ไลน์

โดย : วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ที่บางบอน 3 50 ไร่เศษขายตารางวาละ เฉลี่ย 30,000 ต้องออกมาตอบคำถามแล้วว่า ทำไมขายถูกเกินไป สงสัยเอาเงินส่วนต่างไปจ่ายใคร ดูไบหรือเปล่าเพื่อให้แดงสงบสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้รับข้อความนี้มาทางไลน์ (LINE) แอพพลิเคชั่น การสื่อสารที่ฮิตที่สุดในเมืองไทยขณะนี้

ข้อความนี้มีชื่อว่า “อานิสงส์ของการมี LINE” ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง แต่ขอให้เครดิตว่าถูกใจมากๆ ดังนี้ค่ะ

“อานิสงส์ของ lineได้ทายทัก เพื่อนฝูงทั้งที่รู้จัก...ไม่รู้จัก

แม้ห่างหายกันไป...หลายปีนัก ได้ตระหนักถึงตำนาน...ที่ผ่านมา

อาจหลงลืมกันไปบ้าง...ต่างวิถี เมื่อเล่น line กลับยินดี...ที่พบหน้า

แม้รูปทรงจะเปลี่ยนไป...ไม่คุ้นตา จากรูปที่โพสต์ท่า...พางวยงง

ได้ถามไถ่สารทุกข์...ทั้งสุกดิบ จะอยู่ใกล้หรือไกลลิบ...มิลืมหลง

ได้รับรู้ความผูกพัน...ยังมั่นคง มีทั้งส่งรูปภาพ...กับข้อความ

มีสัปดนวันละนิด...จิตแจ่มใส เรทเอ็กซ์ อาร์ ว่ากันไป...ใจวาบหวาม

มิถือสาก็เพราะว่า...อายุอานาม ต่างก้าวข้ามความเดียงสา...มานานวัน

เศรษฐกิจ การเมือง...เรื่องจุกจิก ได้หัวร่อต่อกระซิก...ร่วมสังสรรค์

คติธรรมล้ำค่า...สารพัน มีขำขันให้ข้อคิด...แก่มิตรรัก

สรุปว่าหากขาด line...ใจคงเหงา ยิ่งกว่าเสพยาและเหล้า...ขนาดหนัก

ขอฝากถ้อยร้อยมาลัย...ด้วยใจภักดิ์ เพื่อทอถักเป็นสายใย...ไปชั่วกาล

โอ้ชีวิต ต้องใช้ไลน์ ในตอนแก่ สุดจะแย่แก้ไม่หายไลน์ไม่ห่าง

ก่อนจะหลับต้องส่งไลน์จึงได้วาง อยู่ข้างๆ ไม่ห่างไลน์ให้ไกลตา

พอตื่นมาก็คว้าไลน์มาไล่อ่าน ใครส่งสาส์นอ่านแล้วไลน์กลับไปหา

ถ้าไม่มีมันน่าเศร้าเปล่าอุรา ไลน์ไม่มาหน้าไม่ล้างช่างหัวมัน

ไลน์ตอนแก่ แย่หน่อยไม่มีแว่น มองหาแป้นรีบพิมพ์จิ้มจนสั่น

อยากจะแอ๊พทำไม่ถูกถามลูกมัน จิ้มผิดถูกก็จิ้มกันมันจุงเลย...”

ไลน์ (Line) เป็นแอพพลิเคชั่นการสนทนา (Chat Application) ของบริษัทมหาชนที่ชื่อเนเวอร์ (Naver) ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตของเกาหลีใต้ ก่อตั้งเมื่อปี 1999 โดยเปิดเป็นพอร์ทัลค้นหาชื่อ Naver (www.naver.com) และมี Naver Junior (jr.naver.com) ตามมา พร้อมกับมีเกมคอมพิวเตอร์ชื่อ Hangame

ในปี 2000 ได้ควบรวมกิจการ Hangame กับ One-Cue และเข้าซื้อกิจการ Search Solutions และก่อตั้ง Hangame ญี่ปุ่น พอมาปี 2001 ก็เปลี่ยนชื่อเป็น NHN (Next Human Network) และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาด KOSDAQ ของเกาหลีในปี 2002

พอปี 2003 เปลี่ยนชื่อ Hangame ญี่ปุ่น เป็น NHN Japan

มูลค่าบริษัทได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของตลาด KOSDAQ ในปี 2004 และในปี 2005 ก็ตั้งเว็บบริจาคออนไลน์ชื่อ Happybean ตั้ง NHN สหรัฐ และตั้งบริษัทบริการอินเทอร์เน็ตชื่อ NHN Services

