สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผงะ! ค่าโดยสารใหม่แท็กซี่สตาร์ทสูงสุด 50-100 บาท วัดดวง ประจิน เคาะ - รถใช้ได้แค่ 9 ปี

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ออกแล้วกฎกระทรวงคมนาคม! แท็กซี่กรุงเทพฯ มีลุ้นค่าโดยสารพุ่งสูงสุดสตาร์ทที่ 50 บาท ขับต่อกิโลละ 12 บาท รถติดนาทีละ 3 บาท ส่วนต่างจังหวัดโหดกว่า สตาร์ท 2 กิโลเมตร 100 บาท ไปต่อ กม.ละ 20 บาท รถติดนาทีละ 5 บาท ให้รัฐมนตรีมีอำนาจสั่งเมื่อไหร่ก็ได้ หลังมีผลใน 30 วัน ส่วนคนขับ-เจ้าของรถ เจอคุมเข้ม รถใหม่วิ่งได้แค่ 9 ปี หมดอายุต้องกระจกใส
       
       วานนี้ (29 ก.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่กฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคน โดยสารไม่เกินเจ็ดคน ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 (2) (3) และ (10) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2542 และมาตรา 5 (14) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2547 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
       
       ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
       
       ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียน ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 6 รถยนต์รับจ้างต้องไม่ติดตั้งระบบป้องกันการเปิดประตูรถจากภายในและกระจกกัน ลมทุกด้านต้องเป็นกระจกที่โปร่งใสสามารถมองเห็นสภาพภายในรถและสภาพการจราจร ภายนอกรถได้ชัดเจน และห้ามมิให้นําวัสดุอื่นใดมาติดหรือบังส่วนหนึ่งส่วนใดของกระจก เว้นแต่เป็นการติดเครื่องหมาย หรือเอกสาร ตามที่กฎหมายกําหนด หรือการติดวัสดุสําหรับบังหรือกรองแสงแดดที่กระจกกันลมด้านหน้าตามที่กรมการ ขนส่งทางบกประกาศกําหนด”
       
       ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 9 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียน ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 9 รถยนต์รับจ้างต้องมีและใช้เครื่องสื่อสารตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมตามแบบ หรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือเครื่องสื่อสารประเภทอื่น ที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ”
       
       ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 10 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียน ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550
       
       ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียน ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 14 รถยนต์รับจ้างตามกฎกระทรวงนี้ ให้มีอายุการใช้งานได้ไม่เกินเก้าปี นับแต่วันที่รถยนต์นั้นจดทะเบียนครั้งแรก ในกรณีที่รถยนต์รับจ้างครบอายุการใช้งานตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าของรถมีหน้าที่ส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถต่อนายทะเบียนและนําใบคู่มือ จดทะเบียนรถมาแสดงต่อนายทะเบียนเพื่อบันทึกหลักฐาน การระงับทะเบียนหรือเปลี่ยนประเภทรถภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ครบอายุการ ใช้งาน”
       
       ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 15 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียน ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 15 ให้รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสําหรับรถยนต์รับจ้าง และค่าบริการอื่น ดังต่อไปนี้ (1) ค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารให้กําหนดโดยถือเกณฑ์ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรกไม่เกิน 50 บาทและกิโลเมตรต่อๆ ไป ไม่เกินกิโลเมตรละ 12 บาท ในกรณีที่ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้ตามปกติวิสัยในอัตรานาทีละ ไม่เกิน 3 บาท (2) ค่าบริการอื่น ให้กําหนด ดังต่อไปนี้ (ก) กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ รับจ้างกําหนดได้ไม่เกิน 50 บาท (ข) กรณีการจ้างจากท่าอากาศยานหรือสถานที่ที่กระทรวงคมนาคมประกาศกําหนด โดยรถยนต์รับจ้างนั้นจอดรอคนโดยสารอยู่ในสถานที่ดังกล่าว ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะกําหนดได้ ไม่เกิน 100 บาท การกําหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา การเรียกเก็บค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารให้เรียกเก็บตามจํานวนเงินรวมที่แสดงไว้ ในมาตรค่าโดยสาร ส่วนในกรณีที่มีการเรียกเก็บค่าบริการอื่น ให้เรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสาร ดังกล่าว”
       
       ข้อ 7 รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้มีอายุ การใช้งาน ดังต่อไปนี้ (1) รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ให้มีอายุการใช้งานสิบสองปีนับแต่วันที่รถยนต์นั้นจดทะเบียนครั้งแรก (2) รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้มีอายุการใช้งานต่อไปได้จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560
       
       ให้ไว้ ณ วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
       
       นอกจากนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษายังได้ออกประกาศกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้าง บรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2558 โดยมีเนื้อหาที่แตกต่าง อาทิ ข้อ 3 ในกฎกระทรวงนี้ “รถยนต์รับจ้าง” หมายความว่า รถยนต์รับจ้างประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ข้อ 4 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับแก่รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอก จากกรุงเทพมหานคร
       
       ข้อ 5 รถยนต์รับจ้างต้องเป็นเก๋งสองตอน รถเก๋งสองตอนแวน รถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสองตอน รถยนต์นั่งสองตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน รถยนต์นั่งสามตอนแวน หรือรถลักษณะอื่นตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ ต้องมีประตูไม่น้อยกว่าสี่ประตู ความกว้างไม่เกิน 2.50 เมตร ความยาวไม่เกิน 6 เมตร ความสูงไม่เกิน 2 เมตรและเครื่องยนต์ต้องมีความจุของกระบอกสูบรวมกันไม่ต่่ำกว่า 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร ในกรณีที่รถยนต์รับจ้างเป็นรถยนต์นั่งสองตอน รถยนต์นั่งสองตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอนหรือรถยนต์นั่งสามตอนแวน เบาะนั่งต้องมีระยะห่างจากพื้นถึงส่วนบนสุดของเบาะนั่งไม่น้อยกว่า 25 เซนติเมตร และมีระยะห่างจากส่วนต่ำสุดของเบาะนั่งถึงเพดานไม่น้อยกว่า 85 เซนติเมตร
       
       ข้อ 7 รถยนต์รับจ้างอาจติดตั้งอุปกรณ์กั้นระหว่างที่นั่งผู้ขับรถกับคนโดยสารภายใน ห้องโดยสารก็ได้ในกรณีที่มีเหตุจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความ ปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้ขับรถหรือคนโดยสาร ให้นายทะเบียนมีอํานาจกําหนดให้รถยนต์รับจ้างตามข้อ 5 ประเภทใดต้องติดตั้งอุปกรณ์ตามวรรคหนึ่งได้ ทั้งนี้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาคุณลักษณะ วิธีการติดตั้ง และแบบของอุปกรณ์ตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกําหนดหรือให้ความเห็นชอบ
       
       ข้อ 8 รถยนต์รับจ้างต้องมีและใช้มาตรค่าโดยสาร โดยติดตั้งไว้ด้านซ้ายของผู้ขับรถมาตรค่าโดยสารตามวรรคหนึ่งต้องเป็นแบบหรือ ชนิดที่แสดงจํานวนเงินค่าโดยสารได้ตามอัตราระยะทาง และระยะเวลาที่กําหนดไว้ในข้อ 17 และได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก
       
       ข้อ 9 รถยนต์รับจ้างอาจมีและใช้เครื่องสื่อสารตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมตามแบบ หรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือเครื่องสื่อสารประเภทอื่นที่กรมการขนส่งทางบก ให้ความเห็นชอบก็ได้รถยนต์รับจ้างที่มีและใช้เครื่องสื่อสารตามวรรคหนึ่ง ต้องแสดงเครื่องหมายการใช้เครื่องสื่อสาร ณ ที่ที่คนโดยสารเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ ตามลักษณะ ขนาด และตําแหน่งตามที่นายทะเบียนประกาศกําหนด
       
       ข้อ 10 รถยนต์รับจ้างให้ใช้สี ดังต่อไปนี้ (1) รถยนต์รับจ้างของบุคคลธรรมดา ให้ใช้สีแดงและสีเหลืองเป็นสีของตัวถังรถ ดังต่อไปนี้ (ก) สีแดงให้เริ่มตั้งแต่ด้านล่างสุดของตัวถังรถจนถึงที่ปิดเปิดประตูเป็นแนว ขนานกับพื้นตลอดรอบตัวรถ (ข) สีเหลืองให้เริ่มถัดต่อจากสีแดงตาม (ก) จนถึงด้านบนของหลังคารถ (2) รถยนต์รับจ้างของนิติบุคคล ให้ใช้สีน้ำเงินและสีเหลืองเป็นสีของตัวถังรถ ดังต่อไปนี้ (ก) สีน้ำเงินให้เริ่มตั้งแต่ด้านล่างสุดของตัวถังรถจนถึงที่ปิดเปิดประตูเป็น แนวขนานกับพื้นตลอดรอบตัวรถ (ข) สีเหลืองให้เริ่มถัดต่อจากสีน้ำเงินตาม (ก) จนถึงด้านบนของหลังคารถ การแก้ไขทะเบียนเปลี่ยนประเภทรถยนต์รับจ้างเป็นรถยนต์ประเภทอื่นต้องเปลี่ยน สีของตัวถังรถ และต้องไม่มีลักษณะเหมือนกับที่กําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง
       
       ข้อ 11 รถยนต์รับจ้างต้องมีเครื่องหมายเป็นอักษรโรมันว่า “TAXI-METER” อยู่ภายในกรอบสีเหลือง ขนาดไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร × 15 เซนติเมตร ติดตรึงไว้แนวนอนบนหลังคารถ ให้เห็นได้จากทางหน้ารถ ตัวอักษรคําว่า “TAXI-METER” ให้ใช้สีดํามีขนาดสูงไม่น้อยกว่า 7 เซนติเมตรเส้นของตัวอักษรหนาไม่น้อยกว่า 1.20 เซนติเมตร และให้มีแสงไฟพร้อมด้วยกรอบที่บังคับแสงให้เห็นเครื่องหมายนี้ได้ชัดเจนใน เวลากลางคืน และเครื่องหมายอื่น ตามลักษณะ ขนาด และตําแหน่งตามระเบียบที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกําหนดการแก้ไขทะเบียน เปลี่ยนประเภทรถยนต์รับจ้างเป็นรถยนต์ประเภทอื่นต้องนําเครื่องหมาย ตามวรรคหนึ่งออก
       
       ข้อ 12 ในกรณีที่ผู้ขับรถยนต์รับจ้างไม่ประสงค์จะทําการรับจ้างบรรทุกคนโดยสารใน ช่วงระยะเวลาใด ให้แสดงเครื่องหมายงดรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไว้ที่หน้ารถด้านซ้ายของผู้ขับรถ โดยให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอกรถทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนของ ช่วงระยะเวลานั้นเครื่องหมายงดรับจ้างบรรทุกคนโดยสารตามวรรคหนึ่ง ต้องมีลักษณะเป็นแผ่นป้ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีพื้นสีขาวขนาดไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร × 22 เซนติเมตร และมีเส้นกรอบสีแดงหนาไม่น้อยกว่า 0.5 เซนติเมตร ตรงกลางมีตัวอักษรสีแดงคําว่า “งดรับจ้าง” ขนาดสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตรและเส้นของตัวอักษรหนาไม่น้อยกว่า 0.6 เซนติเมตร
       
       ข้อ 13 รถยนต์รับจ้างตามกฎกระทรวงนี้ ให้มีอายุการใช้งานได้ไม่เกินเก้าปีนับแต่วันที่รถยนต์นั้นจดทะเบียนครั้ง แรกในกรณีที่รถยนต์รับจ้างครบอายุการใช้งานตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าของรถมีหน้าที่ส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถต่อนายทะเบียนและนําใบคู่มือ จดทะเบียนรถมาแสดงต่อนายทะเบียนเพื่อบันทึกหลักฐานการระงับทะเบียนหรือ เปลี่ยนประเภทรถภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ครบอายุการใช้งาน
       
       ข้อ 14 ให้รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสําหรับรถยนต์รับจ้าง และค่าบริการอื่น ดังต่อไปนี้ (1) ค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารให้กําหนดโดยถือเกณฑ์ระยะทาง ๒ กิโลเมตรแรกไม่เกิน 100 บาท และกิโลเมตรต่อๆ ไป ไม่เกินกิโลเมตรละ 20 บาท ในกรณีที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ หรือเดินรถต่อไปได้ตามปกติวิสัยในอัตรานาทีละไม่เกิน 5 บาท (2) ค่าบริการอื่น ให้กําหนด ดังต่อไปนี้ (ก) กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ รับจ้าง กําหนดได้ไม่เกิน 50 บาท (ข) กรณีการจ้างจากท่าอากาศยานหรือสถานที่ที่กระทรวงคมนาคมประกาศกําหนด โดยรถยนต์รับจ้างนั้นจอดรถรอคนโดยสารอยู่ในสถานที่ดังกล่าว ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะกําหนดได้ไม่เกิน 150 บาท (ค) กรณีการจ้างในเวลากลางคืนตามที่กระทรวงคมนาคมประกาศกําหนด กําหนดได้ไม่เกิน 100 บาทการกําหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่นตามวรรคหนึ่งให้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา การเรียกเก็บค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารให้เรียกเก็บตามจํานวนเงินรวมที่แสดงไว้ ในมาตรค่าโดยสาร ส่วนในกรณีที่มีการเรียกเก็บค่าบริการอื่น ให้เรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสาร ดังกล่าว
       
       ข้อ 15 ให้เจ้าของรถยนต์รับจ้างติดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่นตาม ข้อ 14 ในรถ ณ ที่ที่คนโดยสารเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ ตามลักษณะ ขนาด และตําแหน่งที่นายทะเบียนประกาศกําหนด
       
       ข้อ 16 ให้รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้มีอายุการใช้งาน ดังต่อไปนี้ (1) รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2546 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ให้มีอายุการใช้งานสิบสองปีนับแต่วันที่รถยนต์นั้นจดทะเบียนครั้งแรก (2) รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้มีอายุการใช้งานต่อไปได้จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560
       
       ข้อ 17 กฎกระทรวงนี้มิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2537 เว้นแต่เจ้าของรถยนต์รับจ้างนั้นมีความประสงค์จะปฏิบัติตามข้อกําหนดในกฎ กระทรวงนี้ให้ยื่นคําขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างตามกฎกระทรวงนี้
       
       ข้อ 18 บรรดาประกาศ ระเบียบ หรือคําสั่งที่ออกตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ให้คงใช้บังคับต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้ จนกว่าจะมีประกาศ ระเบียบ หรือคําสั่งตามกฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ


ค่าแท็กซี่ยังไม่ขึ้น! ขนส่งแจงต้องรอ รมว.พิจารณา ประกาศกฎกระทรวงเสียก่อน ยัน 50 บาท แค่เพดานสูงสุดยังไม่ใช้จริง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ค่าแท็กซี่ยังไม่ขึ้น! ขนส่งแจงต้องรอ รมว.พิจารณา ประกาศกฎกระทรวงเสียก่อน ยัน 50 บาท แค่เพดานสูงสุดยังไม่ใช้จริง

        ASTVผู้จัดการ - กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงประกาศกฎกระทรวงเรื่องค่าแท็กซี่ล่าสุด เป็นแค่การปรับเพดานอัตราค่าโดยสารเฉพาะแท็กซี่ต่างจังหวัดเพิ่ม ไม่ใช่อัตราที่จะเก็บจริง เพราะต้องให้ รมว.คมนาคม พิจารณาอัตราที่เหมาะสมในแต่ละจังหวัดก่อน ส่วนกรณี กทม. เพดานสูงสุดเดิมอยู่ที่ 50 บาท อยู่แล้ว ซึ่งที่บังคับใช้อยู่ปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนแปลง
       
       จากกรณีที่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่กฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคน โดยสารไม่เกินเจ็ดคน ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 (2) (3) และ (10) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2542 และมาตรา 5 (14) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2547 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงไว้ ซึ่งสร้างความเข้าใจให้กับสื่อมวลชนและประชาชน ว่า กำลังจะมีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ ทำให้วันนี้ (31 ก.ค.) กรมการขนส่งทางบกได้ออกมาชี้แจงว่า การแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับรถแท็กซี่ เป็นเพียงการปรับเพดานอัตราค่าโดยสารเฉพาะรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนนอกเขต กทม. (ต่างจังหวัด ) เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราที่ใช้จริงในแต่ละจังหวัด ส่วนรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในเขต กทม. ยังคงใช้เพดานอัตราค่าโดยสารเดิม ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อค่าโดยสารในขณะนี้แต่อย่างใด
       
       นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีการประกาศ แก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (รถแท็กซี่) นั้น เป็นเพียงการประกาศปรับเพดานอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนนอก เขตกรุงเทพมหานคร (ต่างจังหวัด) ซึ่งเดิม 2 กิโลเมตรแรก ไม่เกิน 50 บาท เป็นไม่เกิน 100 บาท กิโลเมตรต่อไปจากเดิมกิโลเมตรละ 12 บาท เป็นกิโลเมตรละ 20 บาท กรณีรถติดเคลื่อนที่ไม่ได้ จากเดิมนาทีละไม่เกิน 3 บาท เป็นนาทีละไม่เกิน 5 บาท และหากเป็นการใช้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือเวลากลางคืนตามช่วงเวลาที่กระทรวงคมนาคมกำหนด ให้คิดค่าจ้างเพิ่มได้ไม่เกิน 100 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในช่วงเวลาที่ขาดแคลน หรือไม่มีรถแท็กซี่จะมาให้บริการ
       
       นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ปรับเพดานอัตราการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่จากท่าอากาศยาน หรือสถานที่ที่กระทรวงคมนาคมกำหนด จากเดิม 100 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 150 บาท ซึ่งการปรับเพดานอัตราค่าโดยสารทั้งหมดดังกล่าวยังไม่ใช่อัตราที่จะใช้จัด เก็บจริง โดยอัตราที่จะใช้จัดเก็บจริงนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะพิจารณากำหนดไม่เกินจากเพดานที่กฎกระทรวง บัญญัติตามสภาพความเหมาะสมในแต่ละจังหวัด ก่อนออกประกาศกระทรวงคมนาคมและลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้จริง ต่อไป
       
       นายจิรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใน เขตกรุงเทพมหานคร ยังคงใช้เพดานอัตราค่าโดยสารเดิม จึงไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อค่าโดยสารในปัจจุบัน ทั้งยังให้เรียกเก็บค่าบริการผ่านระบบสื่อสาร ในเพดานอัตราเดิม คือ สูงสุดไม่เกิน 50 บาท ทั้งนี้ ให้รวมถึงระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น การบริการผ่านแอปพลิเคชั่น หรือโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งเพดานอัตราสูงสุดดังกล่าวยังไม่ใช่อัตราที่จะใช้จัดเก็บจริง ยังคงต้องรอประกาศจากกระทรวงคมนาคมใช้อัตราจริงที่ไม่เกินจากเพดานดังกล่าว นอกจากนี้ กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวได้กำหนดให้รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2548 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2551 ให้สิ้นสุดอายุการใช้งานพร้อมกันในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าของรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในช่วงเวลาดัง กล่าว พร้อมทั้งมีการยกเลิกการติดตั้งระบบใช้ก๊าซธรรมชาติ ( NGV) โดยให้ใช้เชื้อเพลิงใดก็ได้ อีกทั้งกำหนดให้รถแท็กซี่ต้องไม่ติดตั้งระบบป้องกันการเปิดประตูจากภายในรถ (Child lock) เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารในการใช้บริการรถ แท็กซี่ด้วย


ค่าแท็กซี่ยังไม่ขึ้น! ขนส่งแจงต้องรอ รมว.พิจารณา ประกาศกฎกระทรวงเสียก่อน ยัน 50 บาท แค่เพดานสูงสุดยังไม่ใช้จริง


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ผงะ ค่าโดยสารใหม่แท็กซี่ สตาร์ทสูงสุด 50-100 บาท วัดดวง ประจิน เคาะ รถใช้ได้แค่ 9 ปี

view