สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

จีนตัดสินจำคุกตลอดชีพ โจวหย่งคัง อดีตนายใหญ่ความมั่นคง ข้อหาทุจริต

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

        รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - จีนตัดสินคดี โจว หย่งคัง อดีตผู้คุมงานด้านความมั่นคงภายในประเทศอันทรงอำนาจยิ่ง ด้วยการลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและยึดทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดของเขาเมื่อวัน พฤหัสบดี (11 มิ.ย.) โดยระบุว่าเขามีความผิดทั้งในข้อหารับสินบน, การเปิดเผยความลับของรัฐ, และการใช้อำนาจโดยมิชอบ ถือเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของปักกิ่งที่ถูกเล่นงานอีกทั้งเป็น กรณีทุจริตอันอื้อฉาวที่สุดของแดนมังกรในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
       
       โจว ซึ่งปัจจุบันอายุ 72 ปี ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาลของเมืองเทียนจิน (เทียนสิน) มหานครทางภาคเหนือซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และหลังถูกตัดสินในวันพฤหัสบดี (11) เขาแถลงยอมรับความผิดและตัดสินใจไม่อุทธรณ์ สื่อของทางการจีนรายงาน
       
       ในฐานะที่เป็นอดีตสมาชิกคนหนึ่งขององค์กรทรงอำนาจที่สุดของพรรค คอมมิวนิสต์จีน ซึ่งก็คือคณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรค การที่เขาถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษ จีงทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดที่ตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตอื้อ ฉาวของแดนมังกรนับตั้งแต่พรรคขึ้นครองอำนาจปกครองประเทศในปี 1949 และก็เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดซึ่งถูกเล่นงานนับแต่พวก “แก๊ง 4 คน” ที่ถูกประณามว่าสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม
       
       ขณะที่การตัดสินใจให้เดินหน้าดำเนินคดีกับ โจว ก็เป็นการตอกย้ำคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ว่าจะต้องต่อสู้ปราบปรามการคอร์รัปชั่นตั้งแต่ระดับสูงสุด
       
       ในคลิปวิดีโอข่าวซึ่งสถานีโทรทัศน์ของรัฐนำมาเสนอในรายการข่าวภาคค่ำ ช่วงไพรม์ไทม์วันพฤหัสบดี โจว ซึ่งเส้นผมที่เคยดกดำเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน และหน้าตาไม่มีร่องรอยของความดุดันทรงอำนาจอีกแล้ว แถลงต่อศาลว่า “ผมขอน้อมรับคำตัดสินของศาล และผมไม่ขออุทธรณ์”
       
       “ผมยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่าผมได้ละเมิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อพรรค ผมขอน้อมรับอีกครั้งในความผิดที่ผมกระทำ และผมรู้สึกสำนึกในความผิดของตนเองแล้ว” โจว ซึ่งไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นในที่สาธารณะมานับแต่เดือนตุลาคม 2013 แถลงต่อ
       
       แหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งมีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า พวกเจ้าหน้าที่ซึ่งอารักขาควบคุมตัวโจว นั้นเป็นทหาร แทนที่จะเป็นกำลังตำรวจสันติราษฎร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา
       
       “ระหว่างการสอบสวนเขาให้ความร่วมมือดี” แหล่งข่าวรายนี้กล่าวโดยขอให้สงวนนาม “เขาแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ดี”
       
       ในการสั่งสอบสวนดำเนินคดีโจวคราวนี้ เห็นกันว่าเท่ากับ สี ได้ทำลายความเข้าใจประการหนึ่งที่มิได้เขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรในหมู่ สมาชิกของคณะกรรมการประจำกรมการเมือง ที่ว่าพวกเขาจะไม่ถูกไต่สวนเช่นนี้หลังจากเกษียณอายุแล้ว
       
       ตามเอกสารคำฟ้องร้องเบื้องต้น โจวถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายสิบปี ตั้งแต่ที่เขาเป็นรองผู้จัดการใหญ่ของบรรษัทน้ำมันปิโตรเลียมแห่งชาติของจีน (ซีเอ็นพีซี) และในตำแหน่งต่างๆ ที่เขาได้รับเลือกเลื่อนสูงขึ้นไปตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็น เลขาธิการพรรคสาขามณฑลเสฉวน, รัฐมนตรีกระทรวงตำรวจสันติราษฎร์, และสมาชิกในคณะกรรมการประจำกรมการเมือง ซึ่งเขาได้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงภายในประเทศ
       
       ระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้พบว่า ภรรยาและบุตรชายของโจว ซึ่งให้การผ่านทางวิดีโอลิงก์ ได้รับสินบนทั้งที่เป็นตัวเงินและทรัพย์สินรวมเป็นมูลค่า 129 ล้านหยวน (ราว 645 ล้านบาท) และจากนั้นจึงแจ้งให้โจวทราบ
       
       เจียง เจี่ยหมิน อดีตผู้บริหารสูงสุดของบรรษัทซีเอ็นพีซี ก็ได้ให้ปากคำเช่นกัน ตัวเจียงผู้นี้ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยคนสนิทของโจว ได้ถูกพิจารณาคดีด้วยข้อหาคอร์รัปชั่นตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทว่ายังไม่ได้ถูกตัดสิน
       
       ศาลพบว่า เจียง ตลอดจน หลี่ ชุนเฉิง อดีตรองเลขาธิการพรรคสาขาเสฉวน ได้รับแจ้งจาก โจว ให้คอยช่วยเหลือในกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับเงินกำไรอย่างผิดกฎหมายราว 2,140 ล้านหยวน (ประมาณ 10,700 ล้านบาท)
       
       นอกจากนั้น ศาลพบว่า เขาได้ส่ง “เอกสารลับที่สุด” จำนวน 5 รายการให้แก่บุคคลที่มีนามว่า เฉา หย่งเซิง โดยที่สื่อหลายๆ แห่งเคยรายงานว่า เฉาผู้นี้เป็นหมอดูและเป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ลี้ลับของจีนที่รู้จักกัน ในนาม “ชี่กง”
       
       ทางการจีนเคยแถลงไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะให้การพิจารณาคดีโจวนี้กระทำกันอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการดำเนินการกันจริงๆ ก็กลับเป็นการพิจารณาคดีเป็นการภายใน โดยที่เอกสารของศาลระบุว่า สืบเนื่องจากข้อหาเรื่องการเผยแพร่ความลับของรัฐ
       
       โจวถูกตัดสินโทษหนักที่สุดจากข้อหารับสินบน และได้รับโทษเบาลงมาในความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบและเผยแพร่ความลับของรัฐ แต่ศาลให้รับโทษในทุกความผิดพร้อมๆ กันไป
       
       ทั้งนี้ สิ่งที่ศาลค้นพบเหล่านี้ปรากฏอยู่ในคำแถลงสรุปคดีของศาลซึ่งมีความยาวราว 1 หน้าครึ่งและได้รับการเผยแพร่โดยสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน คำแถลงสรุปนี้ให้รายละเอียดเพียงสั้นๆ แต่น่าตื่นใจของการไต่สวนพิจารณาคดีคราวนี้
       
       แหล่งข่าวหลายรายซึ่งมีสายสัมพันธ์อยู่กับคณะผู้นำจีน ได้เคยบอกกับรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่า สี จิ้นผิง มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะโค่น โจว ลงให้ได้ สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาที่ว่า โจว ได้วางแผนจัดการพบปะคบคิดกันหลายต่อหลายครั้ง เพื่อพยายามรักษาอิทธิพลเอาไว้ ในช่วงก่อนหน้าการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศครั้งที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 โดยในการประชุมคราวนั้นเอง โจว เกษียณอายุออกจากตำแหน่งไปพร้อมๆ กับคณะผู้นำในรุ่นของเลขาธิการใหญ่ หู จิ่นเทา และ สี ก้าวขึ้นมาเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคแทนที่
       
       แหล่งข่าวเหล่านี้ระบุว่า ในตอนนั้นโจวได้สั่งการให้แอบดักฟังโทรศัพท์ของพวกผู้นำระดับท็อปทั้งหลาย


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : จีนตัดสิน จำคุกตลอดชีพ โจวหย่งคัง อดีตนายใหญ่ความมั่นคง ข้อหาทุจริต

view