สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สาวใหญ่อดีตเสื้อแดงร้องกองปราบถูกขู่ฆ่าหลังแฉแกนนำ นปช.หลอกใช้

สาวใหญ่อดีตเสื้อแดงร้องกองปราบถูกขู่ฆ่าหลังแฉแกนนำ นปช.หลอกใช้

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

สาวใหญ่อดีตเสื้อแดง จำเลยคดีเผาศาลากลางขอนแก่น ร้องกองปราบฯ ถูกขู่ฆ่าทางเฟซบุ๊ก-ข้อความมือถือ หลังขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แฉแกนนำ นปช.หลอกใช้ แล้วปล่อยติดคุกฟรี เผยแยกทางสามีการ์ดเสื้อแดงแล้ว เหตุทะเลาะกันเรื่องแกนนำไม่เหลียวแล แฉซ้ำตำรวจยกโขยงสอบบ้านญาติที่กาฬสินธุ์ หลังขึ้นเวที ปชป.
       
       เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางปาริชาติ บุญสร้อย หรือ ภูนกยูง อายุ 40 ปี จำเลยในคดีเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และธนาคารกรุงเทพ สาขาขอนแก่น เมื่อปี 2553 พร้อมด้วยการ์ดกลุ่มเวทีราชดำเนิน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลังถูกกลุ่มคนเสื้อแดงโพสต์ข้อความข่มขู่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนเอง โดยเชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะขึ้นเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ซึ่งได้กล่าวโจมตีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
       
       นางปาริชาติ กล่าวว่า หลังจากตนตัดสินใจขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อบอกกล่าวกับพี่น้องคนเสื้อแดง ว่าถูกแกนนำหลอกใช้โดยมีการว่าจ้างให้ไปเผาธนาคารดังกล่าว ทำให้ตนต้องตกเป็นจำเลย ทั้งคดีเผาธนาคาร รวมทั้งเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งคดีนี้ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก 1 ปี ขณะนี้ตนได้ต่อสู้ในชั้นฎีกา และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาตลอด 3 ปี ภายหลังเกิดเหตุและถูกดำเนินคดีนั้น ตนไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากแกนนำ นปช.แต่อย่างใด
       
       นางปาริชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สามีตน คือ นายพูนทรัพย์ บุญสร้อย ได้ขึ้นเวทีภาคเครือข่ายพลังประชาชน ที่อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เขตบางเขน กล่าวหาว่าตนสติไม่สมประกอบนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ตนกับสามีมาพบกันเมื่อครั้งที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ปี 2553 จากนั้นก็ตกลงปลงใจแต่งงานอยู่กินกัน แต่ภายหลังเมื่อต้องโทษในคดีแล้วตนรู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจาก แกนนำ นปช.ที่เคยรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ นอกจากนี้แกนนำบางคนต่างได้ดิบได้ดีเป็นมีตำแหน่งใหญโตในรัฐบาลชุดนี้ เมื่อตนกล่าวตัดพ้อกับสามีที่เคยเป็นการ์ด นปช.ก็ทำให้เกิดระหองระแหงกัน
       
       นางปาริชาติ กล่าวอีกว่า เมื่อต่อสู้คดีแล้วได้รับการประกันตัวออกมา ก็ไม่สามารถหางานทำได้ เพราะมีประวัติติดตัว ไม่มีบริษัท ห้างร้านรับเข้าทำงาน ต่อมาก็เริ่มทะเลาะกับสามี ก่อนแยกกันอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน ตนยืนยันได้ว่าที่พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง เพราะตนต้องแบกรับความอัดอั้นในเรื่องนี้มากว่า 3 ปีแล้ว ตนเคยไปสอบถามเพื่อนบ้านที่ไปร่วมชุมนุมและต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีวาง เพลิงทำลายทรัพย์สิน 24 คน ต่างก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ มีเพียงช่วงแรกที่ถูกดำเนินคดี มีการจ่ายเงินให้คนละ 30,000 บาท ขณะที่คนเสื้อแดงในอีกหลายจังหวัดภาคอีสาน เช่น ที่ จ.อุดรธานี กลับได้เงินคนละ 1.5-1.7 ล้านบาท
       
