตหน้าที่ข่าวการชุมนุม 

ทั้งสองนอกจากโดนแก๊สน้ำตา ยังถูกเตะเข้าทั้งชายโครง ใบหน้าปูดบวม     ร่างกายสะบักสะบอมไม่พอ  เครื่องมือทำมาหากิน กล้องถ่ายภาพราคาแพง ก็ถูกกระชาก โดนหยียบจนชำรุดเสียหายในช่วงเหตุการณ์ชุลมุน 

พัฒนศักดิ์  บอกว่า ตอนที่มีการยิงแก๊สน้ำตา  ไม่มีเสียงประกาศเตือนจากเจ้าหน้าที่  ทำให้เตรียมตัวไม่ทัน แสบหน้าแสบตา หายใจไม่ออก   บัตรสื่อมวลชนหล่นหาย จากนั้นก็โดนทำร้าย ถูกจับขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง            

ขณะที่ สันต์  เล่าว่า กำลังอยู่บนรถเครื่องขยายเสียง เพื่อถ่ายรูปผู้ชุมนุมที่กำลังผลักดันตำรวจหวังเปิดแนวสกัดกั้นเปิดทางไปรวม กับผู้ชุมนุมอีกกลุ่มที่สะพานมัฆวาน ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็ขว้างแก็สน้ำตาเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุม ควันฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เมื่อถูกควันพิษจากแก๊ส สัน รีบกระโดดลงด้านหน้ารถแล้ววิ่งหลบเข้าไปหาฝั่งตำรวจเพื่อหลบกลุ่มควัน ทันที         

"พอขว้างแก็สกัน ผมก็กระโดดลงจากรถ กล้องเลยพังเอาตอนนั้นเอง พอหลบเข้าฝั่งตำรวจได้ผมยังเดินไปนั่งพักข้างๆตำรวจคนหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนที่โดนควันพิษแก็สน้ำตาเหมือนกัน เขายังแบ่งน้ำมาให้ผมล้างหน้าอยู่เลย"สัน กล่าว         

อย่างไรก็ตาม ขณะนั่งล้างหน้าอยู่นั้นก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาจับกดคอ แล้วพยายามเตะเข้าที่ใบหน้าแต่สันเอาแขนป้องกันไว้ได้ จากนั้นก็ลากตัวถูลู่ถูกังจนกระเป๋าโน๊ตบุ๊คขาด เอาตัวไปขังบนรถ    

"เราก็ไม่คิดว่าตำรวจจะทำแบบนี้ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะกี่ม็อบๆเราบอกว่าเป็นสื่อมวลชนเขาก็เชื่อ แต่นี่ไม่ฟังเลย มาถึงก็มาลากไปเลย เราบอกว่าเป็นสื่อๆ เขากลับบอกว่า สื่อเส่ออะไร ตอนนี้ไม่มีสื่ออะไรทั้งนั้น จับกดคอ เตะมาที่หน้าแต่ยังดีที่ผมเอาแขนบังไว้ได้ แต่น้องช่างภาพจากไทยพีบีเอสโชคร้ายกว่า โดนเตะเข้าที่หน้าไป 2 ที แล้วก็จับเราไปขัง "สันต์ กล่าว         

เหตุการณ์ความชุลมุนจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทำให้อดนึกถึงคำพูดของ  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง  รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวโต๊ะกำกับการดูแลสถานการณ์ชุมนุมครั้งนี้ เคยบอกไว้ ต้องการเชิญสื่อมวลชนมาร่วมสังเกตการณ์ชุมนุม เพื่อการันตีการปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช่ความรุนแรง              

แต่กลับกลายเป็นว่า สื่อมวลชนทั้งสองต้องรับเคราะห์ความรุนแรงจนเกือบเอาตัวไม่รอดเพราะความเข้าใจผิด


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ช่วยผมด้วย คำร้องขอ รถคุมขัง

view