สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดรายงาน ซูเปอร์บอร์ด ชำแหละกสทช ทำงานล้มเหลว

จาก โพสต์ทูเดย์

เผยรายงานซูเปอร์บอร์ด ชำแหละ "กสทช." ทำงานติดลบแทบทุกด้าน ด้าน กสทช. แจงคนรับชมทีวีดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีวาระพิจารณารายงานการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานกสทช. ประจำปี 2557 ของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของกสทช. (กตป.) ทีมีพล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ เป็นประธาน พร้อมข้อชี้แจงต่อรายงานการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานกสทช. ประจำปี 2557ของกสทช. ตามมาตรา 72 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553

ทั้งนี้ ในรายงานดังกล่าวเป็นการให้ความเห็นถึงการทำงานของกสทช.ตลอดปี 2557 ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดแต่ละด้านดังนี้

1.ด้านกิจการวิทยุกระจายเสียง กสทช.ควรให้ความสำคัญกับการอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง รวมถึงการแก้ไขปัญหาคลื่นความถี่ที่มีการรบกวน โดยเฉพาะการรบกวนวิทยุการบิน และรบกวนระหว่างวิทยุกระจายเสียง นอกจากนี้ควรเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่การรับส่งสัญญาณวิทยุดิจิทัล

2.ด้านกิจการโทรทัศน์ กสทช.ควรให้ความสำคัญกับการติดตั้งและขยายโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล รวมทั้งกระบวนการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล นอกจากนี้ ควรมีการทบทวนประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปและประกาศกสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในการบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ซึ่งมีปัญหาข้อพิพาทในการปฏิบัติและบังคับใช้หลายประการ

3.ด้านกิจการโทรคมนาคม กสทช.ควรให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎเกณฑ์ โดยเฉพาะการดำเนินการตามประกาศกสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ การกำกับการประกอบกิจการตามเงื่อนไขกาอนุญาตคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (IMT) ย่ายความถี่ 2100 MHz

4.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กสทช.ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะด้านกิจการโทรคมนาคมที่มีเรื่องค้างเป็นจำนวนมาก

5.ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ กสทช.ควรให้ความสำคัญกับการจัดให้ภาคประชาชนได้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะในการประกอบกิจการบริการชุมชนไม่น้อยกว่า 20% ของคลื่นความถี่ การส่งเสริมได้รับสื่อ เข้าถึงสื่อและรู้เท่าทันสื่อของกลุ่มเด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นต้นอย่างเท่าเทียม รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวม การครองสิทธิ์ข้ามสื่อและการครอบงำกิจการให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

ขณะเดียวกัน ในรายงานฉบับยังได้มีการให้ความเห็นถึงการทำงานของกสทช.ในด้านที่เกี่ยวกับการติดตั้งและขยายโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลเป็นการเฉพาะด้วยว่า กสทช.ขาดการคาดการณ์ถึงความพร้อมและศักยภาพของผู้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายแต่ละราย โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อเครื่องส่งและอุปกรณ์ต่างๆ

อีกทั้งกสทช.เริ่มดำเนินการมาตรการเชิงรุกล่าช้า เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้รับใบอนุญาตเริ่มให้บริการโครงข่ายตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย2557 แต่กสทช.เริ่มแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณภาพโครงข่ายในเดือนพ.ย.2557 และลงพื้นที่ตรวจวัดสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างจริงจังในเดือนธ.ค.2557 ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งได้รับคูปองแล้วแต่ไม่สามารถรับชมโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลได้ นอกจากนี้บางโครงข่ายประสบปัญหาด้านการออกอากาศและคุณภาพสัญญาณ อาทิ ปัญหาภาพและเสียงไม่ตรงกัน ปัญหาโครงข่ายล่ม เป็นต้น ทำให้ประชาชนไม่สามารถรับชมรายการจากช่องรายการที่เช่าโครงข่ายที่มีปัญหาได้และผู้เช่าโครงข่ายได้รับผลกระทบจากการสูญเสียจำนวนผู้ชม

ส่วนเรื่องการแจกคูปองเพื่อเป็นส่วนลดซื้ออุปกรณ์รับชมโทรทัศน์ระบบดิจิทัลนั้นในรายงานฉบับนี้ระบุว่า การดำเนินการโดยรวมยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดในการขยายโครงข่ายโทรทัศน์ทีวีดิจิทัล ซึ่งทำให้สามารถแจกคูปองแก่ประชาชนได้ในบางพื้นที่เท่านั้น ขณะเดียวกัน การแจกคูปองสำเร็จไม่ได้เป็นตัวชี้วัดที่จะช่วยยืนยันความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านไปสู่โทรทัศน์ดิจิทัล เพราะมีผู้บริโภคหลายรายแลกคูปองแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่แลกไปอย่างแท้จริง ซึ่งเท่ากับว่ากสทช.สูญเสียงบประมาณไปโดยไม่จำเป็น

ขณะที่ คณะกรรมการกสทช.ได้จัดเอกสารชี้แจง โดยยืนยันว่าประชาชนรับชมโทรทัศน์ดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 10 เดือนหลังจากที่ได้แจกคูปองดิจิตอลทีวีให้ประชาชนเพื่อนำไปแลกกล่อง Set Top Box ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มการตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีรับชมทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผลประโยชน์ทางบวกต่อระบบเศรษฐกิจไทยในทางตรงและทางอ้อมเกิดขึ้นรวมเป็นมูลค่าเพิ่มทั้งสิ้น 6.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.3 % ของรายได้ประชาชาติ และมีความคุ้มค่าและส่งผลในทางบวกอย่างทวีคูณเมื่อเทียบกับเงินสนับสนุนเริ่มต้นประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

สำหรับเรื่องการแจกจ่ายคูปอง 22.9 ล้านครัวเรือน ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างน้อย 15,801 ล้านบาท โดยเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจภาคการค้าการลงทุนจากรายได้จำหน่ายกล่อง Set Top Box ทั้งสิ้นถึง 29,770 ล้านบาท ก่อให้เกิดรายได้เข้ารัฐจากภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% คิดเป็นเงิน 2,084 ล้านบาทโดยประมาณ

นอกจากนี้ ยังมีภาษีรายได้นิติบุคคลจากบริษัทจำหน่ายกล่อง Set Top Box ด้วย จะเห็นว่าการแจกคูปองก่อให้เกิดผลประโยชน์ทวีคูณต่อการอัตราการจ้างงานในหลายส่วนที่อยู่ในกระบวนการทั้งหมด และเป็นการเพิ่มเม็ดเงินในการบริโภคและการบริการได้อีกทางหนึ่ง

ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม
http://library.senate.go.th/document/mSubject/Ext41/41785_0001.PDF


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เปิดรายงาน ซูเปอร์บอร์ด ชำแหละกสทช ทำงานล้มเหลว

view