สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เบื้องหลังสังหารครู กับ 4 เงื่อนไขไฟใต้

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ปกรณ์ พึ่งเนตร



ผมเดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นับถึงวันนี้ก็ครบ 1 สัปดาห์พอดี สาเหตุสำคัญของการเดินทางอย่างปัจจุบันทันด่วน

ก็คือ “วิกฤติครูใต้” ที่ถูกล่าสังหารไปถึง 5 รายในห้วงเวลาเพียง 19 วัน นับตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนพ.ย. ต่อเนื่องถึงต้นเดือนธ.ค.

หากมองภาพจากนอกพื้นที่และรับฟังข่าวสารจากภาครัฐโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง สาเหตุย่อมหนีไม่พ้นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เลือกใช้วิธีรุนแรงในการบรรลุเป้าหมายของตน ไม่ว่าจะอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนหรือเรื่องอื่นก็ตาม

แต่เมื่อเดินทางลงพื้นที่จริงๆ กลับพบแง่มุมที่แตกต่างออกไป เพราะว่าแต่ละเหตุการณ์ล้วนมีที่มาที่ไป ไม่ใช่จู่ๆ ก็เกิดขึ้น หรือลากปืนไปยิงกัน

ที่สำคัญก็คือ “พื้นที่สื่อ” และ “ความสนใจของภาครัฐ” ค่อนข้างอยู่ในวงจำกัดหรือเกือบจะไม่มีเลยสำหรับเหตุการณ์ที่น่าจะเป็น “มูลเหตุ” ของความรุนแรงต่อเนื่องมา

เช่น ก่อนจะเกิดการล่าสังหารครูไทยพุทธล้วน 5 ราย มีคดีคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่ม นายมาหะมะ มะแอ ครูสอนศาสนาโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิตก่อน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.

ครูสอนศาสนาท่านนี้ จัดว่าเป็น “อุสตาซ” คนสำคัญ สอนอยู่ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ฝ่ายความมั่นคงจะสรุปว่าเป็นเหตุการณ์ในลักษณะสร้างสถานการณ์ความไม่สงบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ในสายตาของชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มองเช่นนั้น

หรือก่อนเหตุการณ์บุกยิงครูเสียชีวิต 2 รายถึงในโรงเรียนบ้านบาโง ต.ปานัน อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 11 ธ.ค. ก็มีเหตุการณ์ที่คาใจชาวบ้าน คือ กรณีคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ กราดยิงร้านน้ำชาที่บ้านบาดามูเวาะห์ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้มีพี่น้องมุสลิมเสียชีวิตถึง 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นผู้เฒ่าอายุ 70 ปี อีกหนึ่งเป็นทารกวัยเพียง 11 เดือน

คนในพื้นที่เชื่อว่าไม่ใช่การกระทำของขบวนการแบ่งแยกดินแดน และยังเชื่อว่าความรุนแรงที่เกิดตามมาเป็นการตอบโต้ล้างแค้นกัน

ที่ผ่านมาภาครัฐละเลยการค้นหาสาเหตุที่เชื่อมโยง หรืออาจเป็นเบื้องหลังของความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งแม้จะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่หากไม่พยายามหาความจริง การแก้ปัญหาย่อมผิดทิศผิดทางต่อไป

ภาพสะท้อนว่าข้อสังเกตเหล่านี้มีน้ำหนักก็คือ ล่าสุด ศอ.บต.ทานกระแสไม่ไหว ต้องตั้ง “คณะกรรมการพิเศษ” ขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์รุนแรงทั้ง 2 กรณีแล้ว

การค้นหาสาเหตุของปัญหา เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขที่ถูกต้อง จะว่าไปก็เป็นดั่ง “หนทางดับทุกข์” ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา แต่คำถามก็คือตลอด 9 ปีไฟใต้ เราได้ค้นหาสาเหตุของปัญหา แล้วขจัดเงื่อนไขที่แท้จริงที่นำมาสู่ปัญหาแล้วหรือยัง

ทุกวันนี้แม้แต่ทหารระดับปฏิบัติในพื้นที่เองก็ยอมรับตรงกันว่า การสั่งให้พวกเขาไปเฝ้าเสาไฟฟ้า รางรถไฟ รปภ.โรงเรียน วัด ครู ฯลฯ เป็นเพียงมาตรการเชิงรับที่ช่วยบรรเทาปัญหาที่ปลายเหตุ หาใช่แนวทางที่จะพลิกสถานการณ์ไปสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืนไม่

ในห้วงที่ “เวทีพูดคุยสันติภาพ” เปิดขึ้นทั่วไปตามนโยบายของ สมช. แทบทุกวงสรุปตรงกันว่า “เงื่อนไข” หรือ “ข้อเรียกร้อง” จากในพื้นที่วันนี้มี 4 เรื่องหลักๆ คือ

1.เรื่องความเป็นธรรม ด้วยการยกเลิกหรือลดการใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กับกฎอัยการศึก
2.เรื่องอัตลักษณ์ ด้วยการยกระดับให้ภาษามลายูเป็นภาษาทำงานและใช้ในการเรียนการสอนหลักสูตรสายสามัญควบคู่กับภาษาไทย

3.เรื่องคดีความ ด้วยการยกเลิก “บัญชีดำ” หรือ “แบล็คลิสต์” ผู้ต้องสงสัยที่ไม่มีหลักฐานดำเนินคดี เพื่อให้คนเหล่านั้นกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ

4.เรื่องการปกครอง ด้วยการพิจารณารูปแบบการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ หรือเขตปกครองพิเศษ

ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องตั้งประเด็นหรือเปิดพื้นที่พูดคุยเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อจัดการปัญหาที่ต้นเหตุ แทนการใช้กำลังทหาร ตำรวจ ค้ำยันสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความสูญเสียของพี่น้องกำลังพลและประชาชนผู้บริสุทธิ์รายวัน!


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เบื้องหลัง สังหารครู เงื่อนไขไฟใต้

view