สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ตำรวจจราจรสุด ดราม่า ยันเปอร์เซ็นต์ใบสั่งจี๊บจ๊อยแค่เป็นค่าเทอม-ค่านมลูก ประชดเลิกกฎหมายจราจรเลยดีมั้ย

ตำรวจจราจรสุด“ดราม่า”ยันเปอร์เซ็นต์ใบสั่งจี๊บจ๊อยแค่เป็นค่าเทอม-ค่านมลูก ประชดเลิกกฎหมายจราจรเลยดีมั้ย

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

.....ตำรวจ จราจรสุด “ดราม่า”ยันเปอร์เซ็นต์ใบสั่งจี๊บจ๊อยแค่เป็นค่าเทอม ค่านมลูก “ประชด”ถ้ามีตังค์จะจ้างหยุดงานทั่วประเทศ แถมให้แก้กฏหมายยกเลิกใบขับขี่ ใครใคร่อยากทำอะไรบนถนนเชิญตามสบาย เผย น.1 คนใหม่ “พลาด”ลงสมุดเยี่ยมกล่าวหา ร.ต.ต.อายุ 53 คุมด่านแล้วไถ ถูกลูกน้องรุมด่าเละต้องรีบออกมาขอโทษ
       
       “เกียรติตำรวจของไทย เกียรติวินัยกล้าหาญมั่นคง ต่างซื่อตรงพิทักษ์สันติราษฎร์นั้น ถึงตัวจะตายก็ช่างมัน มิเคยคำนึงถึงชีวัน เข้าประจัญเหล่าร้ายเพื่อประชา ฯลฯ....” 13 ตุลาคม 2558 วันตำรวจบรรจบครบอีกวาระหนึ่ง “บิ๊กเกรียน”ขอนำมาเปิดหัวคอลัมน์ก่อน “เขย่า”วงการสีกากีกันตามปกติ.....
       
       00000.....กลายเป็นประเด็นร้อนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเกิดกระแสต่อต้านมาตรการกวดขันวินัยจราจรของ “หมาต๋า”โดย “กบฏ”หลังพวงมาลัยไม่ยอมไปจ่ายค่าปรับถึง 6 แสนรายจากยอดใบสั่ง 1 ล้านงานนี้ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.คนที่ 11 คงได้กลิ่นถึงกับชัก “ใบเหลือง”เตือนให้ลูกน้องเพลา ๆ มือลงหน่อย ก่อนกลุ่มมวลชนจะล่ารายชื่อ 3.5 หมื่น “รุกฆาต”ขอให้ยกเลิกระบบแบ่งเปอร์เซ็นต์ใบสั่ง - เลิกตั้งด่านลอยทั่วประเทศ และเน้นตั้งด่านเพื่อป้องกัน-ปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด วันก่อน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาประกาศยกเลิกด่านลอย - ด่านผีทั่วประเทศ หากประชาชนพบเจอที่ไหนให้แจ้ง 1197 หรือเฟซบุ๊ก - ทวิตเตอร์ชื่อ “รายงานสภาพการจราจร”รับประกัน “โป๊ะเชะ”เห็นดีกันแน่ๆ.....
       
       00000.....ต่อไปนี้ไม่มีด่านลอยให้เห็นอีกต่อไป ถามว่า “ด่านลอย” คืออะไรคำตอบคือด่านทำมาหารับทานของตำรวจเลว ๆ บางคน เป็นด่านตรวจตั้งขึ้นตามใจฉัน มักเลือกจุดลับตาง่ายต่อการ “ตบตี”ชาวบ้าน ปกติ ทุกด่านจะต้องมีนายตำรวจระดับสัญญาบัตรคอยควบคุมพร้อมติดรายชื่อแสดงให้เห็น กฎ กติกา มารยาท ยุค “บิ๊กแป๊ะ”หัวหน้าด่านต้องเป็นระดับสารวัตร ตั้งด่านที่ไหนต้อง ว.แจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ “บิ๊กเกรียน” เห็นดีด้วย แต่ข่าวว่าเกิดคลื่นใต้น้ำ มีตำรวจส่วนหนึ่งไม่พอใจ ใครเป็นใครไม่มีตัวตนแต่ลองอ่านจาก“ไลน์”กลุ่มตำรวจระบายความในใจว่า....
       
       00000.....จุดประสงค์ของการตั้งด่านจราจรไม่ใช่ต้องการค่า ปรับครับ อย่าเข้าใจผิด....มันคือการกวดขันให้ประชาชนทำตามกฎจราจร ก็อย่างที่ท่านเห็นบ้านเมืองเราวินัยจราจรเป็นอย่างไร ผมคงไม่ต้องแจกแจงไม่งั้นหน้าเฟซฯ คงเขียนไม่พอ ถ้าท่านไม่สะดวกใจชำระค่าปรับลองเสนอแก้ไขกฎหมายบัญญัติการลงโทษเป็นอย่าง อื่น เช่น ใช้ไม้เรียวตีก้นเหมือนเด็ก ๆ ดีมั้ยครับ บางท่านสอบถามผมทำไมตำรวจจราจรเมืองนอกไม่เห็นมีตั้งด่านจราจรเหมือนเมือง ไทย ?....
       
       ตอบง่าย ๆ เลยครับ...ก็ประชาชนประเทศอื่นเขาเคารพกฎจราจรไงครับ ยกตัวอย่าง เช่น ใกล้ ๆ บ้านเราก็สิงคโปร์ ไฟแดงหยุดคือหยุด ที่ห้ามจอดคือไม่จอด แท็กซี่ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร ทุกคนทำตามกฎจะให้ตำรวจไปจับใครล่ะครับ? และหากมีใครฝ่าฝืนกฎหมายขึ้นมาประเทศต่าง ๆ เหล่านั้นจะมีบทลงโทษที่เด็ดขาด ติดคุกจริง ปรับกันเป็นแสน....แล้วบ้านเราเป็นไงน่ะครับ ก็แค่คนไม่มีใบขับขี่ ขับรถประมาทบนทางด่วนทำให้คนเสียชีวิตจำนวนมากแต่รอลงอาญา เป็นไงครับ....ลองพิจารณาดู..
       
       แล้วไอ้เงินเปอร์เซ็นต์ที่ ท่านว่า รบกวนท่านศึกษาให้ถี่ถ้วนด้วยครับว่ามันมีเพดานสูงสุดแค่ไหน พวกท่านคงไม่รู้หรอกว่าเงินจำนวนเท่านั้นมันจะกลายเป็นค่านมลูก ค่าเทอมลูก ค่าดูแลพ่อแม่แก่เฒ่า ค่าประทังชีวิตของตำรวจจราจร มันมากมายนักรึ แทบไม่พอด้วยซ้ำ “ไม่มีตำรวจจราจรคนไหนรวยเพราะเงินส่วนแบ่งนี่หรอกครับ” แล้วถ้าผมเอาเงินจำนวนนั้นจ้างพวกท่านให้มาทำหน้าที่ตำรวจจราจรเอามั้ย ครับ??? กับชีวิตที่ต้องตื่นมาอำนวยความสะดวกให้พวกท่าน ตั้งแต่อาทิตย์ยังไม่ขึ้น ลูกตื่นมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อต้องไปยืนดมควันไอเสีย ทนให้พวกท่านดูถูกต่าง ๆ นานา ถ้าผมมีตังค์เยอะผมจะจ่ายเงินจำนวนนี้ให้ตำรวจจราจรทั้งประเทศให้หยุด งานอยู่กับลูกเมีย ไม่ต้องทำงานจะได้ถูกใจพวกท่านดีมั้ยครับ?
       
       ถ้าไม่อยากทำตามกฎหมายจราจรขนาดนั้น วิธีแก้กฎหมายตามหลักนิติรัฐ มีครับ เชิญศึกษาและดำเนินการได้ครับ และไม่อยากทำตามกฎจราจร ผมเสนอให้ยุบกรมการขนส่ง ไม่ต้องมีใบขับขี่ ยกเลิกกฎหมายจราจรไปเลย ใครอยากขับยังไงขับ อยากจอดตรงไหนจอด เด็กแว้นเชิญเต็มที่ รถชนรถเสียแก้ปัญหากันเอง ไม่ต้องสวมหมวกนิรภัย ให้ยกเลิกธุรกิจประกันภัยด้วยครับ ท่านจะให้คนอื่นมาคุ้มครองท่านทำไมในเมื่อท่านยังไม่สนใจสังคมส่วนรวม และอย่าเรียกร้องโวยวายถ้ารถติดเพราะพวกท่านไร้วินัยจราจรกันเอง แต่ผมขอย้ำว่า คนดี ๆ ที่ทำตามกฎหมายไม่เห็นเค้าเดือดร้อนกับการทำงานของตำรวจแม้แต่นิดเดียว และคนที่เคารพกฎหมายคือประชาชนส่วนใหญ่ .....
       
       00000....นี่คือ “ความในใจ” ตำรวจจราจรระบายออกมาถึงขนาดนี้ “บิ๊กเกรียน”ขอโมเมตั้งตนเป็นตัวแทนประชาชนมีคำตอบให้พี่น้องตำรวจจราจร(ไทย )คิดเป็นการบ้าน อย่างน้อยประชาชนกับตำรวจ ไงก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน “ฆ่าไม่ตาย ขายไม่ขาด”เวลาเดือดเนื้อร้อนใจ เวลามีภัยใก้ลตัวชาวบ้านก็ต้องรีบแจ้นไปหาตำรวจทั้งนั้น แต่ปัญหาการจราจรมันเรื้อรัง หมักหมมมาช้านานไม่มีใครหน้าไหนออกมาแก้ไขอย่างจริงจังกันเสียที....หลาย อย่างที่ระบุมานั้นเป็นความจริง แต่บางเรื่องก็มีคำถาม และมีคำตอบของมัน เช่น คนไม่มีใบขับขี่ ขับรถประมาทบนทางด่วนมีคนตายจำนวนมาก แต่ไม่รับโทษ อันนี้อย่าว่าแต่ท่านเลย “บิ๊กเกรียน”เชื่อว่าคนไทยทั้งชาติก็ยังสงสัย “คาใจ”และยอมรับกันไม่ได้ ปัญหาจราจรมันจึงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เพียงตำรวจเท่านั้นยังมีส่วนอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น กระทรวงคมนาคม มหาดไทย สำนักนายกฯ ยุติธรรม คือมันต้องว่ากันยาว ๆ “บูรณาการ”กันทั้งระบบ แต่ไม่เห็นมีใครขยับเขยื้อน แม้แต่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “พหูสูต”ประเทศไทยที่รู้ทุกเรื่อง พูดทุกเรื่อง ยังไม่เคยแวะเวียนกับปัญหานี้เลย.....
       
       00000....นั่นเพราะอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือปัญหาการจราจรสยามประเทศเป็นเพียงแค่เรื่อง “รถติด”และคนแก้ก็คือตำรวจ - กทม. ทั้งที่จริงมันต้องมากกว่านั้น ส่วนข้อกล่าวหาโยนกันไป มาระหว่างชาวบ้านกับตำรวจ โดยฝ่ายหนึ่งถูกตราหน้าเป็นจอมมักง่าย อีกฝ่ายเป็นจอมไถ “บิ๊กเกรียน”คนผ่านโลกมามาก (อีกแล้ว) มองด้วยความเป็นธรรม บรรดาคนใช้รถใช้ถนนนั้นล้วน 100 พ่อ 1,000 แม่ “หญิง-ชาย”บางคนมีความแสบสันไม่แพ้กัน ส่วนตำรวจไม่ว่าประทวน หรือสัญญาบัตร หากขาดจิตสำนึกถ้ามีโอกาสก็ “งาบ”ด้วยกันทั้งนั้น ปัญหาอยู่ที่เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างไรไม่ให้เกิดการรีดไถ ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก หรืออะไรที่พอจะว่ากล่าวตักเตือน หากสามารถกระทำได้ ท่านก็ต้องมีจิต “เมตตา”แก่ประชาชน พิจารณาเหตุเฉพาะหน้าด้วยมุมมองของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”มากกว่า “ผู้พิฆาตสันติสุข”....ขอเพียงแค่นี้แหละ.....
       
       00000.....ส่วนอื่น ๆ ตำรวจต้องแสดงความโปร่งใสประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมป้าย สัญญาณต่าง ๆ ให้ชัดเจน เหมาะสม เช่น ป้ายกำหนดความเร็วในที่ชุมชน หรือถนนไฮเวย์ ก่อนเข้าชุมชนควรเตือนกันอย่างไรให้คนขับได้ตั้งตัว วิธี บังคับใช้กฎหมายแบบตั้งกล้องแล้วส่งใบสั่งไปตามบ้านมัน “โคตรมักง่าย” ส่อความตื้นเขิน หรือ “เจตนาดี”ในการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนเรื่องเปอร์เซ็นต์ใบสั่งที่เป็นปัญหาอัดอั้นตันใจกันอยู่นั้น “บี๊กเกรียน”ขอตำหนิตำรวจระดับสูงทุกคน ตั้งแต่ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ลงมาถึงบรรดา “ผู้บัญชาการ” ทุก ๆ หน่วย ทำไมไม่กล้าแจงตัวเลขให้สังคมได้รับรู้ รายละเอียดต่าง ๆ ระบุมาว่าใครได้กี่เปอร์เซ็นต์ ปี ๆ หนึ่งมีใครได้กันบ้าง จะ มาอ้อนวอนสังคมให้เห็นใจ อันนี้ “บิ๊กเกรียน”ว่าไม่แฟร์ ค่านม ค่าเทอม ค่าดูแลคนแก่คนเฒ่า “ประชาชน”หาเช้ากินค่ำเขาก็เหมือนคุณตำรวจจราจรนั่นแหละ แต่หนักกว่าเพราะไม่มีสวัสดิการ หรือชาวบ้านไม่มีความจำเป็นอย่างพวกท่าน แถมด้วยเรื่องเสียสละตื่นแต่อาทิตย์ไม่ขึ้น ต้องทนตากแดดสูดควันพิษ “บิ๊กเกรียน”เห็นใจแต่อย่าเอามาทวงบุญคุณกันบ่อยเพราะท่านได้เลือกอาชีพนี้ แล้ว คนที่ท่านควรตำหนิ หรือทวงถามก็คือบรรดา “เจ้านาย” ทั้งหลายที่แอบขอเอาเปอร์เซ็นต์ใบสั่งด้วย.....
       
       00000.....พวกนี้กินข้าวร้อน - นอนห้องแอร์ทำงานก็ห้องแอร์ วันๆ “ทำห่าน”อะไร แค่คิดให้สวัสดิการดี ๆ แก่ลูกน้องก็ทำไม่ได้ พี่น้องตำรวจจราจรควรมองแบบนี้ หยุดมองประชาชนคนใช้รถใช้ถนนเป็นเหยื่อ เป็นตัวหารายได้เพื่อมาจุนเจือครอบครัวท่านเสียทีเพราะเขาก็มีลูกเมีย มีความจำเป็น มีความเดือดร้อนไม่ต่างอะไรกับพวกท่าน....สรุปกรุณา อย่า “ดราม่า”เรื่องกวดขันวินัยการจราจร เรื่องรีดไถ เรื่องเปอร์เซ็นต์ใบสั่ง เรื่องสวัสดิการตำรวจจราจร อย่าเอามาเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่งั้นชาตินี้หรือชาติหน้าไม่มีวันแก้อะไรได้.....
       
       00000.....เห็นท่วงท่า “เจ้าพ่อนครบาล”คนใหม่ “บิ๊กเกรียน”ชักไม่แน่ใจ เมื่อ พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.มอบหมายหน้าที่ให้พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ทำหน้าที่ดูแลการจราจร และปราบปราม หวังว่าพอ “ทีมงาน”เข้ามาพร้อมเพรียงคงแบ่งกันใหม่นะเพราะแค่ปัญหาจราจรใน กทม.ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว แถมพ่วงปราบปรามเข้าไปอีกมันจะเละไปน่ะซิ.....
       
       00000.....ว่าไปแล้ว “รองดุลย์”ถือเป็นมือเก๋า มีความเชี่ยวชาญชำนาญยุทธการจราจรนเป็นอย่าดี แต่ “บิ๊กเกรียน”ขอติงว่า “ล้น”มากไปนิด อย่างผลงานที่ผ่านมากำหนดอายุรถ 7-10 ปีห้ามเข้าชั้นใน กทม.- ตั้งรางวัลนำจับสินบนใบสั่งรายละ 1 หมื่นบาท ล่าสุดเมื่อพ่ายแพ้ต่อข้อเสนอให้กรมการขนส่งฯ ระงับต่อภาษีรถยนต์แก่บรรดาผู้ไม่ยอมไปเสียค่าปรับใบสั่ง เตรียมผลักดันออกกฎหมายเพิ่มโทษมากขึ้นจนถึงจำคุก.....ท่ามกลาง เสียงเรียกร้องจากประชาชนให้เลิกรีดไถ เลิกเปอร์เซ็นต์ใบสั่ง เมื่อเป็นยักษ์มีตระบอง “รองดุลย์”ประเดิมด้วยการประกาศเดินหน้า “ล็อกล้อ”ทั่วกรุงเทพฯ “บิ๊กเกรียน”ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น แต่เตือนด้วยความห่วงใยว่าเมื่อ “ล็อก”แล้วอย่าแกล้งประชาชนให้เดือดร้อนด้วยการทำงานที่ล่าช้า ลำพังเสียเงินก็แย่อยู่แล้ว แต่กรุณาอย่าให้เสียเวลาไปด้วย แค่ผิดกฎจราจรมิได้เป็นโจรผู้ร้ายอะไร....
       
       00000.....พลาดแล้วรีบออกมาขอ“อภัย” สถานการณ์ความไม่พอใจอาจเบาบางไปบ้าง กรณี พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ลงบันทึกสมุดตรวจเยี่ยม สน.บางรัก ระบุว่า “อย่าให้นายร้อย 53 ปีเป็นหัวหน้าชุดตั้ง ว.43 เองเพื่อป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์” ปรากฏว่าเรียกเสียงฮือฮาอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะโลกโซเชียลฯ เจ้าตัวต้องรีบออกมาขออภัย ยกว่าในฐานะเป็นตำรวจ เป็นลูกตำรวจ รักอาชีพตำรวจ ไม่คิดดูถูกคนอื่น เชื่อว่านายร้อยอายุ 53 ปีมีคนดีมากกว่า.....
       
       เฮ้ย!? “บิ๊กเกรียน”ขออภัยท่าน น.1 ไว้ล่วงหน้าเช่นกัน การเรียกศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชา กรุณาใช้ทั้งพระเดชและพระคุณควบคู่กันไป แม้จะขอโทษขอโพยกันไปแล้วแต่ถือว้าเป็นการประเดิมที่ “ไม่สวย” ใครดูถูกก็ไม่เจ็บเหมือนตำรวจด้วยกันเอง และยิ่งเป็น “เจ้านาย” อันเป็นความหวังใหม่แค่เพียงสตาร์ท “สติ”แทบไม่เหลือแล้ว “บิ๊กเกรียน”สะกิดให้ดูอดีต ผบช.น.ที่สง่างามสมคุณค่าต้อง พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ไม่จำเป็นต้องดีเด่นจนดมความสะอาดได้ แต่ยังติดตาตรึงใจประชาชนและลูกน้องมาจนถึงทุกวันนี้....เรื่องด่ากราด มาตรการเด็ด ทำท่าจะเลียนแบบ “บิ๊กตู่”อย่าทำกันเลย โดยเฉพาะตำแหน่ง น.1 ซึ่งยังต้องอาศัยความร่วมมือจากลูกน้องทุกฝ่าย....วันนี้ตั้งหลักใหม่ทำไง ให้ “ได้ใจ”ลูกน้องดีกว่าถูกพวกนั้น “แอบด่า”นะจะบอกให้ 00000
       


เห็นด้วยมั้ย? ตร.ท่านว่ารถคันนี้ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน แถมเขียนใบสั่งไม่ลงตราประทับสน.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เห็นด้วยมั้ย? ตร.ท่านว่ารถคันนี้ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน แถมเขียนใบสั่งไม่ลงตราประทับสน.

       เรียกว่ามีออกมาเรื่อยๆ สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยฉพาะที่เกี่ยวข้องกับจราจรกับบรรดาคนใช้รถโดยทั่วไปที่มักจะมีความเข้าใจ ไม่ค่อยจะตรงกันกระทั่งกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่เรื่อยๆ
       
        ล่าสุดก็มีสมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อ "ราเชน เป็บซี่ จันทร์ใส" ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่าเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมารถตนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.บางเสาธง เขียนใบสั่งด้วยข้อหา "ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน" พร้อมกับโพสต์ภาพรถให้เพื่อนชาวเฟซบุ๊กได้ช่วยกันพิจารณาว่าเป็นไปตามข้อ กล่าวหาหรือไม่

       โดยนอกจากเรื่องของข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าตัวยังระบุด้วยว่าในใบสั่งนั้นยังไม่มีตราประทับของสน.อีกต่างหาก ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กได้เข้ามาแสดงความเห็นโดยอ้างอิงคำจากนาย ตำรวจท่านหนึ่งที่ระบุว่าใบสั่งที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีตราประทับของสถานี ตำรวจเจ้าของพื้นที่ และใบสั่งจะต้องไม่มีการระบุจำนวนเงินเอาไว้ หากผิดไปจากนี้ถือว่าเป็นใบสั่งปลอม ให้ขยำทิ้งได้เลย...

เห็นด้วยมั้ย? ตร.ท่านว่ารถคันนี้ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน แถมเขียนใบสั่งไม่ลงตราประทับสน.


"ส่วนแบ่งค่าปรับจราจร"... ยิ่งเลิกยิ่งรีดไถ?

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ 

เมื่อ 3.5 หมื่นรายชื่อของประชาชน นำโดย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้พิจารณายกเลิก “ด่านลอย” เพราะเล็งเห็นว่าไม่มีประโยชน์ และหากจะเป็นการตั้งด่าน ก็ขอให้เป็นด่านที่มุ่งหวังเพื่องานอาชญากรรม

วันนี้กลายเป็นความสำเร็จอย่างงดงาม หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศให้ยกเลิกด่านลอยทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทว่ายังมีข้อเสนอที่ไล่หลังมาติดๆ นั่นคือ แนวคิดการ"ยกเลิกการเแบ่งเปอร์เซ็นต์ของราคาค่าปรับใบสั่งจราจร" ที่อัตราเดิมอยู่ที่ 40% จะเข้ากระเป๋าของตำรวจ โดยขอให้ยกเลิกทิ้งอย่างถาวร ด้วยเหตุผลว่าเพื่อเรียกศรัทธาความเชื่อมั่นในตัวตำรวจกลับคืนมาสู่ประชาชน

คำถามอยู่ตรงที่ว่า แนวคิดดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ในสังคมไทย และหากเป็นจริงจะช่วยลดปัญหาการรีดไถได้จริงหรือ

ปนัดดา ชำนาญสุข ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยป้องกันอุบัติภัยทางถนน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มองว่า ชมรมช่วยเหลือเหยื่อฯ อาจจะไม่เข้าใจระบบของตำรวจจราจรที่ถ่องแท้

“ต้องไปมองจุดที่ว่าเงินค่าปรับของตำรวจจราจรนั้น ที่ถูกส่งไปยังท้องถิ่น หรือที่กรุงเทพมหานคร เงินจำนวนมหาศาลตรงนี้ถูกนำไปใช้อะไร แล้วเกิดประโยชน์หรือไม่ เพราะประชาชนไม่รู้ และเชื่อว่าชมรมช่วยเหลือเหยื่อฯ ก็ไม่รู้อย่างแท้จริง จึงมีข้อเสนอที่ผิดหลักเช่นนี้ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ปนัดดา มองว่า เมื่อไม่เข้าใจจึงมีการเสนอความคิดในเชิงลบ จริงๆ แล้วส่วนแบ่งค่าปรับของตำรวจจราจรนั้นควรจะยังคงมีอยู่ เพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีระบบตรวจสอบที่ถูกต้องและเข้มงวด หากจะให้ยกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับไปเลยนั้น ตำรวจจะต้องหันมารีดไถอย่างหนักหน่วงมากกว่านี้แน่นอน

“ถ้าเขาไม่มีส่วนแบ่ง ก็จะไม่ทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แล้วรถราบนท้องถนนก็จะมีปัญหามากขึ้น อีกทั้งหากไม่มีส่วนแบ่งการรีดไถก็จะยิ่งหนักหน่วง ไม่ได้เป็นการเรียกศรัทธาของประชาชนคืนมาแม้แต่น้อย ดังนั้นมันต้องแก้ให้ตรงจุด ต้องให้หัวหน้าจราจรแต่ละโรงพักเข้มงวด ตรวจสอบวินัยผู้ปฏิบัติอย่างจริงจัง การตั้งด่านลอยเองก็เช่นกัน ทุกวันนี้จากงานวิจัยพบว่าตำรวจส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบพฤติกรรมของตำรวจบางกลุ่มที่ตั้งด่านกันเองเพราะถือว่าผิดวินัยร้ายแรงด้วย ดังนั้นต้องทำจุดนี้ให้เข้มแข็ง ต้องเอาผิดให้ชัดเจน จะแก้ตรงจุดมากกว่าการไปยกเลิกส่วนแบ่ง”

นักวิชาการรายนี้เชื่อว่า ข้อเสนอดังกล่าวของชมรมช่วยเหลือเหยื่อฯ จะไม่ได้รับการตอบสนองจากตำรวจอย่างแน่นอน

อีกมุมจากฝั่งของตำรวจ พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจจราจร ที่ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของจราจรกรุงเทพฯ บอกถึงเรื่องนี้ว่า จะมีเงินหรือไม่มีเงินรางวัลส่วนแบ่ง ตำรวจก็ยังทำงานเหมือนเดิม เพราะเราไม่ใช่มีอาชีพตำรวจแต่คือตำรวจอาชีพ เพียงแต่ว่าตำรวจจราจรนั้นมีโอกาสเสี่ยงเจ็บป่วยจากปัญหาสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป ทั้งมลพิษ อากาศเพราะต้องยืนปฏิบัติงานในพื้นที่ สวัสดิการก็น้อยดังนั้นเงินส่วนนี้ก็จะนำมาใช้เพื่อดูแลตัวเองและจะได้ต่อยอดไปทำงานตามหน้าที่ต่อไป

“เรื่องส่วนแบ่งค่าปรับมันมองคนละมุม ผมถามว่าถ้าเราให้ข้าวเขากินอิ่ม เขาจะไปขอคนอื่นกินอีกหรือ เรื่องเงินส่วนแบ่งผมคิดว่าตำรวจจราจรไม่มีความเห็น หากนายเห็นว่าไม่ดีจะให้ยกเลิกก็ไม่มีปัญหาอะไร”

พ.ต.อ.เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า แผนการปรับการตั้งด่านขณะนี้เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้นแล้ว โดยเรานำข้อเสนอของชมรมช่วยเหลือเหยื่อฯ มาปรับใช้บางส่วนด้วย ก็เพื่อให้ประโยชน์ตกอยู่กับประชาชนมากที่สุด ส่วนด่านแอบต่อไปจะไม่มีแล้ว แบบที่ว่าแอบซุ่มเดินรอบคันจะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป จะมีเพียงด่านที่มีนายตำรวจควบคุมดูแลเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา หากใครฝ่าฝืนก็จะลงโทษอย่างเด็ดขาด

“ทั้งนี้ต้องอยู่ที่วินัยการใช้ถนนของประชาชนด้วย ถ้าเคารพกฎกันตำรวจก็ไม่ต้องกวดขันมาก แต่ถ้าไม่เคารพแล้วตำรวจไม่ดำเนินการ กรุงเทพฯก็คงจะสนุกนะ ผมมองว่าทุกฝ่ายต้องร่วมมือ และวันข้างหน้าผู้ใช้ถนนกับตำรวจอาจจะกลับมารักกันได้อีกครั้ง” พ.ต.อ.เอกรักษ์ ตั้งความหวัง


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ตำรวจจราจร สุดดราม่า ยันเปอร์เซ็นต์ใบสั่ง จี๊บจ๊อย แค่เป็นค่าเทอม-ค่านมลูก ประชด เลิกกฎหมายจราจร ดีมั้ย

view