องค์การอนามัยโลก′ หนุนกม.ยาสูบฉบับใหม่ ห่วงบริษัทข้ามชาติแทรกแซง
จากประชาชาติธุรกิจ
องค์การอนามัยโลกยื่นหนังสือถึงนายกฯ ชื่นชมไทยควบคุมยาสูบได้ดี ประกาศหนุนเต็มที่ ร่างกฎหมายฉบับใหม่ แนะหาแนวทางลดการนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมาย หวั่นถูกแทรกแซงจากธุรกิจข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.วีรา ลุยซ์ ดา คอสต้า เอ ซิลวา ประธานคณะเลขาธิการในกรอบอนุสัญญาว่าการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก และคณะ เข้าหารือร่วมกับ พญ.มยุรา กุสุมภ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี สธ. นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ภูษิต ประคองสาย ผู้อำนวยการสำนักการสาธารณสุขระหว่างประเทศ เกี่ยวกับมาตรการควบคุมยาสูบของไทย พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยสนับสนุน พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ รวมทั้งได้ยื่นหนังสือสนับสนุนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง สธ.ด้วย
พญ.มยุรา กล่าวภายหลังว่า ทางผู้แทนองค์การอนามัยโลกได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่มีมาตรการควบคุมยาสูบ ได้ดี พร้อมสนับสนุนการออก พ.ร.บ.ยาสูบฉบับใหม่ ที่ขณะนี้อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย และเสนอให้หาแนวทางลดการนำเข้าบุหรี่ที่ผิดกฎหมายอีกด้วย
นพ.ภูษิต กล่าวว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวอยู่ในวาระการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เนื้อหาสาระสำคัญยังคงควบคุมเรื่องสื่อประชาสัมพันธ์ การใช้พริตตี้ ดารา หรือการ์ตูนมาเป็นสื่อหรือเป็นช่องทางสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มีนัยสื่อว่า บุหรี่ไม่เป็นอันตราย รวมถึงห้ามบริษัทนำเข้า จำหน่าย และผลิตบุหรี่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับองค์กร ก่อนหน้านี้กลุ่มเกษตรกรชาวไร่ยาสูบได้ออกมาคัดค้านเพราะเกรงว่าจะได้รับผล กระทบนั้น ยังต้องมีการทำความเข้าใจกันต่อไป ซึ่งต้องแก้ปัญหาด้วยการส่งเสริมอาชีพใหม่ เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งเคยแก้ปัญหาเรื่องการปลูกฝิ่น ต้องทำอย่างจริงจัง นอกจากนี้กฎหมายยังห้ามหน่วยงานราชการเข้าไปข้องเกี่ยวกับบริษัทบุหรี่ ทั้งนี้จะสรุปผลการหารือเสนอให้รัฐมนตรี สธ.รับทราบในสัปดาห์หน้าและนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
พญ.ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานของประเทศไทยเรื่องมาตรการควบคุมบุหรี่ โดยเฉพาะการขยายภาพคำเตือนเป็นร้อยละ 85% แต่ยังมีงานที่ต้องทำตามกรอบอนุสัญญาอีกมาก แต่เป็นห่วงเรื่องการแทรกแซงทางกฎหมายจากธุรกิจบุหรี่ข้ามชาติ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทยควรให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพโดยเฉพาะเยาวชนมากกว่า การค้าระหว่างประเทศ และเป็นห่วงสถานการณ์ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ประเทศไทยควรรักษาไว้ ทั้งนี้ในฐานะตัวแทนองค์การอนามัยโลก ขอแสดงจุดยืนในการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ กฎหมายฉบับนี้จะเพิ่มความเข้มแข็งและปกป้องประชาชนไทยจากพิษภัยของยาสูบ
"บริษัทบุหรี่ข้ามชาติจะมีกลยุทธ์ในการแทรกแซงและต่อต้านกฎหมายในประเทศต่างๆ 4 มาตรการ คือ 1.หาทางให้การออกกฎหมายใหม่อ่อนลง 2.พยายามต่อต้านการออกกฎหมายใหม่ด้วยการสนับสนุนการเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ 3.พยายามทำให้กระบวนการเกิดความล่าช้า และ 4.หาทางให้กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันอ่อนลง ซึ่งประเทศไทยก็กำลังประสบปัญหาแทรกแซงทางกฎหมายเช่นกัน" พญ.ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าว
นสพ.มติชนรายวัน
ฟิลลิปมอร์ลิสไทยฯยกคำวินิจฉัยWTO โต้รบ.ไทย ไม่มีอำนาจฟ้อง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ฟิลลิปมอร์ลิสไทยฯยกคำวินิจฉัย WTO โต้รัฐบาลไทย ระบุไม่มีอำนาจฟ้อง กระตุกให้คำนึงกฎองค์การค้าโลก
นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการแผนกบรรษัทสัมพันธ์ของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส ไทยแลนด์ ชี้แจงกรณีที่รัฐบาลไทยจะมีการฟ้องร้องกับฟิลลิปมอร์ลิส ว่า ยังคงมีการนำเสนอข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อพิพาท ระหว่างประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้ตัดสินโดยองค์การการค้าโลก (World Trade Organization) (WTO) ในเรื่องการดำเนินการของประเทศไทยในการกำหนดราคาศุลกากรสำหรับสินค้าของ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด (สาขาประเทศไทย) (PMTL) หากประเทศไทยดำเนินการฟ้องจะเป็นการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับคำวินิจฉัย ของ WTO
นอกจากนี้ ยังมีความคลาดเคลื่อนคือ กฎเกณฑ์ของ WTO นั้นแท้จริงแล้วมีผลกับหน่วยงานราชการของประเทศไทยทุกหน่วยงานรวมถึงทุกการ กระทำและการงดเว้นการกระทำของรัฐบาลไทย ดังนั้น การดำเนินคดีกับบริษัทฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้องภายใต้กฎหมายอาญาของประเทศไทย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลกนาย พงศธร กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ ประเทศฟิลิปปินส์จึงมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านเกี่ยวกับข้อกล่าวหาในคดี อาญาและ หรือตามด้วยการดำเนินการฟ้องร้องใดๆ ที่มีต่อ PMTL และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยฟิลิปปินส์สามารถอาศัยช่องทางเร่งด่วนในกระบวนการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยใน ชั้น WTO ได้ และในขั้นต่อไปฟิลิปปินส์ก็จะมีสิทธิ์ในการดำเนินการในลำดับถัดมาตามกระบวน การระงับข้อพิพาทของ WTO ได้ทันที อาจจะเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายจากประเทศไทยหรืออาจเลือกบังคับใช้มาตรการ การลงโทษทางการค้า (trade sanctions) ต่อประเทศไทยได้
นายพงศธร กล่าวว่า อีกประเด็นที่มีความไม่ถูกต้องแต่กลับถูกยกขึ้นมารายงานซ้ำๆ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนให้มีการดำเนินการฟ้องร้องต่อบริษัทฯ คือ การอ้างว่าบริษัทฯ ชำระภาษีขาดไป 68,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการประมาณตัวเลขโดยใช้ราคานำเข้าของ PMTL ไปเปรียบเทียบกับราคาสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) แต่การกำหนดราคาศุลกากรภายใต้กฎหมายทั้งศุลกากรไทยและองค์การการค้าโลก คือ การเปรียบเทียบระหว่างราคาสำหรับสินค้าที่อยู่ในสายการจัดจำหน่ายแบบเสีย อากรและในสายจัดจำหน่ายแบบปลอดอากรนั้นไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกัน
อีกทั้งการขายสินค้าแบบปลอดอากรนั้นยังไม่ต้องมีการเสียภาษีสรรพสามิตใน ประเทศอีกด้วย ยืนยันว่าการดำเนินการในการกำหนดราคาศุลกากรและราคานำเข้าที่ PMTL สำแดงนั้นถูกต้องตามกฎหมายไทยและกฎเกณฑ์ด้านการกำหนดราคาศุลกากรที่เกี่ยว ข้องของ WTO“ผมเชื่อว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะต้องถูกกล่าวหาว่าร้ายอย่างรุนแรง อย่างเช่นที่ต้องประสบอยู่มาเป็นเวลากว่า 10 ปี เรายังคงรอการพิจารณาทบทวนข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลดังกล่าวนี้และเชื่อเป็น อย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะรักษาคำมั่นในสิ่งที่ตนเองได้ยืนยันอย่างเปิดเผยกับ ประเทศฟิลิปปินส์และประชาคมการค้าระหว่างประเทศว่าตนจะดำเนินการให้สอดคล้อง กับพันธกรณีที่มีอยู่ต่อ WTO” นายพงศกรกล่าว
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน