สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปากว่าต้านคอร์รัปชัน-ตาขยิบสั่งสอบสุภา

ปากว่าต้านคอร์รัปชัน-ตาขยิบสั่งสอบ "สุภา"

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




หลังจากที่ ครม.ยิ่งลักษณ์ 5 เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ก็นำ ครม.ใหม่ประกาศวาระเป็นรัฐบาลโปร่งใส ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำถึงภาพของรัฐบาลที่มีนโยบายต่อต้านการทุจริตอย่างชัดเจน โดยหวังลบภาพความแคลงใจของสาธารณชนในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ว่า อาจจะมีการคอร์รัปชัน โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ด ที่สร้างความระส่ำระสายให้แก่รัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างหนัก ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

แต่แล้วผ่านมาเพียงไม่กี่วัน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็เก็บอาการไม่อยู่ และแสดงความไม่พอใจ หลังจากมีข่าวพาดหัวว่า นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2554/2555 และ ปี 2555/2556 ไปให้ข้อมูลในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกทุกขั้นตอนมีความเสี่ยงและมีโอกาสเกิดทุจริตทุกขั้นตอน

ต่อมา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง ก็สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการไปให้ข้อมูลดังกล่าวของ นางสาวสุภา รวมถึงการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล แม้ นายกิตติรัตน์ จะบอกว่า เป็นแค่การสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ "สุภา" สบายใจ ว่า ข้อมูลที่ไปชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ นั้น มีการระบุว่าโครงการรับจำนำมีการทุจริต จริงหรือไม่

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้จะไม่ใช่การตั้งกรรมการสอบวินัย "สุภา" แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้กำลังกระทำ ว่า สวนทางกับวาระที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประกาศชูภาพของการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน เพราะในขณะที่ นายกฯ พยายามบอกกับสาธารณชน ว่า รัฐบาลชุดนี้มีความโปร่งใสและต่อต้านคอร์รัปชัน แต่กลับมีการสอบข้อเท็จจริงข้าราชการ ที่ได้ชื่อว่า "ซื่อสัตย์สุจริต" ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการกระทำที่ส่อไปว่าจะมีการทุจริตในโครงการของรัฐบาล ทำให้กระแสสังคมเริ่มสงสัยกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ว่า จะเข้าข่ายตามสุภาษิตโบราณที่ว่า "ปากว่าตาขยิบ" หรือไม่

ที่สำคัญ...ฉับพลันที่ข่าวการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ หลายๆ ฝ่าย ต่างพากันปกป้อง "สุภา" อาทิ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ นำโดย ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร และ ดร.อัมมาร สยามวาลา ถึงขนาดเขียนบทเรียกร้องให้รัฐบาลหา "ใบเสร็จ" การทุจริต มากกว่าจะเอาจาก "สุภา" พร้อมชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการน้ำดีของ "สุภา

ขณะเดียวกัน ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และ อุตสาหกรรม บุญชัย โชควัฒนา ก็ออกแถลงการณ์ปกป้องการทำหน้าที่ของ "สุภา" ในการไปชี้แจงข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ว่า ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ "สุภา" บอกเล่านั้น เป็นการทำหน้าที่ของข้าราชการที่ดีพึงจะกระทำ และการที่ นายกิตติรัตน์ อ้างว่าเป็นการสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ก็น่าจะเรียก "สุภา" ไปสอบถามแบบตัวต่อตัว มากกว่าการตั้งกรรมการสอบ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ อาจจะเข้าข่ายใช้อำนาจ ข่มขู่ คุกคาม ทำลายขวัญกำลังใจข้าราชการ

ไม่ว่า บทสรุปของผลสอบข้อเท็จจริง จะออกมาอย่างไร สิ่งที่สังคมคงต้องจับตามองดูอยู่ที่ว่า "รัฐบาลจะทำอะไรกับข้าราชการหญิง ที่ได้ชื่อว่า "ซื่อสัตย์สุจริต" คนหนึ่งก็ว่าได้ ไม่ให้ต้องกลายเป็น แพะรับบาป เพราะในระบบราชการไทยนับวันจะยิ่งหาข้าราชการแบบนี้ได้ยากมากขึ้นทุกทีก็ตาม


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปากว่า ต้านคอร์รัปชัน ตาขยิบ สั่งสอบสุภา

view