สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

Digital Advertising กำลังไปทางไหน?

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์



35E87-9097E-BBD9E-BCDD4-BD737 ย่างก้าวเข้าสู่ช่วงท้ายปี เอเยนซีหลายๆสำนัก รวมถึงสื่อต่างๆในแวดวงดิจิทัล

ต่างพากันคลอด Research หรือ คำทำนายเทรนด์ต่างๆ ที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2015 กันยกใหญ่ อ่านกันไม่หวาดไม่ไหว

บ้างก็ว่า Mobile Marketing มาแน่, Content Marketing จะเป็นหัวใจสำคัญ, Facebook เริ่มถอย , ฯลฯ

ก็ว่ากันไป ตามข้อมูลที่มีอยู่ของตน

ในฐานะ Digital Marketer ที่อยู่ในวงการมานาน จนปริมาณเส้นผมบนศรีษะน้อยลงจนเห็นได้ชัด “โซวบักท้ง” จึงอยากทำนาย "ดิจิทัลเทรนด์" ปี 2015 กับเค้าบาง เป็นทำนายสไตล์ Minimalist ที่เรียบง่าย ทรงพลังและชัดเจน ด้วยคำง่ายๆ เพียงสองคำครับ!

“ไม่รู้ !!” ฮ่าๆๆๆ (ดีใจที่กวนสำเร็จ)

แต่!! ความจริงแล้ว ผมไม่รู้จริงๆ เนื่องด้วยดิจิทัลเทรนด์ มันเกิดขึ้นเร็วมาก และก็ไปเร็วมากด้วย หลายครั้งหลายหน ที่ผมเห็นดิจิทัลเทรนด์ เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่สั้นอย่างเหลือเชื่อ ดังนั้นการมาทำนายเทรนด์แบบสั้นๆ ชนิดปีต่อปี หรือดูแค่ปี 2015 จึงเป็นสิ่งที่ทำนายได้ยากอย่างยิ่งยวด

ถ้าจะให้ทำนายจริงๆ ….. ข้าน้อย โซวบักท้ง ต้องขอบอกว่า "มิกล้าๆ"

แต่ถ้าเรามาเปลี่ยนคำถามกันใหม่ จาก "ดิจิทัลเทรนด์ 2015 คือ อะไร" มาเป็น "ปลายทางแล้ว โฆษณาดิจิทัล กำลังเดินไปทางไหน?" อันนี้ โซวบักท้งยังพอจะมโนขึ้นมาได้

ผมขอเรียกเส้นทางที่ผม มโน ขึ้นมาว่า Performance Based Advertising นะครับ หรือจะเรียกแบบไทยๆว่า "โฆษณาที่วัดผลได้"

ปัจจัยสาเหตุที่พวกเรากำลังเดินทางไปสู่ยุค Performance Based Adverting มีอยู่หลายเรื่องด้วยครับ เช่น

ความสามารถของสื่อดิจิทัล ที่ทำได้มากกว่าแค่ Awareness …. คือ "ดิจิทัล" สามารถทำได้ตั้งแต่ Awareness (สร้างการรับรู้ ) , Engage (สร้างปฎิสัมพันธ์) , Evaluate (ให้ข้อมูลสินค้า/ บริการ แก่ลูกค้า) ไปกระทั่ง Sale (ขาย) หรือแม้กระทั่ง CRM

(รักษาสายสัมพันธ์ )

พฤติกรรมของคน ในชีวิตประจำวัน ที่เชื่อมต่อกับดิจิทัล โยงไยเป็นเครือข่าย ชนิดแกะกันไม่ออก

เทรนด์ของ E-commerce ที่นับวันยิ่งจะเติบโตไปเรื่อยๆ (ลองหลับตาจินตนาการถึงอนาคตดูครับ ที่ข้าวของ เครื่องใช้ เราซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซเกือบทั้งหมด)

ด้วยปัจจัยหลายๆ ด้านที่กล่าวมา เราจึง Step เข้าไปสู่ยุคของ Performance Based Adverting คือ การทำโฆษณาที่วัดผลกัน ตั้งแต่ต้นน้ำ ยัน ปลายน้ำ

เช่น ทำโฆษณาแล้ว มีคนเห็นเท่าไหร่? มีคนสนใจกี่คน? หลังจากสนใจแล้ว มีการค้นหาข้อมูลที่ไหน ? อย่างไร? เรื่องอะไรที่คนสนใจที่สุด? นำไปสู่การซื้อขายกี่คน? เป็นยอดเงินทั้งหมดเท่าไหร่? กำไรกี่บาท? และหลังจากซื้อแล้วมีความพึงพอใจระดับไหน? หรือแม้กระทั่งเค้าไปบอกต่อให้เพื่อนซื้อสินค้ากี่คน?

ทั้งหมดที่ผมพูดนี้ ดิจิทัล Track ได้หมดเลย!!! และที่สำคัญ Track ได้ละเอียด และมากกว่าที่ผมพูดข้างต้น หลายเท่า!!

ลองจินตนาการดูสิครับ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอันนี้ จะเปลี่ยนแปลงวงการโฆษณาขนาดไหน? ทุกวันนี้ ธุรกิจโฆษณาขับเคลื่อนกันด้วย ผลงานที่ผ่านมา หรือ Award กันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคนไหนเคยมีโอกาสได้เข้าไปสำนักงานของเอเยนซีใหญ่ๆ เราจะพบเห็นถ้วยรางวัลเรียงราย เป็นเกียรติยศ รวมถึงเป็นหลักฐานบ่งบอกของความเก่งกาจของเอเยนซีนั้นๆ แน่นอนครับ เอเยนซีไหนดังๆ รางวัลเยอะๆ ราคาค่าคิดโฆษณาก็จะแพงขึ้นไปด้วยเป็นเงาตามตัว

คุณกำลังจะใช้ Creative ระดับมือรางวัล ทำงานนี่นา ก็ต้องแพงเป็นธรรมดา

แต่เมื่อวันที่ Performance Based Adverting มาถึง บางทีรางวัลเหล่านี้ อาจไม่ใช่เครื่องมือชี้วัดความสามารถเอเยนซีอีกต่อไป เวลาเราจะคุยงานกับเอเยนซี่ เราอาจคุยกันเรื่อง Performance ไปเลย เช่น ถ้าเลือกเอเยนซีของผมทำงานให้ ผมขอส่วนแบ่งจากยอดขายเลย 30%! ในเมื่อทุกอย่างมันสามารถวัดผลได้หมด

ดังนั้นในการทำงานโฆษณา ก็น่าจะไปมองกันที่ปลายทาง นั่นก็คือ ยอดขายกันไปเลย!

ถ้าคุณเก่งจริง ก็เอายอดขายที่แทรกได้จากผลงานของคุณไป

เขียนมาถึงตรงนี้ ทำให้นึกถึงสุดยอดปรมาจารย์ ของวงการโฆษณา David Ogilvy ขึ้นมาเลย David Ogilvy เคยพูดประโยคClassic ก้องโลกเอาไว้ว่า “if it doesn't sell, it isn't creative”

“ถ้ามันขายไม่ได้ มันก็ไม่เรียกว่า Creative หรอก” พูดเอาไว้เมื่อ 100 ปีที่แล้ว!!

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เขียนขึ้นทั้งหมดนี้ คือ การมโนขึ้นมาเองนะครับ Performance Based Adverting จะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรนั้น ขอให้จับตาดูกันต่อไป


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : Digital Advertising กำลังไปทางไหน

view