       น.ส.ปาริชาติ กล่าวว่า เหตุที่ตนต้องออกมาเพราะเริ่มรู้สึกไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตภายหลังออก มาแฉเรื่องนี้ โดยข้อความข่มขู่แสดงความอาฆาตตนอย่างมาก เช่น “มึงหักหลังพวกกู อย่าให้เจอที่ไหนนะกูจะฆ่าให้ตาย” และอีกหลายข้อความที่ตนเห็นจากโทรศัพท์มือถือเมื่อลงจากเวทีปราศรัย
       
       “หลังจากที่ฉันขึ้นปราศรัยที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว วันรุ่งขึ้นก็ทราบว่าบ้านญาติที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีตำรวจมากันเต็มคันรถตู้ เข้ามาสอบถามหาข้อมูลของฉัน แต่พี่สาวก็โทรศัพท์มาบอกว่า ตำรวจเข้ามาในลักษณะไม่เหมือนจะเข้ามาหาข้อมูล เหมือนไม่ได้มาแบบมีเจตนาดี ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ เกรงว่าญาติพี่น้องและคนรอบข้างจะเดือดร้อนไปด้วย” นางปาริชาติ กล่าว
       
       อดีตผู้ร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อยากฝากไปยังคนเสื้อแดง ว่าอย่าไปร่วมกับแกนนำในการชุมนุมอีกเลย เพราะหากเป็นอะไรขึ้นมาแล้วก็คงไม่คุ้มกับชีวิตเราที่ต้องเอาไปเสี่ยง และไม่มีใครมาดูแล ก่อนหน้านี้ตนเคยไปร้องเรียนคณะกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และอีกหลายหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ สำหรับกรณีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นั้น ใจจริงตนก็อยากได้ เพราะจะได้ไม่ต้องรับโทษ แต่เมื่อมีการเสนอร่างแบบเหมาเข่ง เช่นนี้ตนก็รับไม่ได้ และถึงวันนี้ก็ต้องทำใจว่าคงจะต้องติดคุก
       
       ด้าน พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและให้สิบเวรลงบันทึกประจำวันไว้ อย่างไรก็ดี ทางผู้ร้องไม่ได้มีความประสงค์จะขอกำลังตำรวจคุ้มครอง จึงไม่ได้ดำเนินการในส่วนนี้แต่อย่างใด


โฆษกม็อบราชดำเนิน แฉมีคนจ้างสมุนแดงป่วนการชุมนุม จี้ “ปู” ปรามลิ่วล้อเลิกใส่ร้าย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โฆษกกลุ่มผู้ชุมนุมราชดำเนิน เผยจ้างสมุนแดงป่วนการชุมนุม เรียกร้อง “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ปรามลิ่วล้อใส่ร้ายม็อบ เชื่อ 312 ส.ส.-ส.ว.ทาสประกาศไม่รับคำวินิจฉัยศาล รธน. เพิ่มคนร่วมม็อบเพิ่ม
       
       นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แถลงว่า มีรายงานจากกการ์ดรักษาความปลอดภัยการชุมนุมว่า เวลาประมาณ 10.30 น. มีชายคนหนึ่งต่อว่าผู้ร่วมชุมนุม และพยายามจะเข้าไปทำร้าย การ์ดและผู้ชุมนุม จึงได้เข้าห้ามปรามและจับตัวมาสอบสวนในเบื้องต้น ได้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวชื่อว่า วัชรินทร์ ซื่อตรง อายุ 35 ปี โดยเจ้าตัวได้สารภาพว่าเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยได้รับการว่าจ้างวันละ 200 บาท จากนายอภิวัฒน์ รุ่งโรจน์ เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมและก่อความวุ่นวายในการชุมนุม
       
       ทั้งนี้ เบื้องต้นทางการ์ดรักษาความปลอดภัยได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุไปส่งที่ สน.สำราญราษฎร์แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวัน สอบปากคำ และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป นอกจากการก่อความวุ่นวายในพื้นที่ชุมนุมแล้ว บรรดาลิ่วล้อรัฐบาลยังคงมีการใส่ร้าย ยั่วยุ ท้าทาย โดยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กลับไม่ห้ามปรามการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด
       
       “มีความพยายามประทุษร้ายแกนนำ และก่อเหตุในพื้นที่ชุมนุมมาโดยตลอด ทั้งการวางตะปูเรือใบ การจ้างคนมาก่อกวนการชุมนุม รวมถึงกระแสข่าวสไนเปอร์ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่การปล่อยข่าวเพื่อสร้างความขัดแย้งอย่างที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติระบุ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเราพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ร่วมชุมนุมอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความปลอดภัย แต่ขอให้แต่งชุดเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน”
       
       นายเอกนัฏกล่าวว่า วันนี้ยังมีการเปิดลงชื่อถอดถอน ส.ส.310 คนที่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นวันสุดท้าย โดยจะมีการปิดรับการลงชื่อถอดถอนในเวลา 22.00 น. ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้รายชื่อทั้งหมดมีมากกว่า 1 แสนคนแล้ว และคาดว่าในช่วงเช้าของวันที่ 20 พ.ย.นี้ แกนนำการชุมนุมจะนำรายชื่อทั้งหมดยื่นต่อประธานวุฒิสภาได้
       
       ส่วนการที่ 312 ส.ส.-ส.ว.ที่แสดงท่าทีไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.นั้น ถือเป็นการไม่ยอมรับอำนาจตุลาการ ซึ่งเป็นอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ เป็นการใช้อำนาจเผด็จการภายใต้ระบอบทักษิณ ซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มีคนมาร่วมชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน เพิ่มขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้


ระทึก-แขวนบึ้มหน้าเต็นท์ลงชื่อถอดถอนสส

จาก โพสต์ทูเดย์

มือมืดนำระเบิดแขวนหน้าเต็นท์ลงชื่อถอดถอน310 สส.ที่ราชบุรี ตำรวจคาดเพื่อข่มขู่

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.พ.ต.อ.อิทธิพล  ชลายนเดชะ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งพบระเบิดที่หน้าป้ายคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเชิญชวนให้ประชาชนมาลงชื่อเพื่อถอดถอน 310 สส. ที่หน้ามัสยิดถ์บ้านโป่ง  เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง

ที่เกิดเหตุเป็นระเบิดสังหารชนิดแบบขว้าง สลักยังไม่ได้มีการถอดออก เจ้าหน้าที่ต้องนำยางรถยนต์มาครอบไว้เพื่อความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด(EOD)ของตำรวจภูธรภาค 7  มาทำการเก็บกู้ไว้เก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย

นายองอาจ ตั้งอร่ามรส ผู้พบระเบิดคนแรกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุยืนดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับผู้ที่มาร่วมลงชื่อถอดถอน 310 สส. ที่หน้าเต็นท์ที่มีการแขวนป้ายไว้ โดยนำขวดน้ำพลาสติกมาผูกไว้กับป้ายเพื่อไม่ให้ป้ายนั้นปลิวเวลาโดนลม เมื่อมีผู้หญิงไปโดนถูกขวดน้ำที่แขวนไว้ จนขวดน้ำนั้นหมุนทำให้เห็นลูกระเบิดที่แขวนไว้กับขวดน้ำ จึงไปหยิบมาดูจึงพบว่าเป็นระเบิดจริง

ด้านพ.ต.อ.อิทธิพล  ชลายนเดชะ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี  กล่าวว่า คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นการข่มขู่ผู้ที่มาลงชื่อให้เกิดความกลัว เพราะวันนี้มีประชาชนมาลงชื่อกันจำนวนมากตลอดทั้งวันทาง ซึ่งจะได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณใกล้ๆจุดที่เกิดเหตุ และนำเอาลูกระเบิดที่เก็บกู้  ไปทำการตรวจสอบลายนิ้วแฝง เพื่อสืบสวนติดตามตัวคนร้ายต่อไป


สกอ-แจงไม่เคยห้ามนักศึกษาชุมนุมการเมือง

จาก โพสต์ทูเดย์

สกอ.ยืนยันไม่เคยห้ามนักศึกษาเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวการร้องเรียนจากนักศึกษาหลายสถาบันในพื้นที่ว่าถูกคุกคามสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก โดยมีความพยายามจากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้โทรไปบอกนักศึกษาที่จะเคลื่อนไหวร่วมการชุมนุมในขณะนี้ให้ระมัดระวังหากต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลอาจจะถูกระงับการเสนอชื่อเข้ารับปริญญาบัตรนั้น ความเป็นจริงแล้วถ้านักศึกษาเรียนครบตามหลักสูตร มหาวิทยาลัยก็ต้องเสนอสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้พิจารณาอนุมัติปริญญา เนื่องจากอำนาจอนุมัติปริญญาเป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัย

"สกอ. ไม่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติหรือเสนอชื่อเข้ารับปริญญาบัตรของบัณฑิต  และ สกอ. ไม่เคยมีประกาศหรือคำสั่ง หรือการห้ามนักศึกษา บุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา เข้าร่วมชุมนุมใดๆ ก็ตาม เพราะเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล"นายทศพรกล่าว


"ไอ้ตู่" ดักคอศาลตัดสินเอาใจ"เทือก" ประเทศจะหาความสงบสุขไม่ได้เลย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

      "จตุพร" โวยศาลไร้ความเป็นธรรม เสื้อแดงจำต้องโผล่ชุมนุม ดักคอประเทศวุ่นไม่มีจบหากศาลตัดสินไม่ชอบ เอาใจ"เทือก" เย้ย ปชป. ฝันเฟื่องล้ม"ปูนิ่ม" ด้าน"ธิดา" อ้างเกณฑ์แดงชุมนุมปัดกดดันศาล แค่มาแสดงจุดยืนป้อง รบ.
       
       วันนี้(19พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นกล่าวบนเวทีเสื้อแดงตอนหนึ่งว่า ตลอดหลายปีทีผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญได้สร้างความเคลือบแคลงใจให้ประชาชนมาตลอด ถ้าประเทศไทยมีความยุติธรรม คนเสื้อแดงคงไม่จำเป็นต้องมาชุมนุมในวันนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับยังไม่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง แล้วการแก้รายมาตราที่มา ส.ว.ครั้งนี้จะเข้าข่ายล้มล้างการปกครองได้อย่างไร การรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2549 นั่นแหละ คือ ล้มล้างการปกครอง
       
       การตัดสินของศาลในวันที่ 20พ.ย.นี้ หากศาลตัดสินอย่างยุติธรรม บ้านเมืองก็จะอยู่อย่างร่มเย็น แต่หากตัดสินไม่ชอบธรรม ประเทศจะหาความสงบสุขไม่ได้เลย อยากให้ศาลคิดจะตัดสินเอาใจนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วได้ใจพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะเสียใจคนไทยไปทั้งประเทศ จะรับได้หรือไม่
       
       นายจตุพรกล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินเป็นคุณแก่ตัวเอง ตนขอบอกไว้เลยว่าไม่ว่าพวกคุณจะประเมินผลออกมาอย่างไร ทั้งการยุบพรรค การตัดสิทธิ์ ส.ส. 310 บวก 2 คนก็ไม่มีชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แม้จะมีการยุบพรรค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ว่าจะทำอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังอยู่ วันนี้ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงจะปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่เอารัฐบาลที่มาจากกระบอกปืน ไม่เอานายกฯพระราชทาน
       
       ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่ม นปช. กล่าวว่า การออกมาชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ออกมาเพื่อแสดงจุดยืนต้องการระบอบประชาธิปไตย และไม่ต้องการให้ใครมาล้มล้างรัฐบาล ทั้งนี้หากผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นไปในทางลบต่อพรรคเพื่อไทย ทางแกนนำจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สาวใหญ่อดีตเสื้อแดง ร้องกองปราบ ถูกขู่ฆ่า หลังแฉ แกนนำ นปช. หลอกใช้

view