สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผู้นำ กับการเป็นนักเล่าเรื่อง

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ เรื่องเล่าซีอีโอ

โดย "ซิคเว่ เบรคเก้" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย


กฎข้อที่ 1 ของการเป็นผู้นำที่ดี

ผู้ นำที่ดีต้องทำได้หลายบทบาท และเข้าใจคนทุกกลุ่ม และจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของผม ทำให้ได้รู้ว่า มีกฎอยู่ 7 ข้อที่ผู้นำทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงธุรกิจใดก็ตาม ควรที่จะปฏิบัติได้

สำหรับผมเองนั้น การเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีนับเป็นกฎข้อที่หนึ่ง การถ่ายทอดบอกเล่า

เรื่อง ราวไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่ผู้นำจำเป็นต้องทำ เรื่องราวที่เต็มไปด้วยพลังคือสิ่งที่จะทำให้คนเราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และอยากออกไปทำงาน เรื่องราวจะค่อยเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ และทำให้เรายึดมั่นที่จะทำตามคำมั่นสัญญา

เรื่องราวดี ๆ จะรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และช่วยสร้างแรงบันดาลใจ

เอเชีย กลายเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมและเป็นตลาดที่กำลังเติบโต เอเชียยังเป็นที่ที่เราได้เห็นนวัตกรรมและรูปแบบการใช้งานที่น่าตื่นเต้น เช่น การที่คนไทยหันมานิยมใช้เทคโนโลยี 3G ทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเติบโตก้าวกระโดด แสดงให้เห็นว่าตลาดก้าวมาถึงจุดที่เทคโนโลยีปัจจุบันอาจไม่เพียงพอต่อความ ต้องการของผู้บริโภคเสียแล้ว พวกเขาต้องการการเชื่อมต่อที่เร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก

ถ้าลองไปเดินตาม ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ คุณจะเห็นเด็กวัยรุ่นแชตคุยกันบนโซเชียลมีเดีย เช็กอินตามสถานที่ต่าง ๆถ่ายรูปอาหาร หรือถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อนเพื่ออัพเดตออนไลน์ ถ้าไปต่างจังหวัดคุณอาจเห็นชาวนาเช็กราคาตลาดพืชผลของพวกเขา หรือปรึกษากันเรื่องการเกษตรผ่านสมาร์ทโฟน นั่นเป็นสิ่งที่คุณอาจไม่คิดว่าจะเป็นไปได้

แต่ความเป็นจริงคือ ทุกวันนี้โครงข่ายการสื่อสารได้เชื่อมโยงพวกเราเข้าด้วยกัน และเชื่อมต่อผู้คนเข้ากับกับข้อมูลและบริการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาได้

สิ่งหนึ่งที่คอยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้ตัวผมก็คือ เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดจากสิ่งที่พวกเราทำ ในฐานะผู้นำ ผมรู้สึกว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ของผมที่ต้องคอยรวบรวมเรื่องราวต่างๆ และแบ่งปันให้เพื่อนร่วมงานได้รับรู้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการถ่ายทอดเรื่องราวให้โลกได้รับรู้ว่า เราเป็นใครในฐานะองค์กร หรือเราจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้อย่างไร นับเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นงานที่ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่สุด

ขอผมยกตัวอย่างหนึ่งเรื่องที่คุณจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค เพื่อนร่วมงานของผม ได้เล่าให้ผมฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหน้าร้อนปีที่แล้วที่โรงเรียนบ้าน ปางน้ำถุจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงที่เขาไปที่นั่นกับทีมอาสาสมัครจากบริษัทเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ โรงเรียน ซึ่งเทเลนอร์กรุ๊ปและดีแทคต้องการทำให้ทุกคนได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งผมหมายถึงทุกคนในประเทศจริง ๆ

ทีมอาสาสมัครดีแทคช่วยติดตั้ง ห้องคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียน โดยมอบซิมการ์ดพร้อมชั่วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ฟรีเป็นเวลา 1 ปี มันเป็นโครงการดี ๆ ทั่วไปอีกโครงการหนึ่งที่เราริเริ่มขึ้นมา แต่สิ่งที่ทำให้ผมจำเรื่องนี้ได้แม่นเลย คือตอนที่จอนเล่าให้ฟังถึงรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็ก ๆ พ่อแม่ และคุณครูในโรงเรียน เพราะโครงการนี้ทำให้พวกเขามีโอกาสเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเป็นเหมือนการเข้าถึงคลังแห่งความรู้
และข้อมูลต่าง ๆ ที่พวกเราหลายคนในเมืองใหญ่ใช้ประโยชน์อยู่ แต่หลายคนกลับไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้

ทุก วันนี้ดีแทคกำลังดำเนินงานโครงการที่คล้าย ๆ กันนี้กับโรงเรียนอีก 3,000 แห่งทั่วประเทศ เราไม่เพียงแค่ต้องการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เชื่อมต่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เท่านั้น แต่เราสอนให้พวกเขาได้รับรู้ถึงวิธีการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ

การนำอินเทอร์เน็ตมาสู่ชุมชนที่อาจโดนมองข้ามนั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายของการทำให้ทุกชีวิตได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต เป็นจริงได้ เป็นอีกเหตุผลดี ๆที่ทำให้เราทุกคนอยากตื่นมาทำงานในตอนเช้าอีกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์

ที่ ผ่านมา คือการที่ตัวผมและซีอีโอของเทเลนอร์ประเทศพม่า คุณปีเตอร์ บอร์ เฟอร์เบิร์ก ได้พบกับกลุ่มนักธุรกิจชาวนอร์เวย์ในเมืองย่างกุ้ง ในช่วงที่พวกเรากำลังสร้างเครือข่ายโทรคมนาคมใหม่ในประเทศพม่าโดยเริ่มต้น กันจากศูนย์นั้น นักธุรกิจกลุ่มนี้คิดว่าเราคงพูดกับพวกเขาเฉพาะเรื่องกลยุทธ์ ตัวเลข เทคนิคต่าง ๆ หรือการคาดการณ์การเติบโตของพม่า พร้อมป้อนข้อมูลการดำเนินธุรกิจใน อดีตของเทเลนอร์ในทวีปเอเชียให้พวกเขาฟัง แต่กลับกลายเป็นว่า ผมและคุณปีเตอร์นั่งเล่าให้พวกเขาฟังว่า เราสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีพื้นฐานมาจากแรงบันดาลใจ เพื่อทำให้ได้เปรียบคู่แข่งได้อย่างไร

ผม ได้แชร์ประสบการณ์จากการทำงานที่ดีแทคในประเทศไทย กับยูนินอร์ในอินเดีย และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียในช่วงเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา เทเลนอร์เข้ามาในทวีปเอเชียด้วยความเชื่อง่าย ๆ ที่ว่า การสื่อสารมีไว้สำหรับทุกคน และเราพบว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรได้มากมายจากการทำธุรกิจในเอเชีย โดยเฉพาะในตลาดที่มีสีสันอย่างประเทศไทยและมาเลเซีย

เราได้รู้ว่าทุกชีวิตล้วนมีความต้องการที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน หรือวัฒนธรรมใด ทุกคนอยากได้รับการยอมรับ และอยากมีโอกาสที่จะได้พบผู้นำอย่างใกล้ชิด

คุณปีเตอร์เล่าให้นัก ธุรกิจเหล่านั้นฟังถึงทริปการเดินทางกับนายมิน พนักงานเบอร์ 1 ของเทเลนอร์ประเทศพม่า เพื่อไปยังบ้านเกิดของเขา เป็นทริปที่ต้องเดินทางด้วยรถบัสถึง 9 ชั่วโมงตอนกลางคืน

พอไปถึงแล้วต้องต่อรถท้องถิ่นอีก 3 ชั่วโมง ขึ้นมอเตอร์ไซค์อีกครึ่งชั่วโมง และยังต้องต่อเรือเล็กไปอีกหน่อยก่อนถึงจุดหมาย ซึ่งเป็นที่ที่ทั้งพ่อแม่และครอบครัวของเขาอาศัยอยู่มาตลอดชีวิต

ที่นั่นเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการสื่อสารสมัยใหม่ ไม่มีแม้กระทั่งถนน หรือระบบโทรคมนาคมใด ๆ แต่พื้นที่บ้านเกิดของนายมินนี้เองกำลังจะเห็นการปฏิวัติการสื่อสารในหมู่ บ้าน รวมถึงหมู่บ้านอื่น ๆ ทั่วประเทศก็กำลังก้าวไปบนเส้นทางเดียวกัน

เรื่องนี้ทำให้ผู้ฟังได้เห็นภาพที่แท้จริงของสิ่งที่บริการโทรคมนาคมจะมอบให้กับทุกชีวิตได้

การถ่ายทอดเรื่องราวเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ทรงพลังมาก ทฤษฎีต่าง ๆนั้นเขียนขึ้นมาเพื่อให้คนได้ถกเถียงกัน

แต่เรื่องราวต่างสร้างขึ้นมาเพื่อแบ่งปัน เรื่องราวจะคอยหลอมรวมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียว นั่นคือสาเหตุที่ผมยืนยันอยู่เสมอว่าการถ่ายทอดบอกเล่าเรื่องราวไม่ ได้เป็นแค่ทางเลือกสำหรับผู้นำ แต่คือสิ่งที่ผู้นำจำเป็นต้องทำ ผู้นำต้องเป็นนักเล่าเรื่องเบอร์หนึ่งขององค์กร และเรื่องราวต่าง ๆ ต้องทำให้คนฟังเห็นภาพได้ สัมผัสได้จากภายใน

และที่สำคัญคือต้อง สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนฟังได้ แน่นอนว่า ผู้นำต้องพูดถึงภาพรวมและวิสัยทัศน์ แต่อย่าลืมว่าวิสัยทัศน์ที่ดีต้องเกี่ยวข้องกับชีวิต สภาพแวดล้อม และสิ่งที่มีผลกระทบต่อชีวิตของเราในทุก ๆ วันด้วย

วาง เป้าหมายเอาไว้เลยว่าเรื่องเล่าที่ดีนั้นคนฟังต้องตอบได้ว่า มันมีผลต่อทั้งตัวคุณและตัวเขา หรือกระทั่งมีผลต่อเมืองไทยอย่างไรเมื่อเขาฟังจบแล้ว

ทุกวันนี้ผมยัง คงใช้เวลา 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อทำหน้าที่เป็นนักเล่าเรื่องให้องค์กรของเรา ผมลงพื้นที่ไปพบปะผู้คนและแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อที่จะเรียนรู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเราเป็นใคร พวกเราทำอะไร และที่สำคัญคือทำเพื่อใคร การแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ นี้เอง คือสิ่งที่คอยสร้างและรักษาความมุ่งมั่น และศักยภาพในการทำงานของพวกเราทุกคน

เป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้วที่ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการทำงานในวัฒนธรรมที่ แตกต่างร่วมกับผู้คนอันหลากหลายในทวีปเอเชีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่ ในเมืองไทย วันนี้เรามีพนักงาน 20,000 คนในเอเชีย อยู่ที่เมืองไทยหลายพันคน โดยส่วนใหญ่ทำงานที่ดีแทค บางส่วนทำงานที่สำนักงานใหญ่ของภูมิภาคเอเชียของเราซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ

พวกเรายังคงเรียนรู้ไปด้วยกันทุกวัน และยังคงสร้างแรงบันดาลใจ ขณะเดียวกันก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวดี ๆ ของการเชื่อมต่อเครือข่ายให้กับทุกชีวิตในตลาดที่เราเข้าไปทำธุรกิจ

ผมเชื่อว่า การเล่าและแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร และสิ่งนี้เองคือข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจในมุมมองของผม การถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ไม่ว่าจะจากระดับผู้บริหาร หรือจากระดับใดในองค์กรก็ตาม เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้เกิดวัฒนธรรมที่จะนำมา ซึ่งความสำเร็จ ซึ่งผมจะกลับมาเล่าเรื่องราวอื่น ๆ ให้พวกคุณที่ติดตามอ่านบทความของผมในฉบับต่อ ๆ ไป


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ผู้นำ การเป็นนักเล่าเรื่อง

view