เปลี่ยนแปลงเพื่อเติบโต

โดย : แจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ท่ามกลางความปั่นป่วนผันผวนในกระแสธุรกิจไอที ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นบริษัทหนึ่งกลับยืนหยัดได้อย่างมั่นคง

พร้อม รับการเปลี่ยนแปลงดังที่เคยปรับตัวมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีและเติบโตจนมี บริษัทในเครือมากมาย นั่นคือ ไซโก้ เอปสัน ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

ไซโก้ เอปสัน ถือกำเนิดขึ้นปี 1942 ด้วยความมุ่งมั่นของช่างทำนาฬิกาตระกูล Hattori ที่ตั้งใจผลิตนาฬิกาข้อมือคุณภาพดีราคาไม่แพง เพราะยุคนั้นนาฬิกาข้อมือมักเป็นของที่ผลิตจากประเทศสวิสซึ่งราคาสูงมาก

ความเชี่ยวชาญของ ไซโก้ เอปสัน ในยุคแรกจึงเป็นเรื่องจักรกลบอกเวลาที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้าน เครื่องกลที่สลับซับซ้อนและต้องแม่นยำสูงสุด ผลสำเร็จที่ได้คือเครื่องตั้งเวลาระบบควอทซ์และนาฬิกาควอทซ์เรือนแรกของโลก ในปี 1963

โอกาสของไซโก้ เอปสันมาถึงในปี 1964 เมื่อญี่ปุ่นได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกในเอเชียเป็นประเทศแรก จัดที่กรุงโตเกียว ความต้องการเครื่องจับเวลาและเครื่องพิมพ์ผลแข่งขันทำให้บริษัทหันมาผลิต เครื่องพิมพ์ควบคู่ไปกับนาฬิกาที่เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท

หลังจากนั้นบริษัทก็เติบโตต่อเนื่อง แม้ตลาดนาฬิกาต้องเจอการแข่งขันด้านราคาที่ดุเดือดจากคู่แข่งร่วมชาติ เช่น ซิติเซ็น, คาสิโอ, โอเรียนท์ รวมถึงผู้ผลิตนาฬิกาจากฮ่องกงและจีน แต่ ไซโก้ เอปสัน ก็ไม่หวั่นเพราะรายได้หลักจากธุรกิจเครื่องพิมพ์กำลังเติบโตสูงมาก

เครื่องพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กเครื่องแรกของโลกคือ EP-101 จึงถูกผลิตขึ้นปี 1968 ความเข้มแข็งองค์กรจึงไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่กับธุรกิจนาฬิกา ที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านจักรกลอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังมีอีกด้านหนึ่งที่ใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ควบคู่ไปด้วย

การผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านกลไก เช่น เฟือง ลาน ต่างๆ ของการผลิตนาฬิกา เป็นจุดแข็งที่ทำให้ไซโก้ เอปสันบุกเบิกธุรกิจเครื่องพิมพ์ยี่ห้อ “เอปสัน” ได้ง่ายดายเพราะการสร้างเครื่องพิมพ์ก็ต้องใช้กลไกต่างๆ ไม่แพ้กัน ผนวกกับสิ่งใหม่ในยุคนั้นคือแผงวงจรคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุม

ความก้าวหน้าของไซโก้ เอปสัน จึงแทบจะไม่มีใครฉุดเอาไว้ได้ โดยเฉพาะยุคเครื่องพิมพ์ ดอช เมทริกซ์ ได้รับความนิยมก็ส่งผลให้เอปสันมียอดขายเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์สูงที่สุดใน โลก และเมื่อสมรภูมิเครื่องพิมพ์เปลี่ยนมาสู่ตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ไซโก้ เอปสันก็หันไปหาตลาดใหม่ คือ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทแทน แม้วันนี้ยอดขายอิงค์เจ็ทอาจไม่สูงเท่าในอดีต แต่เอปสันก็มีทางเลือกด้วยผลิตภัณฑ์อื่น อาทิ โปรเจ็คเตอร์ เครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ฯลฯ จนทำให้บริษัทยังคงมั่นคงอยู่ได้แม้คู่แข่งจะล้มหายไปแล้วหลายราย

ความกล้าเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ ไซโก้ เอปสัน ยังคงแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้ ผู้นำจึงต้องเลือกที่จะกล้าทวนกระแสหากเห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมได้ หรือหากจะเลือกตามกระแสต้องมั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตให้กับองค์กรได้ในระยะ ยาว

การวัดความสำเร็จของคนหรือองค์กรจึงต้องดูในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เพราะคนที่ฝ่าฝันการเปลี่ยนแปลงมาได้สำเร็จ ย่อมหมายถึงเขาเชื่อมั่นในจุดแข็งของตัวเองและกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้าง โอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเอง

บทเรียนที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จาก Mr. Minoru Usui ( President and CEO) ของ Seiko Epson Corporation - Japan

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน