Conversations with Thaksin

โดย : รักษ์ มนตรี sutthirak_s@hotmail.com

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เราไม่อาจมองทะลุผ่านร่างกาย จนเห็นความเป็นตัวเราได้เอง ญาณไม่แก่กล้าดังเช่นพระอรหันต์ ที่ถอดจิตออกจากร่าง

คนธรรมดาสามัญจะรู้จักตัวเอง ก็ด้วยการมองผ่านสายตาคนรอบข้าง

พระมหาโมคคัลลานะ เมื่อบวชและสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ปรากฏว่าท่านมีความสามารถโดดเด่นในทางอิทธิปาฏิหาริย์เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ท่านสามารถแสดงฤทธิ์ไปยังภูมิของสัตว์นรก และไปโลกสวรรค์ชั้นต่างๆ ได้ ท่านได้พบเห็นสัตว์นรกในขุมต่างๆ ที่ได้เสวยความสุขจากการทำบุญไว้ในเมืองมนุษย์เช่นกัน ท่านได้นำข่าวสารของสัตว์นรกและของเทพบุตรเทพธิดาเหล่านั้น มาแจ้งแก่บรรดาญาติและชนทั้งหลายให้ทราบ ทำให้บรรดาญาติและชนเหล่านั้นพากันละเว้นกรรมชั่วลามกอันจะพาตนไปเสวยผลกรรมในนรก พากันสร้างบุญกุศลอันจะนำตนไปสู่สุคติโลกสวรรค์ และพร้อมกันนั้นก็พากันทำบุญอุทิศไปให้แก่ญาติของตน

เหล่าชนบางพวกที่ไม่มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็พากันละทิ้งลัทธิศาสนาเดิมมาศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ทำให้พวก "เดียรถีย์" ทั้งหลายต้องเสื่อมจากลาภสักการะ เป็นอยู่ลำบากอดอยากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่พระเถระไปเยี่ยมชมโลกสวรรค์ชั้นต่างๆ นั้น มีเรื่องกล่าวไว้ในคัมภีร์ธรรมบทหมวดปิยวรรค และโกธวรรค

หลายคนบอกไว้ว่า "ไม่มีใครรู้จักตัวเราดีเท่าตัวเรา" แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่

ความจริงประการหนึ่ง "ไม่มีใครหลอกตัวเองได้เก่งกว่าตัวของเราเอง" มีใครสักกี่คนที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนขี้เกียจ เราพร้อมจะมีเหตุผลของที่มาที่ไปของความขี้เกียจ มีใครสักกี่คนที่ยอมรับได้ว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัว เราพร้อมจะบอกความจำเป็นส่วนตัวที่เราต้องเห็นแก่ตัว สักกี่คนที่ยอมรับได้ว่าตัวเองเป็นคนขี้โกง เพราะว่าคนคนนั้น พร้อมจะรู้สึกว่ามันก็แค่การทำธุรกิจผูกขาดอำนาจ ผ่านโครงการที่ต้องดูแลคนทั้งประเทศ

อันที่จริง เราไม่ต้องรอให้พระอรหันต์ พระมหาโมคคัลลานะ มาบอกหรอก คนทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมีให้เห็นดาษดื่น อยู่ที่ว่าเมื่อเห็นแล้วใครจะครองสติ และหักห้ามใจเพื่อไม่ให้ทำชั่วได้มากน้อยกว่ากัน

กรณีเช่น ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล สื่อมวลชนอาวุโส ซึ่งภายหลังเปิดเผยเรื่องราวของอดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยการถอดความในหนังสือ Conversations with Thaksin จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย โดนวิจารณ์อย่างมาก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าใครจะวิจารณ์ตัวผมก็ไม่ว่า เป็นเสรีภาพ แต่จะดีกว่าถ้าจะย้ายไปวิจารณ์เรื่องที่ผมพูดหรือเสนอต่อสาธารณะ วิจารณ์เนื้อหาดีกว่าวิจารณ์คนทำเนื้อหา

ในทวิตเตอร์ @somkiatonwimon บอกให้สังคมรับทราบว่า "ความ'หยาบกร้าน'ของคุณทักษิณ ใน Conversations with Thaksin มีมากกว่าที่ผมพูดที่เวทีปทุมวันเมื่อคืน (26 ม.ค.) มาก ผมไม่ได้ยกมาพูดเพราะเกรงจะแรงไปจนเกิดปัญหา"

ดร.สมเกียรติ อธิบายเจตจำนงของตัวเองผ่าน @somkiatonwimon ว่า "ผมอยากให้คนเสื้อแดงได้อ่านหนังสือ Conversations with Thaksin เพราะเป็นคนรักคุณทักษิณมาก อ่านแล้วโปรดนั่งคิดยาวๆ สักวัน แล้วค่อยตัดสินใจทางอื่น"

@somkiatonwimon บอกด้วยว่า "Conversations with Thaksin เป็นหนังสือทำลายคุณทักษิณอย่างมาก ขอให้มติชนเอามาวางขายในร้านหนังสือทั่วประเทศด่วน! ถ้าแปลแล้วกรุณาอย่าเก็บไว้"

เมื่อเวลา 22.07 น. วันอาทิตย์ 26 ม.ค. ดร.สมเกียรติ ขึ้นเวที กปปส. ที่ ปทุมวัน โดยได้นำหนังสือ Conversations with Thaksin แปลเป็นไทยชื่อ "บทสนทนาของทักษิณ" ดร.สมเกียรติ เริ่มแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ จากแผนการกลับบ้านแบบเท่ๆ ของอดีตนายกฯ ภายใน 1 ปี หลังน้องสาวของตัวเองขึ้นมาเป็นนายกฯ จะกลับบ้านแบบไม่มีความผิด หนังสือส่วนหนึ่งพูดถึงความทะเยอทะยาน เกี่ยวกับการจะไปเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินฯ และรวมถึงเจตนาที่จะให้นานาชาติกดดันประเทศไทย

ในตอนหนึ่งนั้น ดร.สมเกียรติ ได้แปลช่วงที่ "ทักษิณ" พูดถึงผู้ชายมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า "ผู้ชาย...วันๆ เอาแต่กินน้ำชาเลี้ยงนกเขา ไม่มีความทะเยอทะยานใดๆ เลย"

อีกตอนหนึ่ง ดร.สมเกียรติ แปลถึงช่วงการสนับสนุนเงินคนเสื้อแดง ซึ่ง ทักษิณ บอกว่า "ไม่มีกฎหมายห้ามบริจาคกลุ่มเคลื่อนไหวการเมือง คนเสื้อแดงได้รับบริจาคจากที่นี่ ที่โน่น แม้แต่คนเสื้อเหลืองก็มีการบริจาคให้จากคนชั้นสูง"

ประโยคสำคัญอยู่ที่ตรงนี้ ดร.สมเกียรติ แปลถึงตอนที่ ทักษิณ ตอบคำถามถึงตัวเองที่ไม่ได้รับความยุติธรรมว่า "พวกเขาเอาเงินผมไปจากการตั้งศาลการเมืองขึ้นมา ถ้ากลับไทยผมจะทำแบบเดิมอีกทั้งหมด และถ้าทำกับผม ผมจะสู้อีก"

ครับผมเสียดายอย่างที่ ดร.สมเกียรติ เสียดาย ที่หนังสือนี้หาซื้อไม่ได้ตามแผงทั่วไป เจ้าของลิขสิทธิ์น่าจะรีบพิมพ์และวางขาย ผมรออ่านอยู่ครับ

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน