สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

Japan Connection (1)

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ เรื่องราวกับความคิด

โดย วิรัตน์ แสงทองคำ viratts.worldpress.com


ธนาคาร ญี่ปุ่นทุ่มทุนเข้าสู่ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยอย่างจริงจัง ไม่เพียงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นในแวดวงธนาคาร หากมีความหมายว่าด้วย "มหากาพย์ใหม่" ความสัมพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นกับสังคมไทย


"ดีลใหญ่ล่า สุดที่กลุ่มทุนญี่ปุ่นรุกคืบเข้ามาในธุรกิจการเงินของไทย คือ "มิตซูบิชิ ไฟแนนเชียล ยูเอฟเจ กรุ๊ป" (MUFG) แบงก์อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ที่ประกาศพร้อมควักเงินร่วม 1.77 แสนล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้นใหญ่ 75% ในธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ซึ่งจะกลายเป็นแบงก์จากญี่ปุ่นรายแรกที่คว้าดีลใหญ่ในกลุ่มธนาคารไทย และแผนหลังจากนั้นจะนำ "ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ

สาขากรุงเทพฯ" ซึ่งมีสินทรัพย์อีกกว่า 5 แสนล้านบาท เข้ามาควบรวมเป็นแบงก์เดียวกันด้วยมูลค่าสินทรัพย์กว่า 1.5 ล้านล้านบาท และเงินสินเชื่อรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท"

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (11 กรกฎาคม 2556) เสนอข่าวความเคลื่อนไหวธุรกิจญี่ปุ่นไว้อย่างน่าสนใจ สำหรับแวดวงธุรกิจธนาคาร ความเคลื่อนไหวของธนาคารญี่ปุ่นน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ (ในเครือ Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. หรือ "MUFG") มีความสัมพันธ์กับสังคมไทยมานานตั้งแต่ปี 2479 ในนาม Yokohama Specie Bank ฐานะเพียงสำนักงานตัวแทน จนถึงปี 2505 จึงกลายเป็นสาขาธนาคาร (ตอนนั้นชื่อ Bank of Tokyo) แล้วก็คงฐานะเช่นนั้นไว้นานถึง 5 ทศวรรษ


แม้ว่าธนาคารญี่ปุ่นจะมีฐานะเป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศในประเทศถึง 3 แห่ง (The Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Sumitomo Mitsui Banking Corporation และ Mizuho Bank) ทว่าในช่วงเวลาการเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งใหญ่ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยหลัง วิกฤตการณ์ปี 2540 ด้วยความพยายามทลายกำแพงอันมั่นคงของธนาคารพาณิชย์ไทย จากการเข้ามาของธนาคารหลายชาติ ไม่ว่าธนาคารจากอังกฤษ สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ รวมไปถึงจีน ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่ธนาคารญี่ปุ่นซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจมากมายในประเทศไทยกลับไม่มีความ เคลื่อนไหวใด ๆ

ไม่สามารถจะตีความเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากเครือข่ายธนาคารญี่ปุ่นที่วางรากฐานเป็นเพียงสาขาธนาคาร ไม่สามารถรองรับและสนับสนุนความเคลื่อนไหวอันคึกคักอย่างต่อเนื่อง หลายระลอก ของธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทยได้

ความเคลื่อนไหวของธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศในช่วงที่ผ่านมา ถือได้ว่าได้พัฒนามาถึง 3 ยุคแล้วก็ว่าได้

จาก Sogo Shosha สู่การร่วมทุนกับหน้าใหม่ญี่ปุ่นเข้ามาเมืองไทยในช่วงยุคต่อเนื่องจากสงคราม เกาหลีสู่สงครามเวียดนาม ด้านหนึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เครือข่ายบริษัทใหญ่ที่เรียกว่า Trading Company หรือ Sogo Shosha ขยายตัว แต่อีกด้านหนึ่ง ความขัดแย้งจีนทำให้ญี่ปุ่นต้องเข้าสู่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะ Marubeni เข้ามาเปิดสำนักงานในเมืองไทยในปี 2500 ตามมาด้วย Mitsui Mitsubishi, Nissho-Iwai Nomura Trading ในปี 2502 และ Sumitomo ในปี 2503 เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งแสวงหาผู้ร่วมทุน นั่นคือจุดเริ่มต้นของผู้ประกอบการไทยรายใหม่ ๆ โดยเฉพาะกิจการอุตสาหกรรมพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งทอ น้ำตาล และเคมีภัณฑ์ ตั้งแต่การเริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ของ

สุกรี โพธิรัตนังกูร ในอุตสาหกรรมสิ่งทอในปี 2508-2512 แต่ตำนานนั้นจบลงในอีก 3 ทศวรรษต่อมา เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวพ้นวงจรอุตสาหกรรมตะวันตกดิน หรือกลุ่มตระกูลศรีเฟื่องฟุ้ง ซึ่งยังคงความสัมพันธ์ไว้อย่างเงียบ ๆ ในอุตสาหกรรมกระจกและผลิตภัณฑ์เคมี ซึ่งยังสามารถปรับตัวได้มาตั้งแต่ปี 2509

นอกจากนั้น มีการบุกเบิกสินค้าที่มีลักษณะคอนซูเมอร์มากขึ้น ตั้งแต่รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปสู่สินค้าไลฟ์สไตล์สยามกลการ ก่อตั้งขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่กองทัพญี่ปุ่นเข้าควบคุมประเทศไทยในช่วงจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ถาวร พรประภา เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจค้าเครื่องเหล็ก มีโอกาสได้รู้จักกับผู้บัญชาการกองทัพญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญชักนำให้ได้เป็นผู้แทนขายรถยนต์ Nissan ในประเทศไทยสยามกลการเป็นผู้แทนขายรถยนต์ Nissan นอกประเทศญี่ปุ่นรายแรกของโลก ประวัติการบุกเบิกด้วยความยากลำบากของ ถาวร พรประภา เป็นสิ่งที่ผู้บริหาร Nissan แห่งญี่ปุ่นหลายเจเนอเรชั่นเกรงอกเกรงใจ

 

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาในประเทศไทยมากขึ้น การขายรถยนต์ญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก สยามกลการประสบการขาดทุนเกือบ ๆ 10 ปี จน Nissan แห่งญี่ปุ่นต้องเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการร่วมทุนตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ครั้งแรกในเมืองไทยในปี 2505 การร่วมทุนครั้งนั้นดำเนินไปสักระยะก็ถอนตัวออกไป จากงานเขียนของผมเมื่อกันยายน 2540 สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่น่าสนใจว่าด้วยการเริ่มต้นอุตสาหกรรมรถยนต์ของ ญี่ปุ่น โดยไม่คาดคิดว่าในที่สุด Nissan ก็เข้ามาครอบงำกิจการทั้งหมด

ผลิตภัณฑ์ เครื่องไฟฟ้าของญี่ปุ่นเข้ายึดครองตลาดไทยอย่างรวดเร็ว ด้วยการแสวงหาตัวแทนจำหน่ายและเริ่มผลิต อาทิ Panasonic ก่อตั้งกิจการขึ้นในประเทศไทยปี 2504 ภายใต้ชื่อเดิมว่า บริษัท เนชั่นแนล ไทย ถือเป็นโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศ Toshiba ร่วมทุนตั้งโรงงานกับ กร-นิรมล สุริยสัตย์ ในราวปี 2510 ขณะที่กลุ่มสหพัฒน์บุกเบิกจากสินค้าคอนซูเมอร์ร่วมทุนกับ Lion ผลิตผงซักฟอกในปี 2510 และสินค้าไลฟ์สไตล์ด้วยการร่วมทุนกับ Wacoal ผลิตชุดชั้นในสตรีในปี 2513

สู่เครือข่ายอันมั่นคง

ความ สำเร็จจากโมเดลการลงทุนในช่วงแรก ๆ ที่มีลักษณะกระจัดกระจาย ในอีกราว 3 ทศวรรษต่อมา มีการผนึกกำลังและโฟกัสมากขึ้นไปสู่กระบวนการหลอมรวม ควบคุมการบริหารจัดการมากขึ้น ทั้งนี้มาจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเองในเรื่องค่าเงินเยนแข็งค่ามาก เกินไป จำเป็นต้องย้ายการลงทุนที่มีเทคโนโลยีสูงมากขึ้นสู่ต่างประเทศ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยเผชิญวิกฤตการณ์การเงินครั้งแรก ๆ ในยุคสมหมาย ฮุนตระกูล รัฐมนตรีคลังที่เป็น Japan Connection คนสำคัญ

กิจการร่วม ทุนบางรายมีปัญหา ธุรกิจญี่ปุ่นจึงถือโอกาสเข้าครอบงำการบริหารกิจการ อาทิ Sony ในปี 2531 การลงทุนมีขนาดใหญ่มากขึ้น มีความพยายามแสวงหาพันธมิตรรายใหญ่และทรงอิทธิพลมากขึ้น กรณีร่วมทุนอย่างขนานใหญ่กับปูนซิเมนต์ไทย

อุตสาหกรรมยานยนต์

แม้ ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นจะมาเมืองไทยนานแล้ว Nissan และ Toyota ในปี 2505 และ Honda ในปี 2507 แต่กว่าจะลงตัวและเข้าสู่ภาวการณ์ควบคุมตลาดก็ใช้เวลานานพอสมควร

"ผู้ กำหนดนโยบายให้ความสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ ตลอดสองทศวรรษมีความพยายามให้ธุรกิจไทยมีบทบาทในอุตสาหกรรมที่มีอนาคตมากที่ สุดเท่าที่จะเป็นได้ มาจากฐานความเชื่อในเรื่องการถือหุ้นและถ่ายทอดเทคโนโลยี ตั้งแต่การกำหนดชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ จนถึงความพยายามให้มีการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลเอง (2525-2530) จากนั้นเข้าสู่ยุคผ่อนคลายกฎเกณฑ์ มองระดับภูมิภาคมากขึ้น (2533-2540) ทั้งสองช่วงถือเป็นยุคการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการภาย ในประเทศเป็นหลัก สุดท้ายจำเป็นต้องเปิดเสรีในฐานะฐานการผลิตของธุรกิจระดับโลก (ตั้งแต่ปี 2543) ในความพยายามทำลายกำแพงระบบเศรษฐกิจเดิมให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น "พัฒนาการของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายใต้อิทธิพลญี่ปุ่น (อ้างจาก "เรื่องอิทธิพลญี่ปุ่น" ของผมเอง มติชนสุดสัปดาห์ 21 ตุลาคม 2554) และในบทความชิ้นนั้นเองให้ภาพ Supply Chain อันยิ่งใหญ่ไว้ด้วย

ภาพ สำคัญภาพหนึ่งเกิดขึ้น "ในเขตที่ราบลุ่มเจ้าพระยา (เฉพาะนิคมอุตสาหกรรมที่เผชิญปัญหาน้ำท่วมทั้งหมด) คือ การปรากฏขึ้นของโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของธุรกิจญี่ปุ่น มีจำนวน 300 กว่าโรง (จากข้อมูลขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ตามรายงานข่าวสำนักงานข่าวเอพี)"

โครงสร้างธุรกิจญี่ปุ่นปัจจุบันกำลังพลิกโฉมหน้าไปจากพัฒนาการ 5 ทศวรรษข้างต้นอย่างเหลือเชื่อ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : Japan Connection (1)

view