ปี 2007 ตั้ง Naver ญี่ปุ่น ถัดมาในปี 2008 ก็ตั้ง NHN ไต้หวัน และย้ายจาก KOSDAQ เข้าไปซื้อขายในตลาดหลัก และได้เข้าดัชนี KOSPI (Korea Composite Stock Price Index)

หลังจากนั้นมีการซื้อเว็บไซต์อื่น และมีการตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารทรัพย์สินและเงินร่วมลงทุนหรือ Venture Capital รวมถึงตั้งมูลนิธิขึ้นมาช่วยดำเนินกิจการเพื่อสังคม

ปี 2012 เป็นปีที่บริษัทขยายกิจการไปต่างประเทศมากขึ้น โดยตั้งบริษัท Line สิงคโปร์ และในปี 2013 คือปีที่แล้ว ก็เปลี่ยนชื่อ NHN Japan เป็น Line Corp และแยกบริษัทลูกที่ทำเกม NHN Entertainment หรือชื่อเดิมคือ Hangame ออกไปจาก Naver Corp

บริษัทได้รับรางวัลมากมายในประเทศเกาหลีใต้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า การให้รางวัลในประเทศก็เป็นกำลังใจผลักดันให้กิจการของประเทศนั้นๆ สามารถไปเติบใหญ่และขยายไปประเทศอื่นๆ ได้ค่ะ ดิฉันยังไม่เห็นรางวัลจากประเทศอื่น แต่เห็นได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทที่น่าจับตามองหนึ่งใน 50 บริษัทในนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ในปี 2009

ในปี 2013 ธุรกิจของบริษัทอยู่ในเกาหลี 69% และอยู่ในต่างประเทศ 31% แอพพลิเคชั่น ไลน์ นั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทค่ะ และเป็นส่วนที่ทำให้บริษัทโด่งดังและเติบโตมากที่สุด บริษัทประมาณว่ามีผู้ใช้ไลน์ทั้งหมดมากกว่า 490 ล้านบัญชี อยู่ในญี่ปุ่นมากกว่า 52 ล้าน อินโดนีเซีย มากกว่า 30 ล้าน และอันดับสามคือประเทศไทย มีผู้ใช้มากกว่า 29 ล้านบัญชี ถัดไปเป็นอินเดีย 18 ล้าน ไต้หวัน 17 ล้าน เม็กซิโก 15 ล้าน เกาหลีใต้ 14 ล้าน โคลัมเบีย 11 ล้าน สหรัฐและมาเลเซีย ประเทศละมากกว่า 10 ล้านบัญชี

รายได้ของบริษัทมาจากโฆษณา 72.3% จาก content 24.1% และรายได้อื่นๆ 3.6%

ณ สิ้นปี 2013 หุ้นของบริษัทเนเวอร์มีต่างชาติถืออยู่ถึง 57.7% ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิม ถือเพียง 9.2% เท่านั้น และมีกองทุนบำนาญแห่งชาติถืออยู่ 8% สถาบันในประเทศถืออยู่ 11% และบริษัทซื้อหุ้นคืนในลักษณะ treasury stock อีก 9.6% ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เป็นบุคคล ถือเพียง 4.3% เท่านั้นค่ะ

จากงบการเงินรวมล่าสุดที่ประกาศเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ใน 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมียอดขาย 2.011 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 28.3% และมีกำไรสุทธิ 323,836 ล้านวอน ลดลง 82.6%จากปีที่แล้ว สาเหตุจากการที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น (ปีที่แล้วมีกำไรสูงเป็นพิเศษ) อย่างไรก็ดี กิจการของบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 16% และอัตราส่วนกำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 29%หากประมาณว่ากำไรในไตรมาสที่สี่ใกล้เคียงกับสามไตรมาสที่ผ่านมา ณ ราคาหุ้นที่ 750,000 วอน จะมีค่า P/E ที่ 57 เท่าค่ะ

ธุรกิจไลน์ เป็นธุรกิจที่โดดเด่นที่สุดของเนเวอร์ในปัจจุบัน ในไตรมาสที่ 3 ทำเงินได้ถึง 208,500 ล้านวอน เพิ่มขึ้น 57% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเอาบริษัทไลน์เข้าจดทะเบียนซื้อขายในญี่ปุ่น หรือสหรัฐ หรืออาจจะทั้งสองแห่งพร้อมกัน แต่ขอเลื่อนออกไปก่อน

ดูแล้วบริษัทลูกน่าสนใจกว่าบริษัทแม่ค่ะ ถ้าออกเสนอขายคงจะร้อนแรงน่าดู

หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ได้เป็นการเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำกรณีตัวอย่างมาเล่า และขอเตือนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน