สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ธาริตแจงไม่ต้องสอบตัวเองในฐานะอดีตกก.ศอฉ.

ธาริตแจงไม่ต้องสอบตัวเองในฐานะอดีตกก.ศอฉ.

จาก โพสต์ทูเดย์

ธาริตแจงไม่ต้องสอบตัวเองในฐานะอดีตกก.ศอฉ.

ธาริตแจงไม่ต้องสอบตัวเองในฐานะอดีตกก.ศอฉ.เหตุมีกม.คุ้มครอง ชี้สุเทพ-อภิสิทธิ์ใช้อำนาจตัดสินใจสั่งการ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้แจงหลังมอบหมายให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอนำหมายเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฝ่ายความมั่นคง มารับทราบข้อกล่าวหาคดี”ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็น ผล””หลังจากศาลยุติธรรมมีคำสั่งในคดีการไต่สวนสาเหตุการตายของนายพัน  คำกอง นายพัน คำกอง”แท็กซี่เสื้อแดง ว่า นายอภิสิทธิ์ ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าฯติดภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศและจะเดิน ทางกลับในวันที่ 12 ธันวาคม ดังนั้นจึงได้เลื่อนในให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 13.00 น.

“สำหรับกรณีที่ผมเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนจะทำหน้าที่เพียงกำกับดูแล และเร่งรัดให้การดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องเท่านั้นโดยจะไม่เป็น ผู้สอบสวนหรือลงชื่อร่วมสอบสวน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ศอฉ.แล้วจะต้องตั้งข้อกล่าวหาตัวเองหรือไม่ จึงขอชี้แจงว่าทุกครั้งที่มีการประชุมศอฉ.ชุดยุทธการผมไม่เคยได้รับมอบหมาย ให้เข้าร่วมในการประชุม มีเพียงการร่วมประชุมชุดทั่วไปที่ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในขณะนั้น ส่วนการสั่งการและการสั่งใช้กำลังทหารมาจากชุดยุทธการและผู้มีอำนาจตัดสินใจ คือนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ”นายธาริต กล่าว

นายธาริต ยังชี้แจงซ้ำอีกว่า ไม่ใช่ทุกคนในศอฉ.จะต้องมีความผิดทั้งหมดเพราะเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและรับ คำสั่งในการปฏิบัติการเป็นทอดๆจึงมีกฎหมายคุ้มครอง


ถอดรหัสลับ12/12/12

จาก โพสต์ทูเดย์

ถอดรหัสลับ12/12/12

ในที่สุดที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมปี 2553 ซึ่งประกอบด้วย 3 ฝ่าย

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจและอัยการมีมติแจ้งข้อกล่าวหา “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี และ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 83 84 และ 288

พร้อมกำหนด “ดีเดย์” 12/12/12 วันพุธที่ 12 ธ.ค. 2555 หรือปี 2012 นี้ ให้ทั้งคู่มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อทำการสอบสวนในฐานะผู้ต้องหา ก่อนจะใช้ดุลพินิจปล่อยตัวไปโดยไม่ขอศาลฝากขัง เนื่องจากทั้งสองเป็นอดีตข้าราชการการเมืองชั้นผู้ใหญ่

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เมื่อสัญญาณจ้องเอาผิดทั้ง “อภิสิทธิ์สุเทพ” ในคดีดังกล่าวมีให้เห็นจากฝ่ายการเมืองลงไปถึงฝ่ายปฏิบัติการถึงขั้นมีแผน ออกมาชัดเจนว่า จะตั้งข้อหาในช่วงปิดสมัยประชุมที่ทั้งคู่จะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง

ทั้งนี้ กุญแจสำคัญที่ทำให้ดีเอสไอเร่งเครื่องดำเนินคดีกับทั้งคู่คือ กรณีการเสียชีวิตของ “พัน คำกอง” คนขับแท็กซี่ จาก จ.ยโสธร ที่เสียชีวิตใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์สถานีราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2553 ระหว่างเหตุการณ์กระชับพื้นที่ราชประสงค์

กรณีนี้ศาลอาญามีคำสั่งไต่สวนตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญาเชื่อว่า การเสียชีวิตเกิดจากถูกลูกกระสุนปืนจากการยิงของเจ้าพนักงานทหารยิงใส่รถตู้ ที่แล่นเข้าไปในพื้นที่ควบคุมภายหลังเจ้าพนักงานทหารเตือนให้หยุดแล่น ในขณะเจ้าพนักงานทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบปิดล้อมพื้นที่ควบคุม ตามคำสั่งของ ศอฉ.

อีกทั้งต่อมาศาลมีคําสั่งไต่สวนในคดี “ชาญณรงค์ พลศรีลา” ที่เสียชีวิตบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ในวันเดียวกัน เป็นการเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารขณะควบคุมสถานการณ์ การชุมนุมตามคําสั่ง ศอฉ.

รวมทั้งการเข้ามาเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดี 91 ศพของ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อธิบดีดีเอสไอ แทน พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข ซึ่งถูกโยกให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ย่อมเป็นเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทำไมบิ๊กพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสองคนถึงถูกดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญ

“ธาริต” ได้ชี้แจงถึงเหตุผลในการแจ้งข้อหาว่า ที่ผ่านมา ศอฉ.มีการสั่งใช้กำลังทหารที่มีอาวุธปืนเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งการกระชับพื้นที่และการขอคืนพื้นที่ ซึ่งพบการสั่งใช้อาวุธปืน การสั่งใช้พลซุ่มยิงและอื่นๆ โดยมีการออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย

“ประการสำคัญคือการสั่งการของบุคคลทั้งสองกระทำอย่างต่อเนื่อง หลายครา แม้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนแล้ว ก็หาได้ระงับยับยั้งหรือใช้แนวทางอื่นใดแต่อย่างใดไม่ รวมถึงพยานแวดล้อมกรณีอื่นๆ อีก จึงเป็นการบ่งชี้ได้ว่าเป็นเจตนาเล็งเห็นผลได้ว่า การร่วมกันสั่งการเช่นนั้น ย่อมทำให้เกิดการตายของประชาชนจำนวนมากและต่อเนื่องกันหลายๆ วัน” เหตุผลจากอธิบดีดีเอสไอ

จากคำแถลงการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีความพยายามพุ่งเป้าไปที่ฝ่ายการเมืองก็เพื่อตัดตอนไม่เอาผิดไปถึงเจ้า หน้าที่ปฏิบัติงานในเวลานั้นคือ “กองทัพ” อย่างน้อยรัฐบาลก็ได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์ ระหว่างรัฐบาลและกองทัพมีปัญหาโดยไม่จำเป็น

ดังจะเห็นจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าผู้ปฏิบัติ แม่ทัพ นายกอง หรือคณะกรรมการ ศอฉ. ไม่จำเป็นต้องรับผิด แต่ผู้ที่สั่งการจะต้องรับผิด

ตอกย้ำด้วยคำยืนยันจากอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ศอฉ.เองว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 70

ชัดเจนว่า “อภิสิทธิ์สุเทพ” ได้กลายเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกพุ่งชนเรียบร้อย

การเป็นเป้าหมายครั้งนี้นอกจากการทำลายคู่แข่งทางการเมืองของพรรคเพื่อ ไทยไม่ให้กลับมามีพลังมาปั่นป่วนรัฐบาลแล้ว อีกด้านหนึ่งยังช่วยปลุกขวัญและกำลังใจมวลชนคนเสื้อแดงให้กลับมาคึกคักพร้อม กับการเคลื่อนไหวรอบต่อไปที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรือไม่

ทว่า เป้าหมายลึกๆ แล้วการลากแกนนำประชาธิปัตย์ให้เข้ามาโดนคดีหนักก็เพื่อหวังบีบให้ต้องยอม จำนนเปลี่ยนท่าทีมาร่วมผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งยังค้างอยู่ในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร สานฝันให้นายใหญ่ได้กลับประเทศ ยังไม่รวมกับความพยายามขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ท่าทีรัฐบาลเตรียมเดิน หน้าลุยลงมติในวาระ 3 ซึ่งทุกอย่างจะเข้ามาประดังกันในช่วงเปิดสมัยประชุมนิติบัญญัติในวันที่ 21 ธ.ค.นี้

ทว่า “อภิสิทธิ์สุเทพ” อ่านเกมออก จึงได้ประกาศชัดก่อนหน้านี้ว่าจะเดินหน้าต่อสู่คดี โดยไม่หวังประโยชน์จากกฎหมายนิรโทษกรรม

เป็นสัญญาณที่ประกาศให้รับรู้ว่าสุดท้ายบรรยากาศการเมืองหนีไม่ พ้นที่ต้องกลับมาตึงเครียดกันอีกครั้ง ทั้งในสภากับการผลักดันกฎหมายร้อนที่ค้างวาระพิจารณาและบรรยากาศร้อนนอกสภา ที่มวลชนแต่ละฝั่งเริ่มออกมาวอร์มรออยู่ข้างสนามแล้ว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ธาริตแจง ไม่ต้องสอบตัวเอง ฐานะ อดีตกก.ศอฉ.

view