สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ชำแหละพฤติกรรม มนุษย์สเปโต ...รถคว่ำ-ฉกของกลับบ้าน

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...อินทรชัย พาณิชกุุล

เสียงโครมสนั่น รถบรรทุกพลิกคว่ำอยู่ริมทาง กล่องบรรจุเหล้าเบียร์ น้ำดื่ม น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊ว แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ยันกระดาษทิชชู่ อาหารกระป๋องกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดเต็มถนน เคราะห์ดีคนขับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ขณะกำลังประคับประคองร่างลุกขึ้นยืน ภาพเบื้องหน้าทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไทยมุงจำนวนนับสิบต่างยื้อแย่งหยิบฉวยสินค้าที่กองอยู่บนพื้นกันจ้าละหวั่น บ้างจอดรถเปิดไฟกะพริบวิ่งลงมาคว้าอะไรที่คว้าได้ติดมือกลับไปด้วย สีหน้าทุกคนตื่นเต้นดีใจราวถูกล็อตเตอรี

ไม่มีใครเข้ามาไถ่ถามอาการของเขาแม้แต่คนเดียว... 

คนไทยหรือเปล่า?

ข่าวคราวเกี่ยวกับพฤติกรรมเห็นแก่ตัวของไทยมุงประเภท "มือไว-ชอบฉก" ทุกครั้งที่มีรถบรรทุกประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความเอือมระอาให้เพื่อนร่วมชาติเป็นอย่างยิ่ง

11 ม.ค.55 รถกระบะบรรทุกแตงโมกว่า 3,000 กิโลกรัมจากตราดมุ่งหน้าสู่เมืองระยอง เกิดอุบัติเหตุยางแตกพลิกคว่ำ ชาวบ้านใกล้เคียงเฮโลกันมาเก็บแตงโมใส่ลังกลับบ้าน สุดท้ายเจ้าของประกาศแจกฟรีอย่างจำยอม

29 ส.ค.55 ขณะฝนตกลงมาอย่างหนัก รถบรรทุก 18 ล้อขนข้าวโพด 20 ตัน เสียหลักพลิกคว่ำบนถนนสายลำปาง - แจ้ห่ม จ.ลำปาง ชาวบ้านแห่นำถุง ภาชนะ รถเข็นเข้ามาขนฝักข้าวโพดหวาน ท่ามกลางสายตาเจ็บปวดของคนขับรถ

14 ต.ค.56 ที่จ.อุบลราชธานี รถสิบล้อพ่วงบรรทุกเบียร์กว่า 3 พันลังหักหลบรถเก๋งที่เลี้ยวตัดหน้าจนพลิกคว่ำ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เรื่องไม่คาดฝันคือ มีชาวบ้านที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาอาศัยจังหวะจอดรถแอบขนลังเบียร์กว่า 20 ลังกลับบ้านหน้าตาเฉย ถึงขั้นเจ้าหน้ากู้ภัยต้องนำสปอร์ตไลท์ส่องไล่ ใช้เวลานานกว่าค่อนคืนกว่าจะเคลียร์พื้นที่ได้สำเร็จ

9 พ.ค.57 รถพ่วงเทเลอร์บรรทุกสินค้าพุ่งชนรถปิกอัพบนถนนมิตรภาพอุดร-ขอนแก่น อ.กุมภวาปี มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้รถติดยาวเหยียด แต่ไม่น่าเชื่อว่าจำนวนกว่าครึ่งเป็นประชาชนที่วิ่งเข้ามาเก็บนมสดพาสเจอร์ไรซ์กลับบ้าน

27 ส.ค.57 รถบรรทุกขนปลาชนกับรถเก๋งบนถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน ประชาชนต่างเข้ามาขนปลานิลที่ตกเกลื่อนเก็บขึ้นรถอย่างไม่แคร์สายตาใคร ทั้งที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยประกาศออกโทรโข่งว่าเจ้าของปลายังเจ็บติดอยู่ในซากรถก็ยังไม่ยอมหยุด

เมื่อเร็วๆนี้ เหตุการณ์รถกระบะบรรทุกสินค้าประสบอุบัติเหตุบนทางด่วนบูรพาวิถี มีไทยมุงจอดรถฉกสินค้าที่ตกอยู่ขับออกไป ส่งผลให้มีสินค้าสูญหายหลายรายการ ทำเอาโชเฟอร์หนุ่มออกมาตำหนิด้วยเสียงสั่นเครือว่า คุณเป็นคนไทยด้วยกันหรือเปล่า?

"ผมได้รับความทุกข์อยู่แล้ว ทำไมต้องมาซ้ำเติมกัน สิ่งนึงที่เสียใจมากๆคือ รถที่ขับผ่านเห็นสินค้าตกบนถนน ต่างคนต่างเก็บขึ้นรถตนเอง มีทั้งกาแฟซองหายไปประมาณ 20ลัง น้ำยาปรับผ้านุ่ม และอื่นๆอีกมากมายที่ยังไม่สามารถระบุได้ อยากถามว่า คนที่เก็บสินค้าไปทำไมใจร้ายจัง ผมกำลังมีความทุกข์ มาทับถมทำไม กาแฟและสินค้าอื่นๆที่คุณเก็บไปต่อหน้าต่อตา คุณกินลงเหรอ"

มนุษยสเปโต 

พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า คนเหล่านี้เป็นคนชอบซ้ำเติมความทุกข์คนอื่น แทนที่จะมีเมตตาช่วยเหลือเจือจุนกัน

"ช่วงที่เขาตกทุกข์ได้ยาก แทนที่จะเข้าไปช่วยเหลือกลับไปซ้ำเติม คนอย่างนี้เป็นคนใจดำอำมหิต เห็นแก่ตัวมาก เขาเรียกว่า "มนุษย์สเปโต" หมายถึงมนุษย์เปรตๆ มีอารมณ์เหมือนเปรตเลยไปแย่งชิงของเขา พูดง่ายๆว่าคนพวกนี้พื้นฐานทางศีลธรรมต่ำ ความคิดก็เลยแล่นไปสู่ความอยากได้ หรือไม่ก็เพิกเฉย ยิ้มเยาะสมน้ำหน้า อยากเตือนสติว่า อย่าทำกับเพื่อนมนุษย์เหมือนผักเหมือนปลา ฉวยจังหวะหยิบนู่นหยิบนี่ ถ้ารักษาความเป็นคนไทยไม่ได้ก็ให้รักษาความเป็นมนุษย์กันหน่อยเถอะ"

พระนักเทศน์รายนี้ แนะนำให้แก้ด้วยศีลธรรม แต่ถ้าศีลธรรมเอาไม่อยู่ก็ต้องลงโทษด้วยกฎหมายอย่างเด็ดขาด

"ต้องแก้ด้วยศีลธรรม ปลูกฝังอบรมกัน ถ้าศีลธรรมเอาไม่อยู่ก็เอากฎหมายลงโทษมัน กฎหมายต้องเด็ดขาด ไม่ให้ซ้ำเติมความทุกข์ผู้อื่น แต่คนไทยมันแย่อยู่อย่างคือ ศีลธรรมก็ไม่เอา กฎหมายก็ไม่เอา มันเลยเป็นแบบนี้"

ไม่ได้ขาดสติแต่ขาดจิตสำนึก 

นพ.สุริยเดว  ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว วิเคราะห์พฤติกรรมไทยมุงมือไวไว้อย่างน่าสนใจว่า คนเหล่านี้ไม่ได้ขาดสติ แต่ขาดจิตสำนึก

"ถ้าอธิบายตามหลักจิตวิทยาคือ เวลาเราดูสมอง มีสมองส่วนอารมณ์กับสมองส่วนคิด หากมีความยับยั้งชั่งใจนั่นหมายความว่าสมองส่วนคิดกำลังทำงาน ซึ่งเวลาสมองส่วนคิดทำงานก็จะแตะเบรกความอยากได้อยากมีเอาไว้ และทำให้เรารู้สึกละอายใจ แต่หากอยู่ดีๆเราไปหยิบข้าวของของคนอื่นโดยไม่คิดเลยว่าผิดอะไร ทั้งที่ไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยา สติก็ใช่ว่าจะไม่สมประกอบ แบบนี้คือเห็นแก่ตัวและมีจิตสำนึกบกพร่อง คุณธรรมจริยธรรมมันเลยหายไป ความอายมันไม่เหลือแล้ว"

นพ.สุริเดวยกตัวอย่างเหตุการณ์สึนามิที่เมืองฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่นมาอธิบายว่า สถานการณ์ความสูญเสียครั้งนั้นทำให้คนเราเสียสติกันได้ง่ายๆ เพราะทุกคนล้วนโดนผลกระทบอย่างหนัก แต่จะเห็นได้ว่าคนญี่ปุ่นสามารถครองสติ ครองอารมณ์ได้เป็นอย่างดี นั่นเพราะว่าถูกปลูกฝังจิตสำนึกมาอย่างต่อเนื่อง

"แม้อยู่ในภาวะวิกฤต แต่เขายังสามารถเบรกอารมณ์และความอยากได้อยากมี เราจะเห็นการเข้าคิวต่อแถวเพื่อรับการตรวจสุขภาพ รับของแจก โดยหันไปมองดูข้างหลังด้วยว่าทุกคนได้ของกันหมดหรือยัง การปลูกฝังที่ทำให้เข้ากระแสเลือดลักษณะแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการท่องจำ เช่น ค่านิยม 12 ประการ ต้องมีพื้นที่ปฏิบัติ ต้องมีต้นแบบที่ดี หรือRole Model เช่นเดียวกับสังคมที่คนเหล่านั้นอาศัยอยู่ สภาพแวดล้อมของชุมชน ที่ทำงาน ครอบครัว เพื่อนฝูง มันต้องฝึกตั้งแต่ระดับวิถีชีวิต ไม่ใช่มาฝึกตอนเกิดวิกฤติ"

นักจิตวิทยาชื่อดังเสนอแนวทางให้ใช้มาตรการทางสังคมควบคู่กับมาตรการลงโทษทางกฎหมาย

"มาตรการลงโทษทางสังคมในที่นี้หมายถึง ชุมชนที่อาศัยอยู่ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตักเตือน ผู้ใหญ่ก็ควรทำให้เป็นแบบอย่างที่ดี ทำความดีให้กลายเป็นประเพณี ไม่ได้ความความว่าจะประจานลงเฟซบุ๊กให้อับอายขายขี้หน้า แบบนั้นไม่ช่วยอะไร หนำซ้ำยังทำให้ยิ่งแย่ลงไปอีก ขณะที่การดำเนินคดีทางกฎหมายก็ต้องทำคู่กันไป ลงโทษเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ เป็นตัวอย่างให้หลาบจำ"

ซ้ำเติม=โทษหนัก

วิรัช หวังปิติพาณิชย์ ทนายความ ให้ความเห็นว่า การลักขโมยของผู้อื่นมีความผิดฐานลักทรัพย์ แต่การลักขโมยในจังหวะที่เหยื่อกำลังประสบอุบัติเหตุ ในทางกฎหมายถือเป็นเหตุฉกรรจ์ มีโทษหนักกว่าลักทรัพย์ทั่วไป

"ปกติเวลาเราลักขโมยของผู้อื่นก็มีความผิดตาม มาตรา 334  ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท แต่กรณีที่เจ้าทุกข์กำลังประสบอุบัติเหตุ รถคว่ำ บาดเจ็บ หรือกำลังเดือดร้อน ถือว่าเป็นเหตุฉกรรจ์ มีความผิดหนักกว่า ตามมาตรา 335 ผู้ใดลักทรัพย์ (1) ในเวลากลางคืน (2) ในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุเหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใดๆ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี นั่นหมายความว่าศาลจะลงโทษถึง 5 ปีก็เป็นไปได้ ปรับสูงขึ้น 2,000-10,000 บาท เพราะลำพังลักขโมยธรรมดาก็แย่แล้ว แต่นี่ไปขโมยในเวลาที่เขากำลังเดือดร้อน ถือเป็นการซ้ำเติม โทษก็จะหนักกว่า"

นักกฎหมายรายนี้ แนะนำว่า กรณีดังกล่าว โชเฟอร์ซึ่งอยู่ในฐานะลูกจ้างหรือเจ้าของสินค้า มีสิทธิ์ปกป้องสินค้าของตัวเองได้  

"ไม่ว่าจะต่อสู้ขัดขวาง แต่กรณีที่ขัดขวางไม่ได้ เพื่อความปลอดภัย เราสามารถบันทึกภาพ เสียง และไปแจ้งความภายหลังได้ ในความเห็นของผม คดีลักษณะนี้สมควรให้มีการดำเนินคดีเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะอย่าลืมว่าถ้าเราปล่อยให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนก็จะรู้สึกว่าทำได้ และไม่มีความผิด เพราะไม่มีใครดำเนินคดีกับเรา มันก็จะกลายค่านิยมที่ไม่ดีต่อไป"

พฤติกรรมฉกฉวยทรัพย์สินของผู้ประสบเหตุ นอกจากจะเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมผู้ที่เดือดร้อนแล้ว ยังผิดกฎหมายด้วย ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นตราบาปอันน่าอับอายที่ติดอยู่ในใจเราไปชั่วชีวิต


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ชำแหละพฤติกรรม มนุษย์สเปโต รถคว่ำ ฉกของกลับบ้าน

view