จากประชาชาติธุรกิจ

กว่าจะพลิกวิกฤต ขันนอตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เวลาก็ล่วงเลยมาถึงการทำนาปรังรอบที่ 2 หรือเกือบ 2 ปีเต็ม นับจากเดินหน้านโยบายประชานิยมรับจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ด ตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 2554/2555 แต่ก็ยังดีกว่าการยืนกระต่ายขาเดียวไม่พบการคอร์รัปชั่นในโครงการรับจำนำ ข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแม่งานยืนยันมาตลอด

ขณะเดียวกัน การยอมรับผลขาดทุน 1.36 แสนล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของตัวเลขขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท ที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมี น.ส.

สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน สรุปสถานะทางบัญชีจนสะเทือนสถานะรัฐบาล ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนตัว รมต.พาณิชย์ จากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เพื่อลดกระแสกดดันที่รุมเร้ารอบด้าน ก็ยังดีกว่ายืนยันเพียงแค่ตัวเลขขาดทุนไม่เกินแสนล้านบาทเหมือนช่วงก่อนหน้า นี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สาธารณชนคาดหวังหลัง ครม.ยิ่งลักษณ์ 5 รับไม้ต่อจาก ครม.ยิ่งลักษณ์ 4 คือการนำมาซึ่งทางเลือกที่ดีกว่าในการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว ทั้งลดช่องโหว่ อุดรอยรั่วไหลทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เริ่มจากขั้นตอนการลงทะเบียนเกษตรกร

ผู้ปลูกข้าว การรับจำนำ การแปรรูปข้าว การเก็บข้าวเปลือกและข้าวสารไว้ในสต๊อก จนถึงขั้นตอนการระบายข้าวออกสู่ตลาดทั้งภายในประเทศและส่งออก เพื่อให้ได้เม็ดเงินมาหมุนเวียนรับจำนำต่อ และชำระหนี้คืนให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงการคลัง แหล่งเงินหลักที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว

ข่าว คราวการทุจริตของกลุ่มโรงสี โกดัง ท่าข้าว ฯลฯ ที่กำลังปรากฏทางสื่อในเวลานี้ นอกจากชี้ให้เห็นถึงการเริ่มต้นป้องและปรามทุจริตของหลายหน่วยงานทั้งในส่วน กลางและในระดับจังหวัดแล้ว อีกด้านหนึ่งก็ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ฝูงเหลือบโครงการรับจำนำข้าวมีอยู่จริง

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากการตรวจสอบของศูนย์ปฏิบัติการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการ ทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณองค์กรส่วนท้องถิ่น (ศตข.) ที่ระบุว่า จากการตรวจสอบปริมาณข้าวในสต๊อกของรัฐบาล พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น 27 จุด ทั้งข้าวสารข้าวเปลือกหาย ข้าวเปลือกเกินปริมาณในบัญชี แต่ข้าวสารหาย มีสิ่งปลอมปนหรือข้าวเน่าเสีย ฯลฯ เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของพฤติการณ์เบียดบังผลประโยชน์โดยมิชอบ ยังมีรอยรั่วไหลอีกมากที่รอแก้ไข

แม้จะเข้าทำนองวัวหายล้อมคอก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่งลุกขึ้นมาสะสางปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งที่การรับจำนำข้าวผ่านมาถึงฤดูการผลิตรอบที่ 3 แล้ว แต่คงไม่สายถ้าหากจะตรวจสอบย้อนหลัง ล้างบาง

กลุ่มก๊วนที่จ้องฉ้อฉลโครงการรับจำนำข้าว ฉกฉวยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเองและพวกพ้อง ไม่ดำเนินการในลักษณะผักชีโรยหน้า

หาก สามารถอุดรอยรั่วไหล ทำให้การบริหารจัดการงบประมาณรับจำนำข้าวปีละหลายแสนล้านบาทมีประสิทธิภาพ มากขึ้น และเป็นไปด้วยความโปร่งใส นอกจากผลประโยชน์จะตกถึงมือชาวนามากขึ้นแล้ว ภาพลักษณ์รัฐบาลที่ถูกมองลบก็จะเป็นบวกมากขึ้นด้วย

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน