สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เสวนาปี56 ประชานิยมแก้กันต่อ-ก้าวพ้นขัดแย้ง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เสวนา"โอกาสประเทศไทยปี56"มองนโยบายประชานิยมยังต้องแก้ไขต่อ ขณที่"อภิสิทธิ์"ก้าวให้พ้นความขัดแย้ง อย่าคิดแต่แก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันองค์ความรู้เเห่งเอเชีย มีการจัดเสวนาเรื่อง "โอกาสประเทศไทย 2556"โดยเป็นการเสนอมุมมองในด้านต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมที่จะเกิดขึ้นกับประเทศในปี 2556 ทั้งนี้ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายบุญชัย โชควัฒนา ส.ว.สรรหาและประธานกรรมการสหพัฒนพิบูลจำกัด (มหาชน) นางสาวสุรัสวดี เชื้อชาติ (แหม่ม มาม่าบลูส์) ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาอิสระ นายวรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

นายบุญชัย กล่าวคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจในปี2556 ว่านักลงทุนยังคงมีความอึดอัดที่จะลงทุนในประเทศไทย เพราะยังไม่มีความมั่นใจในบริบทการเมือง การป้องกันอุทกภัย อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่มีสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงมากนัก กำลังซื้อในตลาดยังเหมือนเดิม แม้ตัวเลขในตลาดหุ้นอาจจะเป็นบวก ส่วนในเรื่องนโยบายประชานิยมของรัฐบาล อาทิ การจำนำข้าวนั้น มองว่านักลงทุนมองออกว่าคือ การบิดเบือนราคาตลาด และจะส่งผลอย่างไรต่อประเทศในระยะยาว และสิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับ คือการชี้แจงข้อมูล เพราะการให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจ ตัวอย่างจากการให้ตัวเลขการส่งออกที่รัฐบาลชุดนี้เคยระบุถึงร้อยละ15 แต่ภายหลังได้ปรับลดโดยการอ้างว่าเป็นการโกหกสีขาว ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศ

นายบุญชัย กล่าวอีกว่า ยังต้องจับตาถึงผลพวงด้านการขึ้นค่าแรง 300 บาทที่จะส่งผลกระทบมาก ทำให้ธุรกิจหลายอย่างก็ได้รับผลกระทบต่อต้นทุนสูงขึ้นทำให้การแข่งขันในการส่งออกทำได้ยากขึ้น พร้อมกันนี้เมื่อมีการใกล้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) แล้ว ประเทศต้องระวังเรื่องการขาดแรงงาน และในภาคการผลิตเองต้องมีการพัฒนาด้านการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ที่เป็นเรื่องต้องทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศพม่าซึ่งในภูมิภาคกำลังจับตานั้น มองว่าในปี2556พม่ายังคงไม่มีศักยภาพสูงจนเป็นคู่แข่งขันกับไทยมาก เพราะดูจากสภาพแวดล้อมในพม่ายังไม่มีความพร้อมที่จะไปตั้งโรงงานฐานการผลิต จะมีแต่ค่าแรงงานที่ยังราคาต่ำ

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวในมุมมองด้านการเมืองว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งเยอะ โดยเป็นจุดที่ทั่วโลกยอมรับหลายอย่างๆ ในปี 2556 คงจะจมกับปัญหาการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะยังมีสิ่งที่ดีๆ อีกมากมายและสังคมยังเดินไปข้างหน้าได้ ยิ่งเมื่อใกล้การเปิดเออีซี ถือว่าโอกาสได้เดินเข้ามา ซึ่งไทยต้องฉวยโอกาสการอยู่ในพิกัดที่ได้เปรียบ อยู่ใกล้ประเทศสมาชิกใหม่และใช้โอกาสนี้เป็นศูนย์กลาง โดยรัฐบาลเองต้องส่งเสริมและช่วยกระตุ้น ทั้งมิติเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม เพราะจะหวังพึ่งทรัพยากรและค่าแรงงานที่ถูกอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนทางการเมืองนั้น รัฐบาลควรใช้เสถียรภาพที่มีอยู่ เดินหน้าผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าด้วยการเสริมโอกาสให้ประเทศก้าวให้พ้นความขัดแย้งทางการเมือง และดึงพลังคนไทยในช่วงที่เกิดน้ำท่วมมาสร้างประโยชน์ อย่าคิดแต่เรื่องที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง เช่น แก้รัฐธรรมนูญ การนิรโทษกรรม ส่วนนโยบายรัฐบาลที่สัญญาไว้ เมื่อมีปัญหาก็ต้องทบทวนนโยบายว่า จะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร เช่นจำนำข้าว ที่จะทำอย่างไรให้ลดส่วนต่างที่สูญเสียลง รวมถึงค่าแรง 300 บาท ก็ต้องมีมาตรการเยียวยาชดเชยในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน เพื่อก้าวข้ามปัญหาเดินไปข้างหน้า

ด้านนายวรากรณ์ กล่าวว่า ในปี2556 ขอตั้งขอสังเกตหลายประเด็นคือ 1.เรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาลทั้งงบการลงทุน การป้องกันภัยธรรมชาติ โดยจุดนี้ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง มีประสิทธิภาพ ระมัดระวังเรื่องการคอร์รัปชั่น รวมไปถึงเรื่องการเก็บภาษี-อากร ที่จะต้องเป็นไปตามเป้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนี้ต่อไป

2.เรื่องการเมือง ที่ต้องระมัดระวังปมที่เป็นความขัดแย้ง เช่น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าขัดแย้งมากก็จะส่งผลถึงเศรษฐกิจแน่นอน

3.เรื่องภาคท่องเที่ยว ที่ผ่านมาเปรียบเสมือนจุดแข็งของประเทศไทย เพราะแม้จะเกิดวิกฤติ แต่ก็กลับมาอย่างเร็ว รัฐบาลจึงต้องใช้จุดแข็งในส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมหนุนเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ

4.เรื่องคุณภาพชีวิตของมนุษย์ ที่ต้องมีการแก้ไขในเรื่องการพัฒนาคุณภาพของประชาชนให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะการศึกษาที่ต้องให้อ่านออกเขียนได้ คิดเป็น ทั้งนี้ในตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น จะไปหวังพึ่งพึ่งเฉพาะการลงทุนของรัฐไม่ได้ แต่เอกชนต้องขับเคลื่อนได้เอง โดยต้องมีความสามารถในการผลิตได้เอง ไม่หวังพึ่งพิงโครงการใหญ่ที่ลงทุนโดยรัฐอย่างเดียว

ส่วนนางสาวสุรัสวดี กล่าวว่า โอกาสของประเทศไทยในปี 2556 ในด้านสังคม ต้องมองถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม รัฐบาลต้องหนุนเสริมในด้านชุมชน และช่วยผลักดันให้ชุมชนพัฒนาตามวิธีทางที่มีความสามารถ อย่าปฏิเสธศักยภาพชุมชนหรือคิดว่าคนรากหญ้าต้องการเพียงเงินอย่างเดียว

นอกจากนี้ประเด็น ที่ทุกคนเห็นร่วมกันคือการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะหากสังคมยังมีค่านิยม"โกงได้ถ้าตัวเองได้ประโยชน์"อยู่จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในทุกๆด้าน การพัฒนาจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย สมกับศักยภาพประเทศ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เสวนาปี56 ประชานิยม แก้กันต่อ ก้าวพ้นขัดแย้ง

view