จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย เมตตา ทับทิม

ไตรมาส 2/58 ใกล้จบเต็มที ปัญหาปากท้องประชาชนยันผู้ประกอบการทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันทำไมเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นสักที

แพลนนิ่ง (Planning) ของรัฐบาล คสช. มีหลายต่อหลายโครงการที่เป็นความหวังกระตุ้นกำลังซื้อ-กำลังใจให้ดีขึ้น ถึงแม้ตอนนี้ยังมีสถานะเป็น "แพลน" แล้ว "นิ่ง" ก็ตาม

เราได้ยินได้ฟังรัฐบาลพูดมาเยอะ ลองฟังภาคเอกชนดูบ้าง คัดหัวข้อชวนคุยว่าด้วยเมกะโปรเจ็กต์ทั้งรถไฟทางคู่ มินิไฮสปีดเทรน (ความเร็ว 180 กม./ชม.) ที่จะตัดเส้นทางใหม่ไขว้เป็นกากบาท หนึ่งเส้นมาจากเหนือ-ใต้ อีกหนึ่งเส้นมาจากตะวันออก-ตะวันตก

รวมทั้งโปรเจ็กต์ไฮไลต์ว่าด้วย "เขตเศรษฐกิจพิเศษ" ริมตะเข็บจังหวัดชายแดนทั่วไทย

แขกรับเชิญคนแรก "ฮิเดกิ นิชิคามิ" ผู้อำนวยการและผู้บริหารอาวุโส มิตซูบิชิ เรสซิเดนซ์ ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่ร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่กับค่ายเอพี (ไทยแลนด์) ของไทย

คุณฮิเดกิบอกว่า นโยบายร่วมทุนของมิตซูบิชิ เอสเตท ในภูมิภาคอาเซียน ให้ความสำคัญไทยเป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ ที่เหลือก็มีเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ล่าสุดกำลังจะเข้าเมียนมา

ถึงแม้การทำสัญญาร่วมทุนจะเป็นแบบปีต่อปี และเพิ่งจะร่วมทุนในเมืองไทยได้เพียงปีเดียว แต่มุมคิดของเขาก็คือถ้าจะลงทุนประเทศไหนจะต้องมีศักยภาพในการลงทุนระยะยาวได้ นั่นคือมองบวกว่าภาคอสังหาฯของไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เป้าหมาย 5 ปีหน้าลงทุนมูลค่าโครงการเฉลี่ยปีละ 2 หมื่นล้าน บวกกันก็จะได้ตัวเลขรวม 1 แสนล้านบาท ตัวเลขขนาดนี้ต้องบอกว่ามาเต็มตัวแล้วแหละ

น่าสนใจว่า มิตซูบิชิ เอสเตท มีทีท่า "เวต แอนด์ ซี" สำหรับเมกะโปรเจ็กต์ทางคู่-มินิไฮสปีดเทรน หรือแม้แต่เขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลไทย ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการเข้ามาร่วมทุนครั้งนี้ต้องการทำคอนโดมิเนียมขายให้กับลูกค้าคนไทยเป็นหลัก ในขณะที่โอกาสทางธุรกิจของภาคอสังหาฯจากเมกะโปรเจ็กต์ มองว่าน่าจะรองรับลูกค้าต่างชาติมากกว่า

ดังนั้น แผนร่วมทุนของญี่ปุ่นจึงโฟกัสพื้นที่อยู่ในเขตใจกลางกรุงเทพฯ ในขณะที่บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จะไปลงทุนต่างจังหวัดก็แยกกันทำ ไม่เกี่ยวกัน

อีกคน "สุวรรณา พุทธประสาท" กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ ควอลิตี้เฮ้าส์ เปิดมุมมองให้ฟังว่า ถ้าถามนักพัฒนาที่ดิน การเปิดเออีซี (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ความเร้าใจแทบไม่ต่างกัน เพราะราคาอสังหาฯใน 10 ประเทศอาเซียน แพงหูฉี่เหมือนกันหมด

กลยุทธ์คิวเฮ้าส์จึงเลือกที่จะปักหมุดตั้งรับในเขตประเทศไทย เพื่อดักดีมานด์ที่จะเกิดขึ้นจากการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน เพียงแต่ตอนนี้อย่าถามถึงโอกาสที่จะบูมเปรี้ยงปร้าง เพราะอานิสงส์ลึก ๆ จากการเปิดเออีซี มองว่ามีเพียง 2 เรื่องคือแรงงานต่างชาติ กับการท่องเที่ยว โจทย์พัฒนาเศรษฐกิจจึงย้อนกลับมาตั้งต้นที่โครงสร้างพื้นฐาน เพราะเปรียบเทียบกับมิตรประเทศในอาเซียน ไทยยังด้อยอยู่หลายขลุม

และอีกคน "ทักษะ บุษยโภคะ" ประธานกรรมการบริหาร โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป เป็นทั้งผู้ก่อตั้งและผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน-บ้าน-ชุดครัว

พี่ทักษะส่งเสียงเชียร์อย่างเต็มที่สำหรับโครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เหตุผลเพราะกำลังจะลงทุนก้อนโตกับพันธมิตร "อิโตกิ" ยักษ์ใหญ่ท็อป 3 ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เหล็กจากญี่ปุ่น เมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งจะย่องไปดูนิคมอุตสาหกรรมใกล้กรุงย่างกุ้ง โอ้โห ค่าเช่าไร่ละ 4 ล้านบาท แลกกับสิทธิการเช่า 50 ปี เปรียบเทียบกับเขตเศรษฐกิจในบ้านเรา ค่าเช่าเริ่มต้นไร่ละ 1 แสนกว่า ๆ

เพียงแต่ยังมีเสียงบ่นอ้อมแอ้มเรื่องจะเปิดบริการปี 2560 น่าจะช้าไป เกรงว่าจะไม่ทันกิน รวมทั้งอยากให้รัฐบาลช่วยดูเรื่องลงทุนระบบโลจิสติกส์ให้เข้าฝักกว่านี้

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน