จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
แฉ นสธ. รับงบ สสส. ไม่เกี่ยวงานสร้างเสริมสุขภาพ พบใช้ในโครงการด้านการเมือง ชัดเจน “โครงการทบทวนภูมิทัศน์การเมืองไทย” มี สสส. หนุน ด้านเว็บไซต์ นสธ. ปิดตัวหนี ลบข้อมูลทุกโครงการทิ้ง จับตานายกฯ ใช้ ม.44 ย้ายผู้จัดการ สสส. ซ้ำรอยเลขาธิการ สปสช.
จากกรณีที่มีการส่งต่อจดหมายเวียนทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งคาดว่าเป็นของ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ถึงบุคลากร สสส. โดยระบุถึงรายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาค รัฐ (คตร.) ที่ระบุว่า งานของ สสส. อยู่นอกขอบข่ายงานสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งจะมีการยื่นรายงานการตรวจสอบต่อนายกรัฐมนตรี ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีคำสั่งให้ สสส.หยุดทำงาน 3 เดือน โดยหยุดให้การสนับสนุนงบประมาณเครือข่าย สสส. ต่าง ๆ และอาจให้หน่วยงานด้านสุขภาพอื่น ๆ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้าไปตรวจสอบให้แล้วเสร็จ 3 เดือน จึงจะเดินหน้างาน สสส. ต่อไป
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า คตร. ได้เข้าตรวจสอบ สสส. อย่างละเอียด และพบถึงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานสร้างเสริมสุขภาพจำนวนมาก และเท่าที่ทราบคือ แผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.) หรือ TUHPP ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร (เอ็นจีโอ) เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีการรับงบประมาณจาก สสส. ในการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ซึ่งพบว่ากว่าครึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานสร้างเสริมสุขภาพ แต่เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับงานการเมืองเกือบทั้งหมด เช่น เรื่องปฏิรูปการเมือง การหาวิธีเลือกตั้งที่ดี สำรวจภูมิทัศน์การเมืองไทย เป็นต้น ซึ่งเดิมทีมีข้อมูลระบุอยู่ในเว็บไซต์ของ นสธ. แต่ขณะนี้พบว่ามีการลบข้อมูลทั้งหมดลงจากเว็บไซต์แล้ว ทั้งนี้ คาดว่ารายงานการตรวจสอบของ คตร. จะส่งถึงนายกรัฐมนตรีในเร็ว ๆ นี้ และคาดว่า หากนายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้คำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 จริง ทพ.กฤษดา อาจถูกสั่งย้ายเช่นเดียวกับกรณีของ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ถูกสั่งย้ายมาอยู่กระทรวงสาธารณสุข และอาจมีคำสั่งไม่ให้ สสส. ใช้เงินผิดประเภทอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์แผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.) www.tuhpp.net พบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวได้ปิดตัวลงไปแล้ว โดยหน้าเว็บไซต์กลายเป็นหน้าโฆษณาของ SRSplus ซึ่งเป็นบริษัทรับจดโดเมนแทน ขณะที่เฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อแผนงานนโยบายเสริมสร้างนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.) ซึ่งระบุว่าหน่วยงาน นสธ. สังกัดสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ (PPSI) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การทำงานมุ่งให้ความสำคัญแก่บทบาทของภาคีต่างๆ ในการพัฒนานโยบายสาธารณะ ประกอบด้วย ภาคีวิชาการเพื่อสร้างความรู้ ภาคีภาคประชาชนเพื่อสร้างการเรียนรู้ผ่านการสื่อสารสาธารณะ และภาคีการเมืองเพื่อสร้างความเข้าใจบนฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการออก กฎหมาย ในการดำเนินงานร่วมกันของสถาบันอุดมศึกษา จะเน้นประสานระหว่างภาคีหุ้นส่วนและภาคียุทธศาสตร์ ในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วนด้านเงินทุน (Matching fund) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนานโยบายสาธารณะที่ดี หรือเป็นหุ้นส่วนในการหนุนเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่ดี และใช้ทรัพยากรบุคคลและเงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลโครงการต่างๆ ของ นสธ.ผ่านเว็บไซต์กูเกิล พบมีหลายโครงการที่มี สสส. เข้าไปสนับสนุน เช่น ข้อ มูลในเว็บไซต์เครือข่ายเฝ้าระวังรักษาชายหาด ระบุข้อมูล 13 ก.ย. 2554 นสธ. ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. ได้จัดประชุมเพื่อนำเสนอโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ กรณีการใช้ประโยชน์หาดทรายและการอนุรักษ์ ที่ โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า สงขลา มี ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด ผู้อำนวยการ นสธ. เป็นประธานเปิดงาน ในเว็บไซต์ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัมนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) พบโครงการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพนักวิจัยนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมรุ่น ใหม่ จัดโดย นสธ. ทีดีอาร์ไอ ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. จัดวันที่ 21 - 24 ธ.ค. 2553 ส่วนเว็บไซต์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบ ข้อมูลงานสัมมนาประเทศไทยไม่เหมือนเดิม : การเสนอรายงานชุดโครงการวิจัย ทบทวนภูมิทัศน์การเมืองไทย ภายใต้การสนับสนุนของ นสธ. และ สสส. จัดงานวันที่ 28 ม.ค. 2557 ขณะที่เว็บไซต์มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มีข้อมูลโครงการการรวบรวมคดีสิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญของไทย (30 คดีดัง) จัดโดยมูลนิธินิติธรรมฯ ภายใต้การสนับสนุนของ นสธ. และ สสส.
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
