สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

หน.คสช.แถลงผลงานยันประเทศชาติต้องมาก่อน

หน.คสช.แถลงผลงานยันประเทศชาติต้องมาก่อน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

'ประยุทธ์'แถลงผลงานคสช.รอบ1สัปดาห์ หวังแก้ความขัดแย้งคืนสุขให้กับปชช.จำเป็นควบคุมสื่อเพราะถูกนำมาใช้ปลุกปั่นมานาน ยันชาติต้องมาก่อน

เมื่อเวลา 21.30น.วันที่ 30 พ.ค.2557 พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้แถลงผลการดำเนินการของ คสช.ในรอบ 1 สัปดาห์ มี 2 ด้าน 1.รักษาความสงบเรียบร้อย 2 ประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยยืนยันว่า เข้ามาบริหารบ้านเมืองเพราะเกิดความไม่สงบเกิดความขัดแข้งรุนแรง จึงมีความต้องการที่จะเข้ามายุติความรุนแรงความขัดแย้ง หวังที่จะคืนความสุขให้กับประชาชนแก้ไขความเดือดร้อน และขอร้องอย่าได้ออกมาชุมนุมเพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก ส่วนการควบคุมสื่อนั้นขณะนี้ยังมีความจำเป็นเพราะว่าที่ผ่านมามีการนำมาใช้ให้การยุยงปลุกปั่น ทั้งนี้จะมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุดก่อนการใช้งบประมาณปี 2558 เน้นให้งบประมาณสามารถตรวจสอบได้เพื่อความโปร่งใส


"ส่วนการดำเนินการต่อไปนั้นก็คือตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งนายกรัฐมนตรี และสภาปฏิรูป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี และเมื่อดำเนินการทั้ง 3 แนวทางนี้แล้วประเทศชาติมีความสงบก็จะเข้าสู่การเลือกตั้ง" หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกล่าวและว่า

คสช.ไม่ต้องการก้าวเข้าสู่อำนาจและคิดเสมอว่าประเทศชาติต้องมาก่อน


ประยุทธ์ ลั่นใช้เวลาปีครึ่งพาประเทศเลือกตั้ง

จาก โพสต์ทูเดย์

พล.อ.ประยุทธ์ประกาศใช้เวลา1ปีครึ่งปฎิรูปประเทศนำพาไปสู่การเลือกตั้งให้เป็นที่พอใจทุกฝ่าย

เมื่อวันที่30พ.ค.57 เวลา21.39น. พล. อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) เตรียมแถลงผ่าน ททบ.5 ชื่อรายการ "คืนความสุขให้คนไทย" ความยาว40 นาที หลังครบรอบ 7 วัน การควบคุมอำนาจปกครองประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นการชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นการในการยึดอำนาจ ผลการปฏิบัติงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และโรดแมปใน 3 ขั้นตอน เพื่อนำประเทศไปสู่ความสงบสุข คืนความสุขให้กับคนไทย         


การเข้ามาควบคุมสถานการณ์ของคสช. ก็เพื่อยุติความรุนแรง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป และที่สำคัญคือให้สถาบันพระมหากษัติริย์ซึ่งทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง ตลอดมาได้รับการปกป้องจากคนไทยทุกคน

งานของคสช.มีขอบเขตสำคัญ 2ประการ 1.งานรักษาความสงบสุขทั่วราชอาณาจักร การประกาศใช้กฏอัยการศึก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้ประชาชนได้เรียนรู้กฏหมาย และเคารพเพื่อลดความขัดแย้ง ส่วนการประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว เพื่อจัดระเบียบดูแลควาสงบเรียบร้อยให้กลับมาโดยเร็ว

งานส่วนที่2คือการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้ได้โดยเร็วที่สุด ดำเนินการปลดล็อคการเบิกจ่ายงบประมาณปี57 และเร่งจัดทำงบประมาณปี58ให้ทันกำหนดเวลา

หลักการสำคัญของคสช.คือ การบริหารราชการในสถานการณ์ไม่ปกติคือใช้ระเบียบบริหารงานปกติของทุกวส่วน ราชการให้มากที่สุด เว้นเฉพาะในเรื่องมีปัญหาที่ติค้าง หรือจำเป็นเร่งด่วน แต่ไม่าได้สั่งการให้ปฎิบัติในสิ่งที่ผิดกฏหมาย หรือผิดระเบียบ และการใช้จ่ายงบประมาณสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา จะไม่ใช่จ่ายเกินกำลังจนเสียวินัยทางการเงิน

สำหรับโรดแมปของคสช. ระยะแรก จะดำเนินการเรื่องการปรองดองสมานฉันท์ ให้เร็วที่สุดในกรอบเวลา 2-3เดือน เพื่อเตรียมสู่การปฎิบัติในระยะที่2 คือการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว จะมการจัดตั้งสภานิติบัญญัติ สรรหานายกรัฐมนตรี และครม. ซึ่งน่าใช้เวลลา 1 ปี และนำไปสู่ระยะที่3 คือการจัดการเลือกตั้ง และจะทำให้เกิดความพอใจกับทุกฝ่าย.

**รายละเอียดคำชี้แจง** 

 

 

 

 

 

 

 


"ประยุทธ์" เผยโรดแมป 3 ขั้น คาดปฏิรูป 1 ปี เข้าสู่เลือกตั้ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

"ประยุทธ์" แจงโรดแมป 3 ขั้น "สร้างปรองดอง 2-3 เดือน - ทำปฏิรูป 1 ปี - เลือกตั้ง" เผยเร่งจัดทำงบฯปี 58 ให้ทันเวลา ยันไม่ต้องการเข้าสู่อำนาจแต่ทำเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ วอนประชาชนให้ความร่วมมือ พร้อมแย้มเรื่องพลังงานต้องทำภายใต้กติกา
        วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 21.41 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบ (คสช.) กล่าวแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกกลุ่ม ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ที่ให้ความร่วมการปฏิบัติงาน คสช. เป็นอย่างดี ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าสถานการณ์โดยรวมมีความเรียบร้อย
       
       เหตุผลที่ คสช.เข้ามาบริหารราชการประเทศครั้งนี้นั้น สืบเนื่องมาจากความแตกแยกทางการเมืองที่หยั่งรากลึก การชุมนุมที่ยาวนาน ตลอดจนเหตุการณ์ความรุนแรง มีการใช้อาวุธสงคราม ตลอดจนการทุจริต ทำผิดกฎหมาย รัฐบาลรักษาการไม่สามารถบังคับช้กฎหมายปกติได้ การใช้จ่ายงบประมาณปี 57 ติดขัด และด้วยข้อกฎหมาย ข้อจำกัด ที่มีอยู่ทำให้การจัดทำงบปี 58 มีความล่าช้า หากปล่อยไว้ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม
       
       การเข้ามาควบคุมสถานการณ์ของ คสช. เพื่อยุติความรุนแรง ปลดล็อกข้อจำกัดเล็ก ๆ น้อย ๆ และเพื่อคืนความสุขให้คนไทยทั้งชาติ รวมทั้งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าเป็นการชั่วคราว ทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าและชาวต่างชาติมีความสุข ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ที่สำคัญสุดเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง ตลอดมา ได้รับการปกป้องจากคนไทยทุกคน
       
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับงานของ คสช. มีขอบเขตที่สำคัญ 2 ประการหลัก ๆ คือ
       
       1.งานรักษาความความสงบทั่วราชอาณาจักร การประกาศใช้กฎอัยการศึกมีความจำเป็น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยทั้งหมดนั้นยึดหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะพยายามใช้อำนาจที่มีอยู่ ไม่ใช้อำนาจเกินเลย ระมัดระวังการละเมิดสิทธิมนุษยชน หากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ จะกลับไปใช้กฎหมายปกติให้เร็วที่สุด
       
       การประกาศเคอร์ฟิวก็เพื่อรักษาความสงบให้เข้าสู่ปกติโดยเร็ว อาจกระทบประชาชนบ้างเพราะในระยะแรกต้องเข้มงวด แต่ก็ตระหนักดี จึงได้ผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวด้วยการปรับลดเวลาลงจากเดิม หากสถานการณ์เป็นปกติมากยิ่งขึ้น ในพื้นที่ที่ไม่มีความเสี่ยง จะพิจารณาปรับลดมาตรการลง และจะนำไปสู่การยกเลิกโดยเร็วที่สุด
       
       ส่วนการเรียกบุคคลมารายงานตัว คนเหล่านั้นอาจเป็นคู่ขัดแย้งทั้งโดยตรงและโดยอ้อม หรือมีสัญลักษณ์ในการสร้างความขัดแย้ง ที่เชิญตัวมาก็เพื่อ ให้สงบสติอารมณ์ ทบทวนว่าที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง เพื่อให้เกิดการยอมรับความเห็นที่แตกต่าง จะได้มีส่วนช่วยนำพาประเทศไปข้างหน้า ซึ่งทุกคนได้รับการดูแลอย่างดี สำหรับผู้ไม่มารายงานตัว ถือว่าฝ่าฝืนกฎอัยการศึก จะต้องถูกดำเนินการโดยเด็ดขาดตามกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะบางกลุ่มที่ต่อสู้ด้วยความรุนแรง ต้องปราบปรามเด็ดขาดเช่นกัน เราจะต่อสู้ด้วยการยึดแนวคิดตัวเอง หรือตีความกฎหมายเข้าข้างแต่ละฝ่ายไมได้อีกแล้ว เพราะจะแตกแยกไม่สิ้นสุด ทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สิ่งเห็นต่างต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ก่อน แล้วหารือจนได้สิ่งที่เป็นที่ยอมรับของทุกกลุ่มทุกฝ่าย
       
       การลงโทษผู้ต่อต้าน คสช. มีความจำเป็น เพราเป็นระยะแรกของการปฏิบัติงาน ไม่สามารถให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงการคัดค้านได้เพราะจะก่อให้เกิดความแตกแยก ไม่สิ้นสุด จึงขอร้องทุกฝ่ายอย่ามาชุมนุมในช่วงนี้ หากฝ่าฝืนจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายกับทุกกลุ่ม ด้วยมาตรการที่เหมาะสมส่วนการระงับสื่อนั้น ในระยะนี้จำเป็นมาก เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา มีการใช้สื่อทุกประเภท บิดเบือน สร้างความเกลียดชังมาอย่างต่อเนื่อง การปรับย้ายข้าราชการ เป็นเรื่องภายในของทุกหน่วยงาน ทำเพื่อลดความขัดแย้ง ปรับให้เหมาะสมในการปฏิบัติงาน ไม่ได้เป็นการรังแกแต่อย่างใด
       
       2. การขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้เร็วที่สุด ต้องดำเนินการจัดทำงบประมาณปี 58 ให้ได้ทันเวลา เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ที่สำคัญให้ทันเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
       
       หลักการสำคัญของ คสช. คือการใช้ระเบียบบริหารราชการปกติให้มากที่สุด เว้นแต่ที่เป็นปัญหาติดค้าง จะไม่มีการสั่งให้ปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ของใคร การใช้จ่ายงบประมาณทุกอย่างอยู่ในระเบียบการเงินการคลังของทุกกระทรวง ทบวง กรม สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช้จ่ายเกินกำลัง
       
       การใช้จ่ายงบปี 57 จะเริ่มจากแผนงานโครงการที่ค้างคาอยู่ โดยจะเร่งตรวจสอบจัดลำดับความเร่งด่วน ส่วนโครงการขนาดใหญ่ อย่าง 2.2 ล้านล้านบาท และ 3.5 แสนล้านบาท จะพิจารณาว่าโครงการใดเป็นประโยชน์ โดยจะแยกพิจารณาเฉพาะเรื่อง
       
       ด้านพลังงาน อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่ามีมาตรการดูแลได้อย่างไรบ้าง แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกติกา วินัยการเงินการคลัง กฎเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ บริษัทมหาชน ตลอดจนพิจารณาจัดตั้งกองทุนภาคเอกชน ตั้งกองทุนประเทศขนาดใหญ่เพื่อลดการลงทุนของภาครัฐ พัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน อย่างเช่นพลังงานทดแทน คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ มีความจำเป็นต้องปรับให้มีมาตรฐาน ต้องบริหารงานให้โปร่งใส
       
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับโรดแมปของ คสช. มีดังนี้
       
       ระยะที่ 1 ช่วงแรกของการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ จะดำเนินการเรื่องความปรองดองสมานฉันท์ให้เร็วที่สุด ในกรอบเวลา 2-3 เดือน นอกจากด้านความมั่นคงและขับเคลื่อน ได้เริ่มจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปในระยะที่ 2 ทั้งนี้ทุกพื้นที่ต้องเริ่มจากครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด คสช.ได้มอบหมายให้ กอ.รมน. รับผิดชอบในการดำเนินการ รวมทั้งจัดตั้งคณะทำงานเตรียมการปฏิรูป เพื่อเตรียมการสู่การปฏิบัติให้พร้อมในระยะที่ 2 โดยปราศจากความขัดแย้งตั้งแต่บัดนี้ ซึ่งจะไม่ปรับโครงสร้างของหน่วยราชการใด ๆ หรือเรียกผลประโยชน์ ค่าตอบแทน หรือการนิรโทษกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น
       
       ระยะที่ 2 การใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งกำลังดำเนินการจัดทำอยู่ในฝ่ายกฎหมาย ซึ่งจะมีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติ สรรหานายกฯ ตั้ง ครม. เพื่อบริหารราชการ ร่างจัดทำรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งการตั้งสภาปฏิรูป เพื่อปฏิรูปทุกเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องการ เป็นที่ยอมรับ ซึ่งน่าจะใช้เวลา 1 ปี อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่าย เมื่อสถานการณ์เรียบร้อยเป็นปกติ ปฏิรูปสำเร็จ เกิดความปรองดองทุกฝ่าย ประชาชนสามัคคีกัน ก็จะก้าวเข้าสู่ระยะที่ 3
       
       ระยะที่ 3 การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ที่ทุกฝ่ายพอใจ มีกฎหมายที่ทันสมัยทุกด้าน แก้ไขกฎกติกาให้ได้คนดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง
       
       พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่อาจสำเร็จได้โดยเร็ว หากความสงบไม่เกิดขึ้น การประท้วงโดยไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่เข้าใจสาเหตุการควบคุมอำนาจครั้งนี้ ว่าทำเพื่อคนไทยทุกคน จะส่งผลดีต่อประเทศได้ในอนาคตอันใกล้ คิดว่าคนไทยทุกคนเหมือนตนไม่มีความสงบสุขมา 9 ปีแล้ว ประชาชนอยู่สงบ เป็นสุขมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 - 22 พ.ค. เป็นต้นมา
       
       "คสช.ไม่ต้องการเข้าสู่อำนาจ ใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ เลย แต่ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แล้วถ้าทหาร ข้าราชการ ไม่ทำอะไรเลย ใครจะแก้ปัญหาให้ท่าน ในเมื่อประชาธิปไตยโดยสมบูรร์เดินหน้าไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ขอให้ความร่วมมือ ให้กำลังกันและกัน ส่วนความรู้สึกของต่างประเทศ เราเข้าใจดี แต่ให้เวลาเราปรับเปลี่ยนทัศนคติ ให้ประชาธิปไตยของไทย ถูกต้อง ชอบธรรม นึกถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยต้องได้รับความพอใจทั่วถึงกัน หากประชาชนร่วมมือกันจะนำพาประเทศไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ยั่งยืน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : หน.คสช. แถลงผลงาน ประเทศชาติ ต้องมาก่อน